หลับดีก็มีสุข

หากเราแบ่งชีวิตออกเป็น 2 ด้าน กลางวันและกลางคืน ด้านหนึ่งคือการใช้ชีวิตในช่วงเวลาปกติ ส่วนอีกด้านคือการนอนหลับพักผ่อน แต่ปัจจุบันวัฒนธรรมการดำเนินชีวิตเปลี่ยนแปลงไปทำให้คนจำนวนมากใช้ชีวิตข้ามโซนเวลา จึงเป็นที่มาของปัญหาสุขภาพ เนื่องจากการนอนหลับเป็นช่วงเวลาที่อวัยวะต่างๆ ของร่างกายได้พักผ่อน ระบบหัวใจและไหลเวียนเลือด ออกแรงน้อยลงเพื่อสูบฉีดเลือดไปเลี้ยงส่วนต่างๆ เป็นช่วงเวลาที่เกิดการซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอ ปรับสมดุลของสารเคมีต่างๆ ตลอดจนเป็นระยะที่สมองทำการเรียบเรียงข้อมูล และจัดเก็บเป็นหมวดหมู่ ทำให้สมองมีพัฒนาการ หากนอนหลับไม่เพียงพอก็จะก่อให้เกิดโรคหัวใจและหลอดเลือดโรคเบาหวาน ความดันโลหิตสูง ส่งผลกระทบต่อระบบประสาท การคิด ความจำ รวมไปถึงมีความเสี่ยงที่จะเกิดอุบัติเหตุ และทำให้ส่งผลต่อประสิทธิภาพในการทำงาน

         องค์การอนามัยโลก หรือ WHO ระบุว่า การนอนหลับที่มีประสิทธิภาพ ควรนอนให้ได้  7-9 ชั่วโมง แต่ในปัจจุบัน คนทั่วโลกเป็นโรคนอนไม่หลับมากถึง 35% และสาเหตุใหญ่ที่ทำให้คนเป็นโรคนอนไม่หลับ ก็คือความเครียดหรือมีความวิตกกังวลอยู่ในใจ สำหรับวิธีแก้อาการนอนไม่หลับ จะขอแนะนำเคล็ดลับการนอนหลับอย่างมีสุขและสุขภาพดีแบบง่ายๆ จะมีอะไรบ้างมาดูกัน

– ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการนอน โดยกำหนดเวลานอนและตื่นนอนไว้และต้องปฎิบัติให้ได้ตามนั้น สิ่งที่ได้จากเคล็ดลับข้อนี้ก็คือ ทำให้การนอนหลับมีคุณภาพ

– หากเป็นคนที่เคยชินกับการนอนพักช่วงกลางวัน ไม่ควรนอนเกินครั้งละ 45 นาที เพราะอาจส่งผลให้นอนไม่หลับในช่วงกลางคืน

– หลีกเลี่ยงปัจจัยเสี่ยงที่จะทำให้นอนไม่หลับ โดยหลีกเลี่ยงการดื่มเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์หรือสูบบุหรี่ หากดื่มก็ควรดื่มหรือสูบบุหรี่ ก่อนเข้านอนอย่างน้อย 4 ชั่วโมง

– หลีกเลี่ยงการดื่มเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีน เช่น ชา กาแฟ หากต้องการดื่ม ก็ควรดื่มก่อนนอนอย่างน้อย 6 ชั่วโมง

– หลีกเลี่ยงการทานอาหารรสจัดหรือขนมหวานก่อนนอน หากทานควรทานก่อนนอนอย่างน้อย 4 ชั่วโมง ส่วนอาหารว่างอย่าง เช่น การดื่มนมอุ่นๆ ก่อนนอนสามาถทำได้

– การออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ โดยเฉพาะการออกกำลังกายในช่วงเย็น จะทำให้นอนหลับสนิทและเป็นการนอนหลับที่มีประสิทธิภาพ

– ปรับสภาพแวดล้อมห้องนอนให้อากาศถ่ายเทได้สะดวก และตั้งอุณหภูมิภายในห้องนอนให้เหมาะสม

– ปิดเสียงรบกวน งดการใช้เครื่องมือสื่อสารทั้งหมด รวมถึงลดแสงสว่างให้มากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้

– ควรใช้ห้องนอน หรือเตียงนอน เพื่อการพักผ่อนเท่านั้น หลีกเลี่ยงการนำงานมาทำบนเตียง หรือมีทีวีติดตั้งไว้ในห้องนอน

– หากมีอาการนอนกรนที่รุนแรง จนทำให้สะดุ้งตื่น หรือมีภาวะหยุดหายในขณะหลับ ควรใช้ เครื่องช่วยนอนกรน ในการรักษา (ต้องปรึกษาแพทย์ก่อนใช้)

– ดนตรีบำบัด

การใช้ดนตรีบำบัดมีมาตั้งแต่สมัยโบราณ ส่วนใหญ่ใช้กระตุ้นการทำงานของระบบภูมิคุ้มกัน การลดระดับความเครียด รวมถึงกระตุ้นพัฒนาการของเด็กทารกที่คลอดก่อนกำหนด ดนตรีบำบัด ช่วยรักษาอาการนอนไม่หลับที่นักวิทยาศาสตร์ได้ทำการทดลองมาอย่างช้านาน ซึ่งผลลัพธ์ส่วนใหญ่น่าพอใจเป็นอย่างมาก เพราะช่วยให้สุขภาพกาย สุขภาพใจ รวมถึงอารมณ์ของกลุ่มผู้ทดลองดีขึ้นอย่างชัดเจน ส่งผลให้คุณภาพชีวิตดีตามไปด้วย เราต้องปรับอารมณ์ตัวเองให้แจ่มใส พร้อมที่จะฟังเสียงดนตรีที่เราชอบเพื่อให้สมองผ่อนคลาย เตรียมพร้อมนอนหลับฝันดีต่อไป

ดนตรีบำบัดจะได้ผลดี ต้องเลือกแนวเพลงที่ชอบ และโทนเสียงที่ใช่

เพลงที่ชอบ จังหวะดนตรีที่ใช่ จะทำให้เราเข้าถึงอารมณ์ได้เร็วขึ้น ลองสำรวจตัวเองดูค่ะว่าชอบฟังเสียงดนตรีแนวไหน เพลงไหนฟังแล้วรู้สึกสมองปลอดโปร่ง อารมณ์สดชื่นแจ่มใส

ลงทุนกับหูฟัง หูฟังเป็นตัวช่วยทำให้เสียงเพลงเพราะขึ้นหลายเท่า ลองเลือกหูฟังดีดีที่ได้มาตรฐาน ที่สามารถตอบสนองความถี่ได้ครบทุย่าน เป็นการเพิ่มอรรถรสในการฟังเพลงก่อนนอนได้เป็นอย่างดี

ลงทุนกับเครื่องเสียง ในที่นี้มิได้หมายถึงเครื่องเสียงชุดใหญ่ราคาแพง โดยลงทุนตามกำลังทรัพย์ที่มีอาจจะเป็นลำโพงบลูธูทที่มีคุณภาพเล็กๆสักตัว เท่านี้ก็ทำให้การฟังเพลงได้คุณภาพที่ไพเราะขึ้นได้และเรายังใชฟังเพลงในชีวิตประจำวันได้อีกด้วย แต่หากใครมีกำลังก็มีเครื่องเสียงคุณภาพดีๆไว้สักชุด เพื่อการนอนอย่างสุนทรีย์ด้วยดนตรีบำบัด

ข้อมูลความรู้จากการเรียน Thaimooc

รายวิชา WU WU024 การนอนหลับกับสุขภาพดี

อ้างอิงข้อมูล

เว็บไซต์ Hfocus.org เจาะลึกระบบสุขภาพ

สำนักข่าว Hfocus เจาะลึกระบบสุขภาพ

Visits: 43

Comments

comments

Back To Top