กระดาษ มีอยู่หลายประเภท แต่ละประเภทจะมีคุณสมบัติการใช้งานที่แตกต่างกันออกไป ดังนั้น การทำงานพิมพ์ต่าง ๆ การเลือกกระดาษก็มีความสำคัญเช่นเดียวกัน และต้องเลือกให้เหมาะสมกับลักษณะการใช้งานด้วย ซึ่งในบทความนี้เราจะพาไปดูว่ากระดาษ 3 ประเภทเหมาะกับงานพิมพ์ประเภทใดบ้าง

1. กระดาษอาร์ตการ์ด

กระดาษอาร์ต เป็นกระดาษเนื้อแน่นที่ผ่านการเคลือบผิวให้เรียบ มีทั้งแบบผิวเรียบด้านเดียว และแบบผิวเรียบทั้งสองด้าน สามารถแบ่งแยกย่อยออกไปได้อีกหลายประเภท ทั้งกระดาษอาร์ตมัน กระดาษอาร์ตด้าน กระดาษอาร์ตการ์ด เป็นต้น ซึ่งกระดาษอาร์ตเหมาะกับการพิมพ์สีหรืองานพิมพ์ที่เน้นความสวยงาม เช่น งานพิมพ์โปสเตอร์ โปสต์การ์ด ปกหนังสือ ใบปลิว บรรจุภัณฑ์ และแผ่นพับ เป็นต้น

กระดาษอาร์ตการ์ด (Art Card Paper) เป็นกระดาษเนื้อแน่น มีพื้นผิวที่สามารถทำให้เรียบเนียนทั้งสองด้าน หรือด้านเดียวก็ได้โดยถือเป็นกระดาษที่มีลักษณะพิเศษเฉพาะในตัวเองและสีที่ได้ออกมานั้นจะมีความสด สีสวย กว่ากระดาษชนิดอื่น ทั้งนี้กระดาษอาร์ตการ์ด เป็นกระดาษที่มีลักษณะผิวหน้าคล้ายกระดาษอาร์ต แต่มีความหนาเพิ่มขึ้น โดยจะแบ่งได้อีกเป็น 2 ประเภท ดังนี้

• กระดาษอาร์ตการ์ดมัน 2 หน้า เป็นกระดาษผิวเรียบ และมันเงาเหมือนกันทั้ง 2 ด้าน โดยมีน้ำหนักตั้งแต่ 190-360 แกรม ทั่วไปจะใช้สำหรับงานพิมพ์ประเภท โปสเตอร์ โปสการ์ด ปกหนังสือ แฟ้มเอกสาร ซึ่งสามารถเลือกใช้แกรมได้ตามความชอบ แต่ที่มักนิยมใช้กันจะอยู่ที่ประมาณ 230-260 แกรม
• กระดาษอาร์ตการ์ดมัน 1 หน้า  เป็นกระดาษผิวด้านหน้าเรียบเป็นมันเงา ส่วนด้านหลังจะมีผิวด้าน และหยาบเล็กน้อย โดยมีน้ำหนักตั้งแต่ 190-400 แกรม ซึ่งกระดาษชนิดนี้จึงเหมาะสำหรับพิมพ์งานประเภทกล่องใส่เครื่องสำอางค์ กล่องใส่สินค้าต่าง ๆ ที่ต้องการความแข็งแรง และยังให้ความสวยงามเป็นพิเศษ รวมถึงผิวสัมผัสของเนื้อกระดาษที่เรียบเนียน และให้สีดูสดใส

เหมาะสำหรับงานพิมพ์ปกหนังสือ แคตตาล็อก โบรชัวร์ แผ่นพับ โปสเตอร์ นามบัตร ฯลฯ

2. กระดาษการ์ด

กระดาษการ์ด เป็นกระดาษการ์ดสำหรับเหมาะแก่การทำการ์ด ด้วยการพิมพ์ใส่สี หรือจะเล่น สีได้เต็มที่ สีที่อยู่บนกระดาษ ก็จะเด่นดูอ่านง่าย สบายตาเพราะพื้นหลังหรือแบล็กกราวน์ เป็นสีขาว ทำให้ตัวหนังสือหรือภาพที่ลงไปนั้น ดูเด่นขิ้นมา แล้วจะเป็นการตอบโจทย์ ในการใช้งานได้มากที่สุด กระดาษการ์ดที่ดี ต้องมีความหนา ไม่ยับง่าย ทนต่อความร้อนได้ และรองรับงานได้ หลายแบบ ทั้งพิมพ์ สกรีน หรือ จะเคลือบทอง เคลือบทำปก ก็ตาม เรียกได้ว่า ประโยชน์ หรือวิธีการใช้ ต้องมีความหลากหลาย ถึงจะเรียกได้ว่า คุ้มค่าในการนำมาใช้งานและเพิ่มได้ทั่งคุณค่า และปริมาณงานที่ทำออกมาได้อย่างง่ายดาย และลงตัวที่สุด.

เหมาะกับงานพิมพ์เมนูอาหาร สแตนด์โชว์ ปกหนังสือ และบรรจุภัณฑ์ เพราะกระดาษการ์ด เป็นกระดาษที่มีความหนา และแข็งแรงมาก บางชนิดมีการเคลือบผิวเพื่อเพิ่มความมัน จึงเหมาะกับงานพิมพ์ที่ต้องการความคงทนแข็งแรง และอายุการใช้งานนาน

3. กระดาษคราฟท์สีน้ำตาล

กระดาษคราฟท์ (Kraft Paper) คือ กระดาษที่ผลิตมาจากเยื่อเคมี (Chemical Pulp) จากกระบวนการคราฟท์ (Kraft Process) เป็นการใช้เทคโนโลยีเพื่อแปรสภาพจากเนื้อไม้มาเป็นเยื่อกระดาษไม้ (Wood Pulp) วิธีการนั้นจะใช้ทั้งสารเคมี และความร้อนเพื่อทำการแยกเยื่อไม้ เราเรียกวิธีการนี้ว่าการกระบวนการคราฟท์ ซึ่งจะทำให้ได้กระดาษที่มีความแข็งแรง คงทน และมีความเหนียวสูง จะมีสีตามเนื้อไม้ที่นำมาใช้ ซึ่งหากต้องการสีที่แตกต่างสามารถนำกระดาษมาฟอกสีขาวก่อนได้ นอกเหนือจากนี้กระดาษคราฟท์ยังมีคุณสมบัติที่ดีกว่ากระดาษชนิดอื่น กระดาษคราฟท์ นอกจากมีคุณสมบัติ ที่เหมาะสมจะทำเป็นบรรจุภัณฑ์ มากมายแล้วนั้น ยังมีข้อดีอีกข้อที่เป็นส่วนช่วยให้คนหันมาสนใจ และเลือกใช้กระดาษชนิดสูงขึ้นนั่นคือ การช่วยลดปัญหาด้านมลพิษด้านสภาวะแวดล้อม หรือหากพูดให้เข้าใจง่าย ๆ กระดาษคราฟท์ เป็นวัสดุที่สามารถนำไปรีไซเคิล (recycle) และนำมาใช้ใหม่ได้ ทำให้ไม่ก่อปัญหาขยะส่วนเกินเพิ่ม เหมื่อนบรรจุภัณฑ์ชนิดต่างๆ เช่น พลาสติก โฟมเป็นต้น ด้วยคุณสมบัติเหล่านี้ กระดาษคราฟท์ จึงนิยมนำมาใช้งานทั้งในด้านอุตสาหกรรม และการขนส่งต่าง ๆ

เหมาะกับงานพิมพ์บรรจุภัณฑ์ กระดาษห่อของ และถุงกระดาษ เพราะกระดาษคราฟท์สีน้ำตาล มีความเหนียว และแข็งแรงกว่ากระดาษธรรมดา สามารถป้องกันแรงอัด และการทิ่มแทงจากการกระทบได้ นอกจากนี้ยังสามารถต้านทานการเปียกน้ำ เปรอะน้ำมัน และการเสียดสีได้อีกด้วย

สรุป

กระดาษมีหลากหลายประเภท และการเลือกกระดาษให้เหมาะกับการใช้งานของงานพิมพ์นั้น ๆ ก็จะยิ่งช่วยให้งานพิมพ์ของคุณ มีคุณภาพ และโดดเด่นมากยิ่งขึ้น

ที่มา :

เลือกกระดาษแบบไหน ให้เหมาะกับงานพิมพ์ ที่คนทำงานพิมพ์ต้องรู้
กระดาษอาร์ตการ์ดคืออะไร เหมาะกับการใช้งานแบบไหนบ้าง
กระดาษคราฟท์ (Kraft Paper) คือ?

Visits: 90

Somsak Pratoomthong

Comments

comments