การถ่ายภาพเบื้องต้น | Basic Photography

จากการไปศึกษาการถ่ายภาพเบื้องต้น จะได้รู้ถึงด้านวิทยาศาสตร์และด้านศิลปศาสตร์มารวมกัน การถ่ายภาพจึงหมายถึง การสร้างภาพเพื่อสื่อความหมาย ความรู้สึก อารมณ์ รวมทั้งทัศนะคติ โดยใช้กระบวนการทางวิทยาศาสตร์นั่นคือการปล่อยให้แสงสว่างสะท้อนจากวัตถุผ่านเข้ามา กระทบกับวัสดุไวแสงและนำวัสดุไวแสงนั้นไปผ่านกระบวนการสร้างภาพให้ปรากฏออกมา หากเป็นระบบฟิล์มแบบเก่าเราไปล้างกับน้ำยาและมีภาพปรากฏออกมา หากเป็นระบบดิจิทัลคือการแปลงสัญญาณไฟฟ้าออกมาเป็นภาพ เป็นความหมายของการถ่ายภาพที่รวบรวมทั้งในส่วนของ วิทยาศาสตร์และศิลปะเข้ามาร่วมมือกัน ประเภทของกล้องถ่ายภาพประเภทของกล้องถ่ายภาพสามารถที่จะจำแนกออกเป็น 4 ประเภทใหญ่ๆ1) กล้องฟิล์ม เป็นกล้องที่ได้รับความนิยมมาตั้งแต่สมัยการถ่ายภาพยุคแรกไปจนถึงยุคปัจจุบัน ซึ่งปัจจุบันยังมีผู้ใช้งานอยู่แต่อาจจะเฉพาะเจาะจงอยู่ในกลุ่มที่อนุรักษ์นิยมหรือเป็นงานอดิเรก กล้องฟิล์มสามารถจำแนกตามขนาดของฟิล์มที่ใช้กับกล้อง 2) กล้องถ่ายภาพแบบทันที (Instant Camera) หรือทั่วไปเรียกว่า กล้อง Polaroid (โพลารอยด์) เป็นกล้องถ่ายภาพที่ใช้ฟิล์มและกระดาษอัดภาพผสมน้ำยาเรียบร้อยแล้วบรรจุภายในกล้อง โดยหลังจากกดปุ่มบันทึกภาพแล้วกลไกในกล้องจะทำให้ฟิล์มเลื่อนผ่านลูกกลิ้ง ลูกกลิ้งจะรีดน้ำยาให้กระจายไปทั่วฟิล์มและทำปฏิกิริยาสร้างภาพขึ้นบนกระดาษ เมื่อลอกฟิล์มกับกระดาษออกจากกันจะทำให้เห็นภาพที่บันทึกไว้ กระบวนการทั้งหมดนี้จะเกิดขึ้นภายในเวลาเพียง 2-3 นาที เท่านั้น กล้องชนิดนี้จึงเหมาะสำหรับการถ่ายภาพที่ต้องการความสะดวกรวดเร็ว เช่น การถ่ายภาพติดบัตร การถ่ายภาพท่องเที่ยวสถานที่ต่าง ๆ หรือใช้สำหรับถ่ายภาพเพื่อทดสอบสภาพแสงและการจัดองค์ประกอบภาพก่อนถ่ายจริงในสตูดิโอ 3) กล้องดิจิทัล (Digital Camera) เป็นกล้องที่กำลังได้รับความนิยมในยุคปัจจุบัน โดยแทนที่จะบันทึกภาพลงในฟิล์มภาพที่ถ่ายจะถูกแปลงเป็นไฟล์ข้อมูลดิจิทัลและบันทึกลงหน่วยความจำในกล้อง ช่างภาพสามารถเห็นภาพได้ทันทีจากจอภาพของกล้องหรือต่อผ่านคอมพิวเตอร์ ไม่ต้องผ่านกระบวนการล้างฟิล์มและอัดลงบนกระดาษเหมือนกล้องฟิล์ม อุปกรณ์สำคัญที่ทำหน้าที่รับภาพและแปลงเป็นไฟล์ข้อมูลนี้เรียกว่า “ตัวรับภาพ” หรือ “อิมเมจเซ็นเซอร์” (Image […]

ภาวะออฟฟิศซินโดรม (Office Syndrome) จากการทำงาน

ภาวะออฟฟิศซินโดรม (Office Syndrome)  การทำงานโดยนั่งอยู่ในอิริยบถเดิมๆ เป็นเวลนาน หรืออยู่ในอิริยบถที่ไม่เหมาะสม เช่น พนักงานออฟฟิศที่ต้องนั่งอยู่หน้าจอคอมพิวเตอร์ตลอดเวลา ภาวะออฟฟิศซินโดรม เป็นภาวะยอดฮิตสำหรับคนทำงานสำนักงาน โรคนี้จะเกิดจากการนั่งทำงานหน้าหน้าคอมนานๆ ยาวติดต่อกันเป็นเวลาหลายชั่วโมง อยากรู้ว่ตนเองกำลังป่วยเป็นโรคออฟฟิสซินโดรมหรือไม่ ให้สังเกตอาการดังต่อไปนี้ -การนั่งหน้าคอมพิวเตอร์หรือทำงานอย่างใดอย่างหนึ่งด้วยท่าทางซ้ำๆ ต่อเนื่องเป็นเวลานานมากกว่า 6 ชั่วโมงต่อวัน – ท่าทางในการทำงานที่ไม่เหมาะสม เช่น การนั่งหลังค่อม ท่าก้มหรือเงยคอมากเกินไป – สภาพแวดล้อมหรืออุปกรณ์ในการทำงานไม่เหมาะสม – สภาพร่างกายที่อาจส่งผลต่ออาการเจ็บป่วย เช่น ภาวะเครียดจากงาน การอดอาหาร การพักผ่อนไม่เพียงพอ ซึ่งส่งผลให้ร่างกายต้องแบกรับความตึงเครียดปราศจากการผ่อนคลาย  กายบริหารเพื่อป้องกันภาวะออฟฟิศซินโดรม (Office Syndrome) 1. พักสายตา หันหน้าไปทางทิศทางอื่นที่ไม่ใช่จอคอมพิวเตอร์หรือบริเวณที่มีแสงจ้า หลับตาลง นับ 1-10 ช้าๆ หลังจากนั้นลืมตาขึ้น  2. ยืดกล้ามเนื้อต้นแขน นั่งอยู่บนเก้าอี้ประสานมือบิดกลับต้นแขนทั้ง 2 ข้างออกไปข้างหน้าให้มากที่สุด ในขณะที่พยายามยืดหลังให้ตั้งตรงไว้ นับ 1-10 ช้าๆ ผ่อนแขนกลับมาแล้วซ้ำอีกครั้ง จากนั้นลุกขึ้นยืนตรง กางขาเล็กน้อยประสานมือบิดกลับเหมือนเดิม […]

กวาดบ้านกันเถิดจะเกิดผล

การกวาดบ้านคือการทำความสะอาดบ้านเรือนของเราให้น่าอยู่ ในวันหนึ่ง เราอยู่ในศูนย์บรรณสาร ฯ เกิน 8 ชั่วโมง การกวาดบ้านร่วมกันคือการทำบุญเพื่อให้เกิดศิริมงคลกับตัวเองและหน่วยงาน 5 ส คือผลพลอยได้อย่างหนึ่ง ซึ่งจะส่งผลในทางตรงกับวิถีการทำงานของเรา แต่ถ้าให้สมบูรณ์ต้องมีงานบุญประกอบด้วย แล้วมากวาดบ้านกันอีกนะ Visits: 93

“เปลี่ยนมุมมองใหม่ๆ ในการจัดการตัวเองเพื่อทำงานให้มีความสุขกับการทำงาน”

รู้หรือไม่ว่าการบริหารจัดการตนเองได้อย่างมีประสิทธิภาพ สามารถออกแบบและเลือกใช้เครื่องมือในการบริหารจัดการงาน, การจัดการเวลา, การจัดการความเครียด และการจัดการการสื่อสาร มาใช้ในการวางแผนการทำงานของตนเอง และทำงานร่วมกับผู้อื่นได้ประสบความสำเร็จอย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้นซึ่งมีเกร็ดความรู้ นำมาฝากนะคะ การบริหารจัดการตนเอง (Self-management) คืออะไร และสำคัญอย่างไร           ในสภาวะที่ทุกอย่างเป็นไปได้ด้วยดี เราก็มีอารมณ์ที่ดี เช่น มีความสุข สนุก ส่งผลให้แสดงพฤติกรรมที่ดีออกมา เช่น ทำงานอย่างกระตือรือร้น พูดจากับผู้อื่นอย่างสุภาพ ให้กำลังใจผู้อื่น อันนี้ยังไม่ใช่การบริหารจัดการตนเองนะคะ การบริหารจัดการตนเอง คือ เมื่อเราเจอเหตุการณ์หรืออยู่ในสภาวะที่ทุกอย่างไม่ได้เป็นไปตามที่เราต้องการ เรายังบริหารจัดการตนเองได้ จัดการความเครียด ความโกรธ ความตื่นเต้น และมีพลังบวกแม้ในสถานการณ์ที่เลวร้าย การบริหารจัดการตนเองช่วยให้กลับมาเริ่มต้นใหม่ได้ แม้จะเจอเรื่องราวแรงๆ มากระทบ บันได 5 ขั้นสู่ความสำเร็จในการทำงาน ขั้นที่ 1 เข้าใจมุมมอง คือ สิ่งที่สำคัญในการพัฒนาตนเอง มีบุคลิกภาพอยู่ 2 แบบ แบบที่ 1 เรียกว่า บุคลิกภาพแบบเป็นคนที่เชื่อว่า ตัวเองสามารถกำหนดชีวิตทิศทาง และอนาคตของตนเองได้   กับแบบที่ 2 เรียกว่า […]

แปลงข้อมูลจำนวนมากๆ ให้เข้าใจง่ายด้วย Data Visualization

เป็นการนำข้อมูลดิบ มาแปลงเป็นรูปภาพเพื่อทำให้คนอ่านเข้าใจง่าย เห็นภาพรวมของข้อมูลดิบนั้นได้รวดเร็วภายในระยะเวลาที่จำกัด  Visits: 24

เลือกเครื่องขยายเสียงให้เหมาะกับงาน

การขยายเสียง การประกาศสาธารณะ ระบบเสียงประกาศ หรือ Public Address System (PA System) คือระบบที่ขยายและกระจายเสียงที่เป็นสัญญาณไฟฟ้า เช่น จากไมโครโฟน เข้าสู่เครื่องขยายเสียง ไปออกที่ลำโพง ซึ่งใช้เพื่อให้บุคคลสามารถพูด หรือสื่อสารในที่สาธารณะได้ ระบบเสียงประกาศสาธารณะมักใช้ตั้งแต่สถานที่ขนาดเล็ก เช่น ลานกลางแจ้ง หอประชุม และร้านค้า ร้านอาหาร และรวมไปถึงภายในอาคารและสถานที่สาธารณะต่างๆ  ใช้ในการเผยแพร่ข้อมูลไปยังกลุ่มคนจำนวนมาก ไม่ว่าจะเป็นข่าวสาร การเตือนภัย เล่นดนตรีสดหรือการบันทึกเสียง ซึ่งระบบเสียงประกาศสาธารณะโดยทั่วไปจะขยายสัญญาณเสียงให้อยู่ในระดับความดังที่เพียงพอในการสื่อความได้ ประเภทของเครื่องขยายเสียงที่นิยมใช้งานในปัจจุบัน 1.โทรโข่ง นิยมใช้ในงานที่มีคนไม่เกิน 20 คน หรือในสถานที่ไม่มีไฟฟ้า ยกตัวอย่างเช่น ประชุมกลุ่มลูกเสือ หรือกิจกรรมสันทนาการอื่น ๆ 2. เครื่องขยายเสียงแบบหูหิ้ว เหมาะสำหรับใช้ในงานที่อยู่ในห้องประชุมมีผู้ฟังไม่เกิน 30 คน ซึ่งขึ้นอยู่กับขนาดและกำลังขยายของเครื่องซึ่งมีรายละเอียดแตกต่างกัน โดยที่อาจจะมีไฟฟ้า หรือใช้ชนิดที่มีแบตเตอรี่ภายในก็ได้ ซึ่งคุณภาพเสียงที่ได้จะดีกว่าใช้โทรโข่ง 3. ชุดเครื่องขยายเสียงเอนกประสงค์ เป็นเครื่องขยายเสียงขนาดเล็กที่ออกแบบมาให้ใช้งานได้สะดวก ไม่จำเป็นต้องใช้เจ้าหน้าที่ในการควบคุมเครื่อง เหมาะสำหรับใช้ในงานประชุม แถลงข่าว งานดนตรีโฟล์คซอง ที่มีเครื่องดนตรี […]

เรียนออนไลน์แบบ Relax สบายๆ ที่มุม Projection

มุมโปรเจ็คชั่น Projection corner เป็นพื้นที่บริการหนึ่งของศูนย์บรรณสารและสื่อการศึกษา ดูแลบริหารการจัดการโดยฝ่ายส่งเสริมการเรียนรู้และให้บริการการศึกษา เพื่อรองรับการใช้งานประชุม Present งาน และ Discuss ของกลุ่มนักศึกษา ที่ต้องการใช้สื่อประกอบการอภิปราย บรรยาย มีโสตทัศนูปกรณ์รองรับการใช้สื่อดิจิทัลต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นเครื่องเปิดสื่ออิเล็กทรอนิกส์ DVD/VCD/CD คอมพิวเตอร์ Desktop สำหรับเปิดไฟล์ข้อมูล พร้อมซอฟต์แวร์ทันสมัยในการท่องอินเตอร์เน็ตในการเข้าถึงข้อมูลจาก Browser ต่างๆ มีจอ LCD เชื่อมต่อสัญญาณกับระบบเครื่องเสียงที่ทันสมัย ทำให้เป็นมุมยอดนิยม Top hit อีกมุมของกลุ่มนักศึกษาที่ต้องการเปิดฉายหนังร่วมกับกลุ่มเพื่อน หรือเชื่อมต่อกับระบบประชุม Online ในการเรียนผ่านหน้าจอ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงรอยต่อ เปิดเทอมเรียนออนไลน์ และเรียน Onsite จากที่บ้าน ของมหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์ กลุ่มนักศึกษาก็จะมาเชื่อมระบบสัญญาณกับอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ส่วนตัวนั่งเรียนในพื้นที่แห่งนี้ นับว่าเป็นการบริการ Workspace อีกรูปแบบหนึ่งของศูนย์บรรณสารและสื่อการศึกษา Visits: 32

ใช้ Social Media อย่างสร้างสรรค์กันเถอะ

บทเรียนออนไลน์ที่น่าสนใจของ Thai Mooc อีกรายวิชาคือ การใช้สื่อสังคมออนไลน์อย่างสร้างสรรค์ โดย คณะศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร จะช่วยให้ทุกท่านได้พัฒนาศักยภาพของตัวเองอย่างต่อเนื่อง รายวิชานี้ แบ่งเนื้อหาเป็น 5 บท ประกอบด้วย  บทที่ 1 ภาพรวมของสื่อสังคมออนไลน์  บทที่ 2 รู้จักสื่อสังคมออนไลน์  บทที่ 3 กฎหมายที่เกี่ยวกับการใช้สื่อสังคมออนไลน์  บทที่ 4 การกระทำความผิดบนสื่อสังคมออนไลน์  และบทที่ 5 การรู้เท่าทันสื่อ วันนี้จะขอสรุปเนื้อหาโดยรวม เชิญติดตามกันได้เลยค่ะ ภาพรวมของสื่อสังคมออนไลน์ เป็นอย่างไร สื่อสังคมออนไลน์ ( Social Media ) หมายถึง สื่อข้อมูล สารสนเทศ ภาพ มัลติมีเดีย หรือสื่อดิจิทัล สื่ออิเล็กทรอนิกส์ที่ใช้ช่องทางการติดต่อแบบสามารถโต้ตอบหรือแบ่งปันสื่อร่วมกันผ่านระบบอินเทอร์เน็ต โทรศัพท์มือถือ ทั้งนี้บุคคลทั่วไปสามารถสื่อสาร นำเสนอ แบ่งปันและเผยแพร่ข้อมูลออกสู่สาธารณะ โดยใช้คอมพิวเตอร์ส่วนบุคคล โน๊ตบุ๊ก แท็บเล็ต หรือสมาร์ทโฟน ทำให้เกิดเครื่อข่ายสังคมขึ้นจากการติดต่อร่วมกันของบุคลลทั่วโลก สื่อโซเชียลหรือสื่อออนไลน์ […]

กิจกรรมการเรียนรู้

การจัดกิจกรรมการเรียนรู้ ยุคนิวนอมอล ในช่วงเกิดการโรคระบาด มีการเปลี่ยนแปลงมากมาย พร้อมรองรับการเปลี่ยนแปลง ในยุคนี้ Visits: 35

การจัดการสารสนเทศสำนักงาน

งานสำนักงานถือว่ามีความสำคัญต่อองค์การไม่ว่าองค์การขนาดเล็กหรือขนาดใหญ่ จะต้องจัดให้มีส่วนที่เป็นสำนักงาน เพื่อทำหน้าที่อำนวยความสะดวก ดำเนินการเอกสาร การติดต่อต่าง ๆ

เทคนิคการประหยัดพลังงานในสำนักงาน

โดยดำเนินการใน 3 ส่วนที่สำคัญ 1) การปรับเปลี่ยนอุปกรณ์ไฟฟ้าที่สามารถช่วยประหยัดพลังงานมากขึ้น 2) การรณรงค์ปลูกจิตสำนึกการประหยัดพลังงานภายในสำนักงาน 3) การประยุกต์ใช้พลังงานทดแทน โดยการติดตั้งแผงวงจรโซล่าเซลล์ ปัจจุบันต้นทุนค่าใช้จ่ายในเรื่องของการใช้พลังงานไฟฟ้านับเป็นสิ่งที่ทุกหน่วยงานทั้งภาครัฐและเอกชนต้องดำเนินการควบคุมเพื่อลดค่าใช้จ่ายในส่วนนี้ เพราะนับวันความต้องการใช้พลังงานยิ่งเพิ่มสูงขึ้น เนื่องจากอุปกรณ์สำนักงานส่วนใหญ่ต้องใช้กระแสไฟฟ้าเกือบทั้งหมด ยิ่งหากเป็นหน่วยงานที่ให้บริการด้วยแล้วค่าใช้จ่ายส่วนนี้นับว่าเป็นค่าใช้จ่ายที่สูงเป็นอันดับต้น ๆ ของงบประมาณทั้งหมดภายในหน่วยงาน ซึ่งค่าพลังงานไฟฟ้าที่ใช้สูงและสิ้นเปลืองเป็นอันดับต้น ๆ ของอุปกรณ์ไฟฟ้าส่วนใหญ่จะเป็นเครื่องปรับอากาศ ประมาณ 50-70 % ของอุปกรณ์ไฟฟ้าทั้งหมดภายในสำนักงาน ซึ่งในบทความนี้จะนำเสนอเทคนิคการลดค่าใช้จ่ายในส่วนของพลังงานไฟฟ้าภายในสำนักงานเพื่อแลกเปลี่ยนเรียนรู้จากประสบการณ์การดำเนินงาน ตั้งแต่เริ่มค่าใช้จัดทำเสนอโครงการส่งเสริมการประหยัดพลังงานภายในอาคาร จนถึงกระบวนการประเมินและสรุปผล ซึ่งจะเรียงเป็นข้อตามลำดับขั้นตอนตามหลัก PDCA ดังภาพ ซึ่งในแต่ขั้นตอนของการปฏบัติงานจะมีความสำคัญและยุ่งยากแตกต่างกันออกไป เทคนิคที่สำคัญของการดำเนินงานคือ 1. การปรับเปลี่ยนอุปกรณ์ที่ประหยัดพลังงานงานได้มากขึ้น เช่น ปรับเปลี่ยนระบบปรับอากาศที่มีประสิทธิภาพสูง และประหยัดพลังงานค่าไฟฟ้าได้มากขึ้น การปรับเปลี่ยนหลอดไฟฟ้ามาเป็นหลอด LED ทั้งหมดซึ่งสามารถประหยัดพลังงานได้ประมาณ 50% 2. การรณรงค์การปลูกจิตสำนึกในการประหยัดพลังงานและสร้างกระบวนการมีส่วนร่วมของบุคลากรภายในหน่วยงาน เพื่อก่อให้เกิดความร่วมมือร่วมแรงร่วมใจในการขับเคลื่อนเป้าหมาย และจัดทำสติกเกอร์รณรงค์ หรือคลิปรณรงค์ต่าง ๆ เพื่อกระตุ้นและปลูกจิตสำนักในการประหยัดพลังงาน และประเด็นที่สำคัญที่สุดคือ การติดตาม ประเมินผลรายไตรมาสเพื่อประเมินเป้าหมาย 3. การใช้พลังงานทดแทนเพื่อใช้แทนพลังงานไฟฟ้าส่วนนี้หน่วยงานสามารถลดค่าไฟฟ้าได้ 100% แต่จะมีต้นทุนของการลงทุนในการซื้ออุปกรณ์ในการติดตั้งครั้งแรก ซึ่งสามารถคำนวณต้นทุนและประเมินค่าไฟฟ้าที่ประหยัดได้กับต้นทุนที่ลงไปภายในกี่ปีถึงจะคืนทุน […]

จัดการกับพื้นที่ว่างอย่างไรให้สร้างสรรค์

จัดการกับพื้นที่ว่างอย่างไรให้สร้างสรรค์ พื้นที่ว่าง หมายถึง บริเวณว่างโดยรอบวัตถุ (Object) เรียกว่า พื้นที่ว่างทางลบ (Negative Space) และบริเวณว่างที่ตัวของวัตถุเรียกว่า พื้นที่ว่างทางบวก (Positive Space) ในการออกแบบงานต่างๆ จะต้องคำนึงถึงช่วงระยะ ให้มีความสัมพันธ์กัน ในการออกแบบงานประเภท 2 มิติ จะต้องกำหนดกรอบพื้นที่ (Space Frame) เป็นรูปสี่เหลี่ยม สามเหลี่ยม วงกลม หรือรูปร่างอิสระก่อน แล้วจึงจะสร้างรูปร่างรูปทรงตามที่ต้องการลงในกรอบพื้นที่อีกทีหนึ่ง  พื้นที่ว่าง 3 มิติ พื้นที่ว่างชนิดนี้เกิดขึ้นจากผลของการวางตำแหน่ง และขนาดของรูปร่าง รูปร่างที่มีขนาดใหญ่วางอยู่ส่วนหน้าของกรอบพื้นที่ จะรู้สึกว่าอยู่ใกล้ รูปร่างที่เล็กกว่า และวางอยู่ส่วนบนของกรอบพื้นที่ จะรู้สึกว่าอยู่ไกล ความใกล้และไกลนี้คือระยะหรือความลึก ซึ่งเป็นลักษณะของมิติที่ 3 จะเห็นได้ว่า ระยะ-ความลึก (Distance-Depth) มีความเกี่ยวเนื่องกันกับพื้นที่ Die cut & Retouch with Adobe Photoshop. All that pictures from […]

Back To Top