Day: September 13, 2022

การถ่ายภาพเบื้องต้น Basic Photography

การถ่ายภาพเกิดจากศาสตร์ของการถ่ายภาพเกิดจาก 2 ศาสตร์คือ ศาสตร์ทางด้านฟิสิกส์และศาสตร์ทางด้านเคมีพวกสารใวแสงกับวัสดุใวแสงทำให้ปรากฎภาพออกมาศาสตร์ทางด้านฟิสิกส์เกิดขึ้นเมื่อ 400 ปีก่อนคริสศักราชโดยนักปราชชื่อ อริสโตเติล ได้เขียนบันทึกไว้ว่า ถ้าเราปล่อยให้แสงผ่านเข้าไปในช่องเล็กๆในห้องมืดแล้วถือกระดาษขาวให้ห่างจากช่องรับแสงประมาณ 15 เซ็นติเมตรจะปรากฎภาพบนกระดาษมีลักษณะภาพจริงหัวกลับแต่เป็นภาพที่ไม่ชัดเจนนักหลักการคือมีห้องที่มืดแล้วมีรูในห้องติดกระดาษสีขาวภาพจะไปปรากฎขึ้นทำให้เกิดการสร้างห้อง ออบสคิวล่า หรือว่าห้องมืด แล้วใช้จิตกรร่างภาพตามตัวแบบที่ส่องเข้ามาและต่อไปใด้พัฒนาห้องให้มีขนาดเล็กลงแล้วเอาโต๊ะไปวางแล้วใช้กระดาษวางข้างบนแล้วแสงส่งลงมาจากรูบนห้องทำให้เกิดภาพขึ้นต่อมามีวัฒนาการที่มากขึ้นในปี ค.ศ. 1676 โดยพัฒนาเป็นกล้องรีเฟร็กซ์ขึ้นมากล้องจะเป็นกล่องสี่เหลี่ยมแล้วเอากระจกสะท้องแสงใส่เข้าไปทำให้เห็นภาพในกล่องได้แต่ยังบันทึกภาพไม่ได้ต่อไปเป็นศาสตร์ทางด้านเคมีโดยคิดค้นโดยนักวิทยาศาสตร์ให้สารไวแสงทำให้เกิดสีออกมาได้ซึ้งอยู่ในช่วงปี ค.ศ. 1727- ค.ศ. 1777 เป็นช่วงคิดค้นสารไวแสงขึ้นมา ต่อมาปี ค.ศ. 1825- ค.ศ.1840 เป็นช่วงที่ถ่ายภาพกำลังได้รับความนิยมช่วงนี้จะมีบุคคลสำคัญอยู่ 3 ท่านที่คิดค้นการถ่ายภาพถาวรไม่ถูกลบเลือนไปคือ โจเซฟ นีเซโฟร์ เนียพซ์ เป็นชาว ฝรั่งเศษ ภาพแรกที่เนียพซ์ถ่ายข้างหน้าต่างห้องทดลองโดยบันทึกลงในวัตถุไวแสงทำให้ภาพติดทนนานไม่หายไปโดยภาพนี้เปิดให้แสงเข้ามา 8 ชั่วโมงแล้วนำวัถุไวแสงไปล้างทำให้ภาพติดถาวร บุคคลสำคัญคนที่ 2 คือ หลุยดาแกส์เป็นชาวฝรั่งเศษ ดาแกร์กับเนียพซ์ช่วงแรกไม่ได้ทำงานด้วยกันต่างก็คิดค้นให้ภาพคงทนถาวรได้พอทำงานระยะหนึ่งทั้งคู่ได้รวมมือกันคิดค้นโดยเอาการค้นพบของแต่ละคนมาผสมประสานกันเพื่อให้ภาพดียิ่งขึ้นแต่พอสักพักเนียพซ์ก็เสียชีวิตไปดาร์แกร์ก็ได้คิดค้นด้วยตัวคนเดียวต่อไปทำให้การบันทึกภาพจาก 8 ชั่วโมงเหลือ 30 นาทีใด้สำเร็จ บุคลที่ 3 ที่ค้นพบกระบวนการ Copy ภาพคือ วิลเลียม ฟอกซ์ ทัลบอท ได้คิดค้นเป็นต้นกำเนิดภาพฟิล์มสามารถถ่ายภาพครั้งเดียวแล้วมาทำหลายๆภาพได้โดย […]

การปรับเกณฑ์ในมิกเซอร์อนาล๊อกและดิจิทัลมิกเซอร์

ในมิกเซอร์ปุ่มปรับเกณฑ์มีความสำคัญมากไม่ว่าจะเป็นมิกอนาล๊อกหรือดิจิทัลมิกเซอร์จะต้องมีปุ่มนี้ในการปรับความแรงสัญญาณขาเข้าให้มีความพอดีไม่มากจนเกิดสัญาณผิดเพี้ยนและไม่น้อยเกินไปจนเกินสัญญาณรบกวนในระบบหรือว่า noise นั่งเองผู้ปรับแต่งหรือ sound engineers ควรให้ความสำคัญตรงจุดนี้ไม่งั้นงานเสียงที่ทำอาจจะล่มเสียหายได้เสียงจะออกมาไม่ดีหรือว่าจะระบบเสียงท่านจะมีเสียงรบกวนที่ไม่น่าฟังจนเกิดความรำคาญในการฟังได้ เทคนิกการปรับเกนณ์ทั้งมิกอนาล๊อกเป็นเรื่องที่สำคัญมากซึ่งหากปรับมากไปก็จะทำไห้สัญญาณเสียงมีความผิดเพี้ยนเกิดอาการเสียงแตกหรือว่า Distrotion เทคนิกในการปรับต้องดูระดับสัญาณเสียงไฟ Led ที่มิกเซอร์จะมีไฟ 3 สีคือสีเขียวสีแดงและสีเหลืองคล้ายกับไฟจราจรตาม 4 แยกเลยคือสีเขียวคือระดับสัญญาณปกติส่วนสีเหลืองให้ระวังหรือว่า head room ของระบบก่อนที่สัญญาณเสียงจะคลิปส่วนสีแดงคือสัญญาณคลิปแล้วหรือเกิดการผิดเพี้ยนแล้วให้ปรับปุ่มลดสัญญาณ Gain ลงไม่งั้นเสียงจะแตกพร่าได้ ระดับความดังที่แสดงในมิกเซอร์อนาล๊อกจะมี scale บอกเป็นระดับความดังมีหน่วยเป็น dbu ซึ่งค่าระดับที่ 0 dbu คือค่าระดับความดังที่ดีที่สุดจึงใช้เป็นค่าอ้างอิงของมิกเซอร์อนาล๊อกทุกยี่ห้อจะใช้ค่านี้ทุกยี่ห้อดังนั้นผู้ทำระบบเสียงควรปรับ gain สัญญาณให้อยู่แถว 0 dbu หรือว่าบวกลบไม่เกิน+3 หรือว่า -3 dbu ถึงจะเป็นสัญญาณที่เหมาะสมมีความแรงของสัญญาณที่พอดี ระดับความดังในมิกเซอร์ดิจิทัลจะมีความดังบอกระดับเสียงมีหน่วยเป็น dbfs หรือว่า digital full scale ซื่งระดับความดังเสียงที่ใช้ในการอ้างอิงคือ -20 dbfs หรือเท่ากับ 0 dbu ทางฝั่งมิกอนาล๊อกนั่นเองดังนั้นผู้ปรับเสียงหรือว่า sound engineers ควรปรับเสียงให้ led uv […]

ไมค์สายดูดปากแก้ไขอย่างไร

ไมค์สายเป็นไมค์รูปแบบหนึ่งที่มีติดตั้งในห้องเรียน ห้องประชุมสัมมนา รวมไปถึงในงานการแสดงสันทนาการความบันเทิง ปัญหาหนึ่งที่พบเจอคือ ไมค์สายดูดปาก ทำให้ผู้ใช้งานหวาดระแวงในการจับไมค์พูด วันนี้เรามาดูสาเหตุและวิธืแก้ไขปัญหาดังกล่าว สาเหตุไมค์สายดูดปาก เพราะระบบเสียงของเราไม่ได้ลงกราวด์หรือระบบกราวด์ของอาคารไม่มีระบบกราวด์หรือมีระบบกราว์ดแต่ใช้งานไม่ได้ ทำให้มีกระแสไฟฟ้าไหลในระบบรวมถึงไมค์ของเราด้วย เวลาเราจับไมค์กระแสไฟฟ้าก็จะไหลผ่านตัวเราเพื่อหาทางลงดิน จึงทำให้เรารู้สึกสัมผัสได้ถึงอาการไฟดูดหรือ ไมค์ดูดปากนั่นเองครับ วิธีแก้ไขไมค์สายดูดปาก วิธีแก้ไขง่ายๆหาสายไฟเปล่ามาหนึ่งเส้น พันติดกับหัวน๊อตของระบบเสียง จะเป็นมิกเซอร์ หรือเพาเวอร์แอมป์ก็ได้ ปลายสายไฟอีกด้านให้พันติดกับตะปูหรือแท่งเหล็กแล้วตอกลงดินให้ลึกๆ หรือตอกลงที่ชื้นๆ จะดีมาก หรือจะใช้วิธีกลับปลั๊กของระบบเสียงก็จะช่วยได้ระดับหนึ่ง ถ้าระบบไฟในอาคารมีกราวด์แนะนำให้ใช้ปลั๊กที่มี 3 ขา เพื่อให้กราวด์ไปลงในระบบของไฟบ้านก็จะปลอดภัยและหมดปัญหาอาการไฟดูด หรือไมค์ดูดปากได้แล้วครับ ผู้ใช้งานสามารถป้องกันตัวเองได้โดย -ใช้ไมค์ลอยทดแทนไมค์สาย – นำฟองน้ำหุ้มหัวไมค์สายขณะใช้งาน -สวมรองเท้าทุกครั้งขณะใช้งาน หลังจากเรารู้สาเหตุและวิธีแก้ไขจากปัญหาไมค์สายดูดปากแล้วท่านสามารถใช้งานไมค์สายได้อย่างปลอดภัย ที่มา:AT prosound-shop Visits: 280Pongsuwan Kaewthong

อันตรายจากไฟรั่ว!

ไฟรั่วนั้นเป็นอาการที่กระแสไฟฟ้าสามารถรั่วไหลออกจากวงจรไฟฟ้าไปสู่ภายนอกได้ เช่นผิวของสายไฟ โลหะของเครื่องใช้ไฟฟ้า ซึ่งสามารถเกิดได้จากในหลากหลายสาเหตุ อาทิเช่น การเดินระบบไฟฟ้าที่ไม่ได้มาตรฐานเพียงพอ การใช้งานอุปกรณ์ไฟฟ้าที่ไม่ได้มาตรฐาน รวมถึงอุปกรณ์ไฟฟ้าที่เสื่อมภาพลง วิธีตวจเช็คว่าบ้านมี ไฟรั่วหรือไม่ ด้วยตัวเอง ปิดเครื่องใช้ไฟฟ้าทุกชนิด โดยที่ไม่ต้องสับคัทเอาท์หรือเบรกเกอร์ลง สังเกตที่ตรงมิเตอร์ของที่บ้านว่าแผ่นจานหมุนอยู่หรือไม่ ถ้ายังหมุนอยู่ เช็คอีกครั้งว่า ปิดไฟทุกดวงหมดหรือไม่ แต่ถ้ามั่นใจแล้วว่า ปิดไฟทุกดวงแล้ว แสดงว่ามีกระแสไฟฟ้ารั่วเกิดขึ้นในบ้านของคุณนั่นเอง อย่าวางใจแม้มิเตอร์จะหยุดหมุนแล้ว คุณจะต้องจดหมายเลขมิเตอร์และจดจำตำแหน่งแผ่นหมุนว่าหยุดอยู่ที่ตำแหน่งใด หลังจากนั้นทิ้งไวประมาณ 1 ชั่วโมง แล้วกลับมาตรวจสอบดูอีกรอบ ! ถ้าทุกอย่างเป็นเหมือนเดิม แสดงว่าไม่มีกระแสไฟฟ้ารั่วเกิดขึ้นภายในบ้านของคุณ กรณีที่ มีกระแสไฟฟ้ารั่ว แต่ไม่มั่นใจว่ารั่วมาจากเครื่องใช้ไฟฟ้าใด ต้องใช้ไขควงวัดไฟแตะไปที่เครื่องใช้ไฟฟ้า หากพบว่ามีแสงปรากฏขึ้นมาที่ไขควงแสดงว่าเกิดไฟฟ้ารั่ว ให้หยุดใช้ทันที และนำเครื่องใช้ไฟฟ้าไปซ่อมให้ปกติ 4 จุดสังเกตสัญญาณเตือนว่ามีไฟฟ้ารั่ว ค่าไฟสูงขึ้นผิดปกติ เครื่องตัดไฟทำงานบ่อย   เครื่องตัดไฟรั่ว เป็นอุปกรณ์ที่ทุกบ้านจำเป็นจะต้องมี โดยอุปกรณ์ตัดไฟจะมีให้เลือก  2 แบบ คือ · RCCB ใช้ตัดไฟรั่วอย่างเดียวเฉพาะจุด· RCBO ใช้ตัดไฟทั้งไฟรั่ว ไฟเกิน ไฟช็อต และไฟฟ้าลัดวงจร แบบครอบครุมทั้งบ้าน3. สัมผัสเครื่องใช้ไฟฟ้าแล้วไฟดูดกรณีที่ติดตั้งสายดินและเบรกเกอร์แล้ว แต่เมื่อมือไปสัมผัสโดน เครื่องใช้ไฟฟ้าแล้วรู้สึกว่าถูกไฟดูดบ่อยๆ […]

3 ขั้นตอนผลิตหนังสั้น

กระบวนการผลิตหนังสั้น (Short Film Production)  ใช้หลักการ 3P ใน ดังนี้ 1. การเตรียมงานก่อนการผลิต (Pre-Production) เป็นการวางแผนการวางโครงเรื่องให้กับงานที่กำลังจะถ่ายทำทั้งหมด การถ่ายทำจะดำเนินไปด้วยดี งานออกมาเรียบร้อยโดยกิจกรรมก่อนการถ่ายทำ มีดังต่อไปนี้ การจัดหาเรื่องราวและเขียนบทเป็นการนำเอาเรื่องราวประเด็นหรือเนื้อหาที่น่าสนใจมาผูกเป็นเรื่องราวแล้ว พัฒนาจนเป็นบทหนัง การเลือกผู้กำกับ ทีมงาน และนักแสดง ซึ่งโดยทั่วไปจะมีผู้อำนวยการผลิตเป็นผู้คัดเลือกผู้กำกับที่เหมาะสมกับแนวทางของหนัง และร่วมกันจัดหา ทีมงานแต่ละฝ่ายที่มีความสามารถในด้านนั้น ๆ และทำงานร่วมกันเป็นทีมได้อย่างดี รวมทั้งคัดเลือกนักแสดงหลักของเรื่องที่มีความเหมาะสมและสามารถแสดงได้อย่างสมบทบาท การกำหนดงบประมาณในการถ่ายทำ เป็นการประมาณวงเงินที่ใช้จ่ายในการถ่ายทำเพื่อให้การบริหาร การเงิน เป็นไปอย่างต่อเนื่อง และราบรื่น การจัดเอกสารการถ่ายทำโดยการวิเคราะห์บทและแยกย่อยออกเป็นเบรกดาวน์ (Breakdown Sheet) คือ เอกสารที่แตกรายละเอียดการถ่ายทำของแต่ละฉาก/ซีน เช่น เลขซีน เรื่องย่อของซีน เวลาการถ่ายทำ สถานที่ นักแสดงและตัวประกอบที่เข้าฉาก อุปกรณ์ประกอบฉาก เป็นต้น หรือเอกสารสรุปอย่าง Scene lists, Set lists, Cast listsเพื่อสะดวกในการแสดงให้เห็นภาพรวมแต่ละองค์ประกอบในการถ่ายท าของหนังทั้งเรื่องซึ่งเอกสารเหล่านี้ จะใช้ในการเตรียมงานร่วมกันของแต่ละฝ่ายให้เข้าใจได้ตรงกันถือเป็นแผนผังของการถ่ายท านั่นเองและยังช่วยในการ บริหารจัดการเรื่องเวลาและงบประมาณในการถ่ายทำ […]

Back To Top