การคิดสร้างสรรค์และนวัตกรรม

จากการเรียน Thai Mooc วิชา การคิดสร้างสรรค์และนวัตกรรมทำให้ทราบว่าการคิดสร้างสรรค์เป็นสิ่งจำเป็นสำหรับทุกคน เพราะการคิดสร้างสรรค์ช่วยให้เราแก้ปัญหาเดิมด้วยวิธีการใหม่ ช่วยให้มองเห็นโอกาสใหม่ ๆ ความเป็นไปได้ใหม่ ๆ ทำให้ได้สิ่งที่ดีกว่า อีกทั้งยังเพิ่มโอกาสความสำเร็จในการแก้ปัญหา การคิดสร้างสรรค์ไม่ใช่พรสวรรค์แต่อยู่ที่การเรียนรู้และการฝึกฝน และเปิดใจกว้างและยอมรับในมุมมอง หรือโลกทัศน์ใหม่ ๆ

 การคิดสร้างสรรค์ หมายถึง การคิดสร้างสรรค์สิ่งใหม่ ที่ใช้งานได้และเป็นสิ่งที่ไม่เคยมีมาก่อน บางอย่างอาจเป็นความคิดต่อยอดและพัฒนาให้ดียิ่งขึ้นกว่าเดิม ที่จะนำไปสู่การสร้างผลงานใหม่ที่ไม่เหมือนผู้อื่น

การคิดสร้างสรรค์ สามารถเกิดขึ้นได้ในทุกงานทุกองค์กร ไม่ว่าจะเป็นวิธีการทํางาน ความสัมพันธ์หรือแม้แต่การพัฒนานวัตกรรม ล้วนแล้วแต่ต้องมีการคิดสร้างสรรค์เป็นพื้นฐานทั้งสิ้น ซึ่งองค์กรใหญ่ ๆ หลายแห่งที่ประสบความสำเร็จ ก็คือเค้านำความคิดเล็ก ๆ ของบุคลากรมาใช้ในการแก้ปัญหา องค์กรที่ประสบความสำเร็จสูงสุดจะเห็นคุณค่าของพนักงานทุกระดับ สิ่งที่ท้าทายก็คือ จะทำอย่างไรให้บุคลากรยินดีหยิบยื่นความคิดดี ๆ ให้กับองค์กรและองค์กรจะทำอย่างไร ที่จะพัฒนาการคิดเล็ก ๆ เหล่านั้นให้กลายเป็นความคิดสร้างสรรค์ได้

การคิดสร้างสรรค์ ถือเป็นสิ่งใหม่ เป็นการคิดริเริ่มใหม่ ๆ ที่ใช้งานได้ เป็นสิ่งที่ไม่เคยมีมาก่อน และสามารถนำไปใช้ประโยชน์ได้ดีกว่าเดิม

การคิดสร้างสรรค์ เป็นทักษะที่สามารถเรียนรู้ได้ พัฒนาได้และนำไปประยุกต์ใช้ได้กับทุกคน และสามารถพัฒนาได้ด้วยการฝึกฝน ต้องฝึกให้สมองได้คิดสิ่งใหม่ ๆ บ่อย ๆ ฝึกฝนจนเกิดเป็นทักษะที่ติดตัวเราจุดเริ่มต้นของการคิดสร้างสรรค์ก็คือ ต้องเข้าใจว่าความคิดสร้างสรรค์คืออะไร แล้วก็วิเคราะห์สิ่งที่คนหรือเป้าหมายต้องการ เช่น ถ้าต้องการผลิตสื่อเพื่อการนำเสนอ ก็ต้องเข้าใจว่ายุคปัจจุบันเป็นโลกของยุคดิจิทัลใช่ไหม ยุคออนไลน์ ถ้าจะผลิตสื่อ ก็ต้องรู้จัก Platform ที่จะนำเสนอ ว่าปัจจุบันมีช่องทางในการนำเสนอะไรบ้างจะ Online หรือ Offline หรือทั้ง 2 อย่าง แล้ว Content อะไรที่คนยุคดิจิทัลต้องการก็เติมความรู้ที่จะต่อยอดโดยเราต้องมีความรู้พื้นฐานเดิมอยู่เพื่อที่จะต่อยอด การเรียนรู้มันไม่มีที่สิ้นสุดเราสามารถเติมความรู้ เติมไอเดียได้ตลอดเวลา สิ่งสำคัญก็คือต้องฝึกคิดอย่างสม่ำเสมอและเราต้องเอาตัวเองไปอยู่ในสภาพแวดล้อมที่เหมาะสมทำให้เกิดการคิด

ทำไมการคิดสร้างสรรค์จึงสำคัญ ไอสไตน์เคยกล่าวไว้ว่า “จินตนาการสำคัญกว่าความรู้” ความรู้ทำให้ฉลาดขึ้น แต่มันจะเป็นสิ่งที่อยู่คงเดิมอย่างนั้น หากไม่นำความรู้ไปใส่จินตนาการเพิ่มเติม เปรียบเทียบง่าย ๆ ความรู้ก็เหมือนกับปัจจุบัน ขณะที่จินตนาการก็เปรียบเสมือนกับอนาคต ไม่ใช่ว่าความรู้ไม่สำคัญแต่ต้องใช้ควบคู่กันไป ใช้ความรู้ที่มีสร้างจินตนาการแล้วใช้จินตนาการสร้างความรู้ใหม่ เพื่อที่จะได้จินตนาการต่อยอดขึ้นไปอีก

การคิดสร้างสรรค์เป็นจุดเด่นของมนุษย์ ยิ่งในยุคปัจจุบันที่มีการใช้เทคโนโลยี AI เข้ามาแทนที่การทำงานบางอย่างของมนุษย์ โดยมีเป้าหมายเพื่อลดต้นทุนขององค์กร AI นับว่าเป็นเทคโนโลยีที่มีบทบาทสำคัญต่อการใช้ชีวิตของมนุษย์ แต่บางอย่างก็เข้ามาทำให้มนุษย์มีบทบาทน้อยลง เพื่อลดต้นทุน

องค์ประกอบของการคิดสร้างสรรค์

การคิดสร้างสรรค์เป็นความสามารถทางสมอง ในการคิดหลายทิศทาง ซึ่งมีองค์ประกอบ คือ ความสามารถในการคิดริเริ่ม ความคล่องในการคิด ความยืดหยุ่นในการคิด และการให้รายละเอียดในการคิด

จากทฤษฎีโครงสร้างทางปัญญาของกิลฟอร์ด ได้แบ่งองค์ประกอบของการคิดสร้างสรรค์

โดยทั่วไปว่ามี 4 องค์ประกอบ คือ

1. การคิดริเริ่ม หมายถึง ลักษณะความคิดแปลกใหม่ แตกต่างจากความคิดธรรมดา หรือความคิดง่าย ๆ

ที่เป็นความคิดที่เป็นประโยชน์ต่อตนเองและสังคม

2. การคิดคล่องแคล่ว หมายถึง เป็นความคิดในเรื่องเดียวกันที่ไม่ซ้ำกัน ในองค์ประกอบนี้ความคิดจะโลดแล่นออกมามากมาย

3. การคิดยืดหยุ่น หมายถึง ประเภทหรือแบบของความคิด ที่พยายามคิดได้หลายอย่างต่างๆ กัน

หรือความคิดยืดหยุ่น ด้านการดัดแปลงสิ่งต่าง ๆ มาใช้ให้เกิดประโยชน์

4. การคิดละเอียดละออ เป็นความคิดที่ต้องทำด้วยความระมัดระวัง และมีรายละเอียดที่สามารถทำให้

ความคิดสร้างสรรค์นั้นสมบูรณ์ขึ้นได้

การคิดสร้างสรรค์เป็นกระบวนการทางปัญญาระดับสูง ที่ใช้กระบวนการทางความคิดหลาย ๆ อย่างมารวมกัน ซึ่งประกอบด้วยการคิดริเริ่ม คิดคล่องแคล่ว คิดยืดหยุ่นและคิดละเอียดละออ

กระบวนการทํางานของสมองซีกซ้ายและขวา สมองซีกซ้าย จะทำงานเกี่ยวกับข้อมูลที่เป็นคําพูดการวิเคราะห์ข้อมูล นิรนัย ความเป็นเหตุเป็นผล ตรรกะและเส้นตรง ส่วนสมองซีกขวา จะเป็นข้อมูลที่ไม่เป็นคําพูด เช่น ภาพ การสังเคราะห์ข้อมูล อุปนัย ความไม่เป็นเหตุเป็นผล สัญชาตญาณ จินตนาการและความเพ้อฝัน ดังนั้นเพื่อให้เกิดความเป็นผู้ที่มีความคิดสร้างสรรค์มากขึ้น จําเป็นต้องฝึกฝนทักษะที่เกิดจากการใช้สมองทั้งซีกซ้ายและซีกขวาอย่างสมดุล โดยการฝึกการถาม-ตอบ ฝึกการเป็นผู้นํา ฝึกความเชื่อมั่น กล้าแสดงออก ฝึกการรับรู้ปัญหา และแก้ปัญหาได้อย่างเหมาะสมกับสถานการณ์ด้วยตนเอง

กระบวนการสร้างและพัฒนานวัตกรรม

นวัตกรรม คือ สิ่งใหม่ที่เกิดจากการใช้ความรู้ ประสบการณ์ การคิดขั้นสูงและความคิดสร้างสรรค์ เพื่อสร้างให้เกิดผลงาน สิ่งประดิษฐ์ ผลิตภัณฑ์ แนวคิด กระบวนการ กลยุทธ์ เทคนิค วิธีการ หรือเพื่อพัฒนาเปลี่ยนแปลง สิ่งที่มีอยู่เดิมให้ดียิ่งขึ้น จนสามารถนำไปใช้ ให้เกิดประโยชน์ในวงกว้างทางเศรษฐกิจ สังคม หรือจิตใจ

ความแตกต่างของนวัตกรรมกับความคิดสร้างสรรค์ คือ ความคิดสร้างสรรค์นั้นเป็นพื้นฐานสำคัญที่ทำให้นวัตกรรมเกิดขึ้น ความคิดสร้างสรรค์เป็นการคิดแต่ยังเป็นสิ่งที่เป็นนามธรรม ส่วนนวัตกรรมต้องอาศัยกระบวนการสร้างนวัตกรรม ที่จะใช้ความคิดต่าง ๆ ทำให้นวัตกรรมนั้นเป็นรูปธรรม

แนวคิด หลักการในการสร้างนวัตกรรม นวัตกรรมสามารถแบ่งออกได้เป็น 3 ประเภท ได้แก่ Product Innovation  Process Innovation และ Organizational Innovation โดยมีรายละเอียดดังนี้

นวัตกรรมด้านสินค้า คือ การพัฒนาสินค้าใหม่ และการปรับปรุงสินค้าให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น เช่น โทรศัพท์มือถือ รถยนต์ มีนวัตกรรมใหม่ ๆ ที่ทำให้สินค้ามีคุณสมบัติที่ดีขึ้น และสามารถตอบสนอง ความต้องการของลูกค้าได้มากขึ้น

นวัตกรรมด้านกระบวนการ คือ การพัฒนากระบวนการ ปฏิบัติงานรูปแบบใหม่ให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด เช่น เป็นกระบวนการใหม่ที่ทำให้ตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้ดี รวมทั้งการบริหารจัดการสินค้าคงคลังได้อย่างมีประสิทธิภาพ

กระบวนการที่เกี่ยวกับองค์กร คือ การปรับโครงสร้างองค์กรใหม่ และกระบวนการปฏิบัติงานใหม่ เช่น การปรับเปลี่ยนแผนกการปฏิบัติงานใหม่ การปรับเปลี่ยนระบบการสื่อสารภายในองค์กรให้เกิดประสิทธิภาพ

ที่มาภาพ : https://www.freepik.com

Thai Mooc วิชา การคิดสร้างสรรค์และนวัตกรรม

Visits: 1881

Comments

comments

Back To Top