สุดยอดแนวคิดธุรกิจยุคดิจิทัล

ธุรกิจยุคดิจิทัล เป็นการจัดการธุรกิจสมัยใหม่ตามแนวโน้มการดำเนินธุรกิจในปัจจุบันที่นำอินเทอร์เน็ตมาบูรณาการกับการจัดการธุรกิจแบบไร้ข้อจำกัด เข้ามาพัฒนาเพื่อเพิ่มความสะดวกสบายให้ทั้งผู้ประกอบการและผู้บริโภคในการเลือกซื้อสินค้า หรือบริการต่าง ๆ ซึ่งมีจุดหมายหลักคือการเพิ่มยอดขาย เพิ่มรายได้นั่นเอง เช่น การนำเว็บไซต์ออนไลน์มาช่วยในการเข้าถึงผู้บริโภคยุคใหม่ที่ชอบใช้โ ,การสร้างช่องทางขายผ่านสื่อ Social media ต่าง ๆ เช่น Facebook, Instagram และการทำโฆษณารวมไปถึงการสั่งซื้อและจัดส่งสินค้าในแบบ online เป็นต้น ดังนั้น Digital Business ก็คือการเปลี่ยนแปลงธุรกิจที่มีอยู่ในรูปแบบเดิมๆ ให้เป็นธุรกิจแบบใหม่โดยที่มีการใช้เทคโนโลยีต่างๆ เข้ามาช่วยปรับเปลี่ยนโครงสร้างนั่นเอง

การสร้างธุรกิจใหม่ตามแนวโน้มการดำเนินธุรกิจในปัจจุบัน

การปฏิวัติทางดิจิทัล : Digital Revolution แบ่งเป็น 4 ยุค ดังนี้

ยุคที่ 1 Digital 1.0

ยุคนี้เป็นยุคเริ่มต้นของ “Internet” เป็นช่วงเวลาที่กิจกรรมและการดำเนินชีวิตของผู้คนเปลี่ยนจากออฟไลน์ (offline) มาเป็นออนไลน์ (online) มากขึ้น เช่น การส่งจดหมายทางไปรษณีย์ก็เปลี่ยนมาเป็นการส่ง E-mail และอีกหนึ่งตัวอย่างที่เห็นได้ชัด คือ การถือกำเนิดของเว็บไซต์ Website ที่ทำให้เราเข้าถึงทุกอย่างได้ง่ายขึ้นและทั่วถึง การ Update รวดเร็วตลอด 24 ชั่วโมง การเปลี่ยนแปลงครั้งนี้ได้ส่งผลกระทบครั้งใหญ่และเป็นวงกว้าง การดำเนินกิจกรรมสะดวกและรวดเร็ว เริ่มมีกิจกรรมเชิงพาณิชย์และโฆษณาผ่านเครื่องมือออนไลน์เสมือนกับมีหน้าร้านที่ทุกคนบนโลกจะเห็นเราได้ง่ายขึ้น

ยุคที่ 2 Digital 2.0

          ต่อยอดจากยุค 1.0 ก็จะเป็นยุคที่ผู้บริโภคเริ่มสร้างเครือข่ายติดต่อสื่อสารกันในโลกออนไลน์ เครือข่ายสังคม Social Network นี้เริ่มจากการคุยหรือ Chat กับเพื่อน สมาคม กลุ่มเล็กๆของผู้คนที่ต้องการความสะดวกสบายในการติดต่อสื่อสาร จุดเล็ก ๆ นี้เริ่มพัฒนาและขยายวงกว้างไปสู่การดำเนินกิจกรรมในเชิงธุรกิจ โดยนักธุรกิจส่วนใหญ่มองว่า Social Media เป็นเครื่องมือเชื่อมต่อและสร้างเครือข่ายทางธุรกิจให้แก่พวกเขาได้เป็นอย่างดีด้วยการคลิกเพียงครั้งเดียว อีกทั้งยังช่วยในการพัฒนา Brand วัดผลการดำเนินงานของธุรกิจ ส่งเสริมภาพลักษณ์แบรนด์ เสมือนว่า Social Media เป็นกระบอกเสียงและเวทีเสนองานแก่นักธุรกิจสู่สายตาชาวโลกเป็นอย่างดี เครื่องมือโซเชียลยังสามารถเป็นอำนาจในการต่อรองของผู้บริโภคที่กำลังตัดสินใจเลือกสินค้าและบริการ เนื่องจากมีตัวเลือกและร้านค้าให้เห็นมากขึ้นอีกด้วย

ยุคที่ 3 Digital 3.0

          ยุคแห่งการใช้ข้อมูลที่วิ่งเข้าออกเป็นล้านๆ data ให้เป็นประโยชน์ การเติบโตของโซเชียลมีเดียและ E-Commerce จากยุค 2.0 ทำให้เกิดการขยายของข้อมูลอย่างมหาศาล ทุกแพลตฟอร์มไม่ว่าจะเป็น สื่อSocial Web Browser หรือแม้แต่ธุรกิจอย่างธนาคาร โลจิสติกส์ ประกันภัย รีเทล ต่างมีข้อมูลเข้าออกเป็นจำนวนมากในแต่ละวัน และเริ่มมีการนำข้อมูลเหล่านั้นมาใช้ให้เกิดประโยชน์ ดังคำกล่าวที่ว่า “ใครมีข้อมูลมาก ก็มีอำนาจมาก” ข้อมูลถูกนำมาประมวลผล จับสาระ วิเคราะห์ถึงความต้องการของผู้บริโภคเพื่อสร้างสินค้าและบริการที่สามารถตอบสนองโจทย์ของลูกค้าได้ ทุกองค์กรต่างเห็นความสำคัญของการนำ Big Data มาใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุด แต่การ Big Data มาตอบสนองอย่างเรียลไทม์นั้น จำเป็นต้องมีระบบคลาวด์ Cloud Computing มาช่วยอำนวยความสะดวก จัดเก็บข้อมูล เลือกทรัพยากรตามการใช้งาน และทำให้เราสามารถเข้าถึงข้อมูลบนคลาวด์จากที่ใดก็ได้ ผู้ใช้ทุกคนสามารถเข้าถึงระบบ ข้อมูลต่างๆผ่าน Internet สามารถจัดการ บริหารข้อมูล และแบ่งปันข้อมูลกับผู้อื่น (Shared Services) ลดต้นทุนและลดความยุ่งยากเพื่อโฟกัสกับงานหลัก เพิ่มความเร็วในการบริการและการทำธุรกิจได้มากขึ้น

Big data สามารถนำมาต่อยอดโดยการคิดค้น เฟ้นหา และประยุกต์ใช้ข้อมูลนั้น พัฒนา

เป็น Application ที่ให้ความสะดวกสบายแก่ผู้บริโภคผ่านทางSmart Phone และ Tablet อีกด้วย

ยุคที่ 4 Digital 4.0

          เป็นยุคนำเทคโนโลยีมาพัฒนาต่อยอดการดำเนินธุรกิจ เพื่อเพิ่มศักยภาพให้กับธุรกิจ หรือที่เรียกว่า Machine-2-Machine โดยใช้ความฉลาดของเทคโนโลยีทำให้อุปกรณ์ต่างๆ สามารถทำงานได้เองโดยอัตโนมัติ โดยจะคำนึงถึงผู้บริโภคเป็นหลัก เช่น  สั่งเปิด-ปิดเครื่องไฟฟ้าผ่านแอปพลิเคชันบนมือถือ การใช้ Simulation เพื่อจำลองสถานการณ์เพื่อฝึกอบรมพนักงาน วางแผนสถานการณ์โดยที่ไม่ต้องเดินทางไปถึงสถานที่จริง หรือเป็นสื่อการเรียนรู้แบบ Interactive

Digital Transformation 

          โลกธุรกิจในปัจจุบันอยู่ในยุคที่เรียกว่า “Digital Darwinism” ซึ่งหมายถึงยุคที่เทคโนโลยีต่างๆ ถูกพัฒนาขึ้นรวดเร็วกว่าความสามารถที่เหล่าธุรกิจจะปรับตัวตามได้ทัน Disruptive Technology จาก Cloud Computing Big Data IoTs ได้เปลี่ยนวิถีชีวิตผู้คนและสร้างธุรกิจแนวใหม่มากมาย ทำให้ธุรกิจแบบเดิมที่ไม่สามารถปรับตัวได้ทันต้องล้มหายตายจากไป เช่น

e-Commerce อย่าง Amazon, Alibaba, Lazada ที่เข้ามาแย่งส่วนแบ่งทางการตลาดจากธุรกิจค้าปลีกดั้งเดิมจนต้องปิดตัวไปมากมาย เนื่องจากความสามารถในการเข้าถึงผู้บริโภคได้มากกว่า ผ่านช่องทางออนไลน์ได้ตลอด 24 ชั่วโมงและไม่จำกัดสถานที่ ขณะที่ Uber และ Airbnb ก็เข้ามาทำให้ธุรกิจรับส่งผู้โดยสารและธุรกิจโรงแรมแบบเดิมๆ ต้องเผชิญการแข่งขันที่ดุเดือด ทั้งนี้ วิกฤตดังกล่าวเกิดขึ้นทั่วโลก และทวีความรุนแรงมากขึ้นเรื่อยๆ ทุกวัน ธุรกิจเผชิญกับคู่แข่งที่ใช้ประโยชน์จาก Digital Technology ในการแย่งส่วนแบ่งการตลาด

 

ขั้นตอนการทำ Digital Transformation

  1. Business as Usual : เป็นระยะที่ธุรกิจยังดำเนินไปในรูปแบบเดิม โดยธุรกิจอาจเริ่มมีความสนใจในดิจิทัล แต่ยังถูกมองเป็นอีก Line หนึ่งของธุรกิจ ยังขาดความเชื่อมโยงกับภาพรวมของธุรกิจ โดยผู้นำธุรกิจก็ยังไม่ได้มองว่า Digital Transformation เป็นวาระเร่งด่วน
  2. Present and Active : ผู้นำธุรกิจเริ่มตระหนักถึง Digital disruption และเริ่มออกจาก comfort zone แล้ว โดยเริ่มที่จะเรียนรู้และมองหาแนวทางสำหรับ Digital Transformation อย่างไรก็ดี องค์กรก็ยังทำงานแบบแยกส่วนงาน การเปลี่ยนแปลงทางดิจิทัลยังไม่ได้ถูกจัดให้เป็นระบบ
  3. Formalized : เริ่มเปลี่ยนแปลงอย่างเป็นระบบ และมีกลยุทธ์ที่ตรงจุดมากขึ้น ผู้นำองค์กรกระตุ้นให้มีการลงทุนในคน กระบวนการ และเทคโนโลยี ซึ่งส่งผลต่อไปยังผู้บริหารในองค์กรให้รับรู้และเข้ามามีส่วนร่วมมากขึ้น จากนั้นจึงนำไปสู่การวางโครงสร้างองค์กรให้สอดรับกับดิจิทัลอย่างเป็นระบบ และมีวิสัยทัศน์
  4. Strategic : องค์กรได้ยอมรับการเปลี่ยนแปลงไปสู่ความเป็นดิจิทัล มีการวางแผนใช้ทรัพยากรอย่างมีจุดมุ่งหมายที่ชัดเจนขึ้น สามารถเห็นภาพเป้าหมายระยะสั้นและระยะยาว ว่าองค์กรจะใช้ดิจิทัลไปในทางใดบ้าง และได้รับการสนับสนุนการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานอย่างเต็มที่
  5. Converged Digital Transformation : เริ่มเปลี่ยนแปลงอย่างเป็นระบบและมีกลยุทธ์ที่ตรงจุดมากขึ้น ผู้นำมีการกระตุ้นการลงทุนในคน กระบวนการและเทคโนโลยี ส่งผลต่อการรับรู้และการมีส่วนร่วม จนนำไปสู่การวางโครงสร้างองค์กรให้สอดรับกับดิจิทัลอย่างเป็นระบบ และมีวิสัยทัศน์
  6. Innovative and Adaptive : องค์การได้ดูดซับวัฒนธรรมแห่งการสร้างนวัตกรรมและมีการแปลงร่างองค์การอย่างสมบูรณ์ พร้อมเร่งความเร็วให้กับกระบวนการทำงาน การลงทุน จนสามารถสร้างเติบโตและการแข่งขันใหม่ได้อย่างเต็มที่

ที่มา : ThaiMOOC SPU007 สุดยอดแนวคิดธุรกิจยุคดิจิทัล

Visits: 358

Comments

comments

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *

For security, use of Google's reCAPTCHA service is required which is subject to the Google Privacy Policy and Terms of Use.

Back To Top