เรียนรู้รายวิชา ThaiMOOC WU014 ภาษาไทยเพื่อการสื่อสารร่วมสมัย | Thai for Contemporary Communication
เพื่อนำ ภาษาไทย ไปประกอบการเขียนบทความใน Blog และการเขียนสรุป/แนะนำหนังสือใน Digital Content ชวนอ่าน หนังสืออ่านประกอบรายวิชาพื้นฐาน ทักษะภาษาไทยจึงมีความจำเป็น
เพื่อให้เข้าใจและพัฒนาทักษะภาษาไทย:
- การรับสารและส่งสาร
- การจับใจความสำคัญจากเรื่องที่อ่านและที่ฟัง
- การวิเคราะห์เชื่อมโยงประเด็นจากเรื่องที่ฟังและอ่าน
- การเสนอข้อคิดเห็นหรือให้คุณค่าต่อเรื่องที่อ่านและฟังได้อย่างมีเหตุผล
- การนำเสนอความคิดผ่านการพูดและการเขียนได้ มีประเด็นสำคัญและส่วนขยายที่ช่วยให้ประเด็นความคิดชัดเจนและเป็นระบบ
- การนำข้อมูลทางสังคมมาประกอบเป็นความรู้หรือความคิดที่ใหญ่ขึ้น
- การพูดและการเขียนเพื่อนำเสนอความรู้ที่เป็นระบบและน่าเชื่อถือ
ฟัง
องค์ประกอบของการฟัง
- การได้ยิน รับฟังเสียงได้ แม้จะเป็นเรื่องที่ไม่เคยได้ยินมาก่อน หรือเป็นภาษาที่ไม่รู้จักก็ตาม
- พุ่งความสนใจ เมื่อผู้ฟังได้ยินเสียงพูดก็พุ่งความสนใจไปยังเสียงที่ได้ยินนั้น
- การเข้าใจ ผู้ฟังจะต้องรู้จักภาษาหรือคุ้นเคยกับภาษาที่ได้ยิน
- การตีความ เข้าใจกับความหมายของสารที่ผู้พูดส่งมา การตีความต้องใช้การแปลความกับความสามารถย่นย่อเรื่องราวต่าง ๆ มารวมกัน
- การตอบสนอง เช่น ยิ้ม หน้าบึ้ง หน้าซีด เลือดขึ้นหน้า หรืออาจเป็นการตอบสนองกลับด้วยคำพูด
ลักษณะการฟัง
- การฟังอย่างเข้าใจ
- การฟังอย่างมีจุดมุ่งหมาย
- การฟังอย่างมีวิจารณญาณ
- การฟังอย่างประเมินคุณค่า
ประโยชน์ของการฟัง
- การติดต่อสื่อสารในชีวิตประจาวัน
- ช่วยปรับปรุงประสิทธิภาพในการฟังให้ดียิ่งขึ้น
- ได้รับทราบความรู้สึกนึกคิดหรือความคิดเห็นของผู้อื่น มีจิตใจกว้างขวางและเปิดกว้าง
- เป็นคนรู้จักคิดใช้วิจารณญาณในการตัดสินใจ มีเหตุผล ไม่หลงเชื่อผู้พูดโดยง่าย
- ได้รับความเพลิดเพลินและสร้างจินตนาการเกิดความคิดริเริ่มสร้างสรรค์
- ได้รับทราบความเคลื่อนไหวต่าง ๆ รอบ ๆ ตัวเป็นการเรียนรู้สิ่งแปลก ๆ ใหม่ๆ
- ช่วยให้การคิดและการพูดมีประสิทธิภาพ
พูด
การอภิปราย มีลักษณะคล้ายการสนทนา แต่การอภิปรายมีความมุ่งหมายที่กำหนดไว้ล่วงหน้าแน่นอน เช่น การตัดสินใจหรือการแก้ปัญหาในเรื่องใดเรื่องหนึ่ง ส่วนการสนทนาโดยทั่วไปไม่ได้กำหนดเรื่องที่จะสนทนาไว้ก่อน และอาจเปลี่ยนเรื่องไปได้ต่าง ๆ สุดแต่เหตุการณ์ โดยการอภิปรายประกอบด้วย ผู้พูด ผู้ฟัง หัวข้อเรื่อง และสถานที่
การอภิปราย คือ การพูด การปรึกษาหารือของกลุ่มบุคคล เกี่ยวกับปัญหาใด เพื่อพิจารณาออกความเห็นให้เกิดประโยชน์ หาทางแก้ปัญหา แลกเปลี่ยนความรู้ความคิดเห็นซึ่งกันและกัน
จุดมุ่งหมายของการอภิปราย
- แลกเปลี่ยนความรู้ความคิดเห็นอย่างมีเหตุผล
- ให้ทราบข้อมูล ข้อเท็จจริง
- รวบรวมความรู้จากบุคคลหลาย ๆ ฝ่าย
- เปิดโอกาสให้บุคคลได้แสดงออก
การโต้วาที คือ
- ศิลปะของการพูดระหว่างคณะบุคคลสองฝ่าย
- การโต้เถียงกันในญัตติ
- การโต้แย้งด้วยการใช้คำพูดที่ประกอบด้วยเหตุผล
ศิลปะการโต้วาทีมีดังนี้
- การพูดจาหรือการใช้ภาษา
- เนื้อหาสาระ
- ไหวพริบ
- การวางท่าและกิริยามารยาท
- การเสนอและการหักล้าง
แบบแผนและจรรยาบรรณของผู้โต้วาทีมีดังนี้
- เคารพผู้ฟังเมื่อประธานแนะนำ
- ออกไปพูดเมื่อประธานเชิญ
- รักษามารยาทในการพูด
- รักษาเวลาโดยเคร่งครัด
- รักษาธรรมเนียมการพูด
อ่าน
กระบวนการอ่าน
1. การอ่านจับใจความสำคัญ อ่านเพื่อหาสาระสำคัญของเรื่อง
- ใจความสำคัญ (Main Ideas)
- เป็นถ้อยคำภาษาหรือข้อความที่ทำหน้าที่ครอบคลุมเนื้อหาในแต่ละย่อหน้า
- หนึ่งย่อหน้ามีใจความสำคัญเพียงประเด็นเดียวเท่านั้น
- ใจความสำคัญอาจเป็นประโยคความเดียว หรือเป็นเพียงใจความแฝง
- รายละเอียด (Details) หรือเรียกว่า ส่วนขยาย หรือ พลความ เป็นการขยายใจความสำคัญ อาจเป็นการยกตัวอย่างที่ช่วยให้ผู้อ่านเข้าใจได้ดียิ่งขึ้น
วิธีการอ่านจับใจความสำคัญ ดังนี้
- อ่านเรื่องที่จะจับใจความทั้งหมด และอาจพิจารณาจากชื่อเรื่องเพราะมักจะแสดงแนวคิดสำคัญไว้
- จับใจความสำคัญทีละย่อหน้ำ ซึ่งประกอบด้วย ใจความสำคัญและส่วนขยายหรือรายละเอียด
2. การอ่านตีความ การอ่านเพื่อเข้าใจความหมาย ความรู้สึก อารมณ์จากบทประพันธ์ ต้องมีพื้นฐานในการแปล การจับใจความสำคัญ การสรุปความ การเปรียบเทียบความสัมพันธ์ของข้อความ
ปัจจัยสำคัญในการตีความ คือ ผู้อ่านต้องเข้าใจเจตนารมณ์ ความหมายของผลงาน เพื่อสรุปว่าผู้เขียนต้องการสื่อหรือเจตนาให้ข้อคิดใดแก่ผู้อ่าน
3. การสรุปหรือย่อความ การอ่านเนื้อหาอย่างคร่าว ๆ เพื่อให้ทราบเรื่องราวทั้งหมดโดยสรุป
- เก็บใจความสำคัญของแต่ละย่อหน้า
- เรียบเรียง และเขียนสรุป
ข้อเท็จจริงกับข้อคิดเห็นจากเรื่องที่อ่านได้
ลักษณะของข้อเท็จจริง
- มีความเป็นไปได้
- มีความสมจริง
- มีหลักฐานเชื่อถือได้
- มีความสมเหตุสมผล
ลักษณะของข้อคิดเห็น
- เป็นข้อความที่แสดงความรู้สึก
- เป็นข้อความที่แสดงการคาดคะเน
- เป็นข้อความที่แสดงการเปรียบเทียบหรืออุปมาอุปไมย
- เป็นข้อความที่เป็นเป็นข้อเสนอแนะหรือเป็นความคิดของผู้พูดและผู้เขียนเอง
เขียน
เทคนิคการเขียนความเรียง ได้แก่
- เขียนเรื่องที่รู้จริง เพราะการเล่าในสิ่งที่เรารู้จริงจะสามารถสื่อความคิดออกมาได้อย่างลึกซึ้ง
- เขียนถึงมุมหรือจุดเล็ก ๆ เพราะมุมเล็ก ๆ ของการมองเป็นฉนวนสำคัญของการกำเนิดและสะเทือนอารมณ์ที่ยิ่งใหญ่สำหรับผู้อ่านเสมอ
- เขียนให้รู้สึกเหมือนกับเล่าเพื่อน เพราะการเขียนความเรียง ควรถ่ายทอดอารมณ์ที่ไม่กดดัน และเป็นตัวเองที่สุด เพื่อข้อมูลที่แสดงถึงทรรศนะแท้จริงของผู้เขียน
- เขียนให้มีทั้งข้อเท็จจริงและข้อคิดเห็น การเขียนความเรียงสามารถแสดงความคิดเห็นได้อย่างอิสระ ทั้งก็ต้องตั้งอยู่บนพื้นฐานของข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น
การเขียนความเรียง
1. หัว ตัว ตีน
- หัว คือ การเปิดเรื่อง เป็นส่วนสำคัญที่มีผลต่อความสำเร็จในการเขียน
- ตัว คือ เนื้อเรื่อง เป็นการการลำดับเรื่องราวที่เขียนให้ชวนติดตาม
- ตีน คือ ปิดเรื่อง เป็นการเขียนจบเรื่องเพื่อสร้างความระทับใจให้ผู้อ่าน
2. อดีต ปัจจุบัน อนาคต การเขียนให้เห็นอดีต ที่เคยเกิดขึ้นในสังคม เพื่อพัฒนาปัจจุบัน และส่งผลให้อนาคต
3. คำนำ เนื้อหา สรุป หลักการเขียนสอดคล้องกับ หัว ตัว ตีน
สรุปหัวข้อเรียนรู้ข้างต้น คือหัวข้อที่นำมาใช้งานได้จริง เป็นวิชาภาษาไทยที่เรียนสนุก เรียนเร็ว เข้าใจง่าย สำคัญที่สุดนำมาปรับใช้งานได้ “ภาษาไทยมีไว้ให้เรียนรู้”
ที่มา: ThaiMOOC WU014 ภาษาไทยเพื่อการสื่อสารร่วมสมัย
Visits: 27
Cataloger สาย Cat Slave