วัดเขาขุนพนม
ที่อยู่ : ตั้งอยู่หมู่ที่ 3 ตำบลบ้านเกาะ อำเภอพรหมคีรี จังหวัดนครศรีธรรมราช (ห่างจากตัวเมือง 24 กิโลเมตร) เนื้อที่ประมาณ 27 ไร่ 1 งาน
นิกาย : ธรรมยุต
ประเภทวัด : วัดราษฎร์
ได้รับอนุญาตตั้งเป็นวัด : เมื่อปีพุทธศักราช 2330
ได้รับพระราชทานวิสุงคามสีมา : เมื่อปีพุทธศักราช 2360
ประวัติวัด
วัดเขาขุนพนม จะสร้างเมื่อใดยังไม่ปรากฎหลักฐานแน่ชัด แต่จากหลักฐานทางโบราณคดีอันได้แก่ โบราณสถาน และโบราณวัตถุในบริเวณวัด สันนิษฐานว่าสคร้างชึ้นในสมัยอยุธยา ประมาณพุทธศตวรรษที่ 22 เป็นอย่างน้อย และจากประวัติศาสตร์คำบอกเล่าของชาวนครบางส่วน ทำให้รู้ว่าวัดและเชาขุนพนมเป็นวัดที่ประทับของพระเจ้าตากสินในจังหวัดนครศรีธรรมราช ถือเป็นวัดที่มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์และโบราณคดี มีถ้ำซึ่งมีกำแพงก่ออิฐถือปูนและในเสมาเช่นเดียวกับกำแพงเมือง ในถ้ำมีพระพุทธรูปสำริดประมาณ 30 องค์และมีหลายถ้ำทะลุถึงกัน อย่างไรก็ตามเป็นที่เชื่อกันในหมู่คนท้องถิ่นว่า เป็นที่ประทับของพระเจ้าตากสินขณะทรงผนวช ภายหลังจากสิ้นรัชกาลของพระองค์ มีผู้สันนิษฐานว่าพระเจ้าตากสินทรงมิได้ถูกประหารชีวิต อย่างที่พงศาวดารกล่าวอ้าง แต่ได้ทรงสับเปลี่ยนพระองค์กับพระญาติหรือทหารคนสนิท แล้วเสด็จมายังนครศรีธรรมราช มีการเตรียมการโดยมีการสร้างป้อมปราการ ทำเชิงเทิน ป้อมวงกลมตามชะง่อนผา เพื่อให้พระเจ้าตากสินได้ประทับเมื่อทรงผนวชเจริญวิปัสนากรรมกรรมฐาน ณ วัดเขาขุนพนม จนเสด็จสวรรคต แต่บางกระแสกล่าวว่าเขาขุนพนม สร้างโดยพระยาตรังภูมาภิบาลเจ้าเมืองนครศรีธรรมราช สำหรับพักตากอากาศที่เขาขุนพนมจึงมีการสร้างป้อมปราการคอยป้องกันอย่างแน่นหนา และเป็นวัดที่เคยเป็นวัดร้างมาก่อน และมีการบูรณะใหม่ในปี พ.ศ. 2475 และมีพระสงฆ์จำพรรษาเรื่อยมา (ศูนย์วัฒนธรรมจังหวัดนครศรีธรรมราช สถาบันราชภัฏนครศรีธรรมราช, 2541, น. 58-59)
ชื่อเดิมคือ “วัดคุมพนม ตามหลักฐาน วัดสร้าง (ผูกพัทธสีมา) เมื่อปี พ.ศ. 2330 ได้รับวิสุงคามสีมา เมื่อปี พ.ศ. 2360 วัดเขาขุนพนม วัดนี้ทั้งส่วนที่ตั้งอยู่บนพื้นราบและส่วนที่ตั้งอยู่ในถ้ำบนเขาขุนพนม (ศานติ โบดินันท์, 2561, น. 169) และวัดเขาขุนพนมเป็นวัดที่มีเสนาสนะสมบูรณ์ คือ มีพระอุโบสถ ศาลาการเปรียญ และบริเวณวัดยังมีโรงเรียนระดับประถมศึกษา อาคารศูนย์วิทยาศาสตร์เพื่อการศึกษา และหอสมุดเฉลิมราชกุมารีที่มึความพิเศษในด้านรูปลักษณ์และประโยชน์ใช้สอย ได้ทำการบูรณะปฏิสังขรณ์ใหม่เมื่อปี พ.ศ. 2475 เป็นต้นมา ด้วยเหตุที่วัดเป็นวัดเก่าแก่ สะสมเรื่องราวทางประวัติศาตร์ของบ้านเมืองแถบนี้ไว้หลายร้อยปี และมีลักษณะเป็นแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่มีอนาคตจึงมีการพัฒนาและให้ดำรงศูนย์กลางทางพุทธศาสนาาของชุมชนแห่งนี้อย่างสมบูรณ์ (ศูนย์วัฒนธรรมจังหวัดนครศรีธรรมราช สถาบันราชภัฏนครศรีธรรมราช, 2541, น. 58)
โดยมีเจ้าอาวาสเริ่มตั้งแต่นั้นจนถึงปัจจุบันจำนวน 11 รูป ได้แก่
- พระอธิการกัณฑ์ พ.ศ. 2475-2476
- พระศรีทอง พ.ศ. 2476-2477
- พระเนื่อง พ.ศ. 2477-2480
- พระเป้า บุปผโก พ.ศ. 2480-2489
- พระหลับ พ.ศ. 2489-2491
- พระดาบ พ.ศ. 2491-2493
(ศูนย์วัฒนธรรมจังหวัดนครศรีธรรมราช สถาบันราชภัฏนครศรีธรรมราช, 2541, น. 56) - พระครูวิบูลย์พนมรักษ์ หรือ “พ่อท่านกลาย”
- พระครูธรรมธรจักรี (จักร ขันติพโล) ช่วงประมาณหลัง พ.ศ. 2540
- พระครูสมุห์ธงชัย ช่วงประมาณก่อน พ.ศ. 2545
- พระครูปิยะคุณาธาร
- พระครูธรรมธร (แมน จนทธมโม) เจ้าอาวาสคนปัจจุบันของวัดเขาขุนพนม ตั้งแต่ปี 2563 จนถึงปัจจุบัน
ลักษณะเด่น
ลักษณะทางสถาปัตยกรรมเขาขุนพนม มีลักษณะเป็นภูเขาหินปูนลูกโดดเตี้ย ๆ มีต้นไม้ปกคลุมอยู่อย่างหนาแน่น บนภูเขามีถ้ำหินปูน ที่มีโพรงหินงอกหินย้อย ลักษณะของภูเขาวางตัวอยู่ในแถบเหนือ-ใต้ มีความยาวประมาณ 750 เมตร กว้างตามแนวทางทิศตะวันออก-ตะวันตก ประมาณ 500 เมตร สูงจากระดับน้ำทะเลปานกลางประมาณ 43 เมตร ส่วนยอดเขาสูง จากระดับน้ำทะเลปานกลางประมาณ 165 เมตร ทางทิศใต้ของภูเขาเป็นทางลาดชัน ทางทิศเหนือเป็นไหล่เขา ทางทิศตะวันตกเป็นสวนมังคุดและสวนยางพารา ทางทิศตะวันตกเป็นโรงเรียนและวัดเขาขุนพนม เขาขุนพนมมีจุดเด่นอยู่ที่วัดเขาขุนพนมซึ่งตั้งอยู่ทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ ของเขาขุนพนม ประวัติการก่อสร้างไม่ปรากฏ แต่หลักฐานประเภทโบราณสถานและโบราณวัตถุต่าง ๆ สามารถบ่งชี้ได้ว่า วัดเขาขุนพนม น่าจะสร้างขึ้นในตั้งแต่ครั้งกรุงศรีอยุธยาเป็นราชธานี (กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา, 2564)
วัดเชาขุนพนม เป็นวัดเก่าแก่ที่มีความสำคัญด้านประวัติศาสตร์และโบราณคดี เพราะสัณนิษฐานว่าเคยเป็นที่ประทับของสมเด็จพระเจ้าตากสิน ทรงมาพำนักและถือศีลในถ้ำแห่งนี้ และด้านหน้าวัดเป็นที่ตั้งของบ่อน้ำทิพย์โบราณเชื่อว่าเป็นบ่อน้ำศักสิทธิ์ ที่ถวายแด่พระเจ้าตากสินไว้ใช้ส่วนพระองค์
โบราณวัตถุที่สำคัญ
วัดเขาขุนพนม มีความสำคัญทางด้านโบราณคดีและประวัติศาสตร์เนื่องจากมีถ้ำที่มีกำแพงก่ออิฐเหมือนกำแพงสมัยโบราณ -ผนังของวัดด้านหน้าเป็นลวดลายปูนปั้นประดับด้วยเครื่องลายครามของจีน -ในบริเวณถ้ำมีพระพุทธรูป 30 องค์และพระพุทธบาทสำริด (กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา, 2564) รวมทั้งมีโบราณวัตถุสำคัญในบริเวณวัดจำนวนมาก ดังนี้ (ศานติ โบดินันท์, 2561, น. 238-282)
1. รอยพระพุทธบาทจำลองเขาขุนพนม เป็นรอยพระพุทธบาทที่แกะสลักไว้บนไม้เนื้อแข็ง สองแผ่นมาประกบกัน นักโบราณคดียืนยันตรงกันว่า เป็นไม้เทพทาโร รอยพระพุทธบาทนี้น่าจะเป็นโบราณวัตถุเพียงชิ้นเดียว ซึ่งในตำนานเล่าว่า มีความเกี่ยวข้องกับสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราชที่เมืองนครศรีธรรมราชที่ได้รับการพิสูจน์ทางวิทยาศาสตร์โดยสำนักศิลปากรที่ 12 จังหวัดนครศรีธรรมราช ทำให้โบราณวัตถุชิ้นนี้ เป็นหลักฐานที่มีน้ำหนักที่สุด ที่สามารถยืนยันได้ว่า สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช เสด็จมาประทับที่เมืองนครศรีธรรมราช จนกระทั่งสิ้นพระชนม์จริงๆ และหากจะนับเฉพาะลายที่เป็นภาพเล็ก มีทั้งหมด 108 แต่หากรวมลายที่เป็นภาพใหญ่อีก 2 ภาพ คือ ภาพวงปี 15 วง และ ภาพมณฑล กลางรอยพระพุทธบาทส่วนล่างอีก 1 ภาพ ก็จะทำให้รอยพระพุทธบาทเขาขุนพนม มีภาพทั้งหมด 110 ภาพ ซึ่งล้วนแล้วแต่เป็นภาพที่เกี่ยวกับตำนานการเสด็จมาประทับที่เขาขุนพนม เมืองนครศรีธรรมราช และปัจจุบันได้เก็บไว้ที่อาคารพระตำหนักสมเด็จพระสังฆราช
2. ยักษ์แคระบนเขาขุนพนม ตั้งอยู่หน้าทางเข้าห้องกรรมฐานบนลานหน้าพระ เขาขุนพนม ตำนานเล่าว่า สมเด็จพระเจ้าตากสินทรงให้ช่างที่ติดตามพระองค์มาปั้นขึ้น
3. พระพุทธรูปปางมารวิชัย ประดิษฐานอยู่ในห้องบรรทม บนลานหน้าพระ บนเขาขุนพนม ในตำนานเล่าว่า สมเด็จพระเจ้าตากสินทรงนำมาจากกรุงธนบุรี เป็นพระพุทธรูปสมัยสุโขทัย
4. พระนอนบนเขาขุนพนม ประดิษฐานอยู่ในห้องกรรมฐาน ของสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช บนลานหน้าพระ บนเขาขุนพนม ตำนานเล่าว่าเป็นพระประจำวันเกิดของพระองค์ที่ทรงให้ช่างปั้นขึ้น
5. พระยอดธงวัดเขาขุนพนม พบในถ้ำบนถ้ำตากฟ้า บนเขาขุนพนม ปัจจุบันเก็บไว้ในพิพิธภัณฑ์วัดเขาขุนพนม ในตำนานเล่าว่า สมเด็จพระเจ้าตากสิน ใช้เป็นพระประจำยอดธงไชยเฉลิมพลเวลาออกรบ
6. เครื่องทองเหลืองโบราณ พบในถ้ำบนถ้ำตากฟ้า บนเขาขุนพนม ปัจจุบันเก็บไว้ในพิพิธภัณฑ์วัดเขาขุนพนม ในตำนานเล่าว่า เป็นเครื่องใช้ในห้องเครื่องของสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช เมื่อคราวเสด็จมาประทับที่เขาขุนพนม
7. เครื่องลายครามโบราณ พบในถ้ำบนถ้ำตากฟ้า บนเขาขุนพนม ปัจจุบันเก็บไว้ในพิพิธภัณฑ์วัดเขาขุนพนม ในตำนานเล่าว่า เป็นเครื่องใช้ในห้องเครื่องของสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช เมื่อคราวเสด็จมาประทับที่เขาขุนพนม
8. กระด้งไม้ไผ่โบราณ พบในถ้ำบนถ้ำตากฟ้า บนเขาขุนพนม ปัจจุบันเก็บไว้ในพิพิธภัณฑ์วัดเขาขุนพนม ในตำนานเล่าว่า เป็นเครื่องใช้ในห้องเครื่องของสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช เมื่อคราวเสด็จมาประทับที่เขาขุนพนม
สถานที่สำคัญ
9. พระพุทธรูปปางต่าง ๆ ที่ได้มาจากถ้ำบนภูเขาขุนพนม ได้แก่ พระพุทธรูปปางประทานอภัย พระพุทธรูปปางมารวิชัย พระพุทธรูปทรงเครื่องเล็ก พระพุทธรูปปางสมาธิ พระพุทธรูปปางสมาธิ เป็นต้น
สถานที่สำคัญต่าง ๆ ของวัดเขาขุนพนม ส่วนใหญ่จะเกี่ยวข้องสมเด็จพระเจ้าตากมหาราชและผู้ที่มีบทบาทสำคัญกับวัดเขาขุนพนม ได้แก่
1. สถานที่ที่เกี่ยวข้องกับสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช ได้แก่ ซุ้มประตูวัดเขาขุนพนม หรือ เรียกว่า ซุ้มประตูสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช สระน้ำพระเจ้าตาก หอพระพรพระเจ้าตาก บ่อน้ำพระเจ้าตาก สถูปเจดีย์เก็บอัฐิสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช โบสถ์มหาอุตม์ ถ้ำเหวตากฟ้า อนุสาวรีย์สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช ลานหน้าพระสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช พระตำหนักทรงศีล พระตำหนักทรงบัลลังก์องค์สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช พระบรมรูปทรงม้า เตาหุงข้าวโบราณ เป็นต้น
1. พระอุโบสถ หรือโบสถ์มหาอุต เดิมเป็นอาคารก่ออิฐถือปูน ลักษณะศิลปกรรมชองพระอุโบสถและใบเสมาจัดอยู่ในสมัยอยุธยาตอนกลางถึงตอนปลาย กำหนดอายุราวพุทธศตวรรษที่ 22-23
2. มณฑปพ่อท่านกลาย หรือ มณฑปหลวงปู่กลาย สร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2548 เป็นสถานที่เก็บสรีระสังขารของหลวงปู่กลายไว้ในโลงแก้วไม่เน่าเปื่อย เหมือนคนกำลังนอนหลับปกติ ซึ่งหลวงปู่กลายเป็นเจ้าอาวาสองค์ที่ 7 ของวัดเขาขุนพนม มรณภาพสิริอายุรวม 94 ปี กล่าวกันว่าท่านเป็นผู้ที่สามารถรับนิมิตร และก็พบสิ่งที่ติดตามสมเด็จพระเจ้าตากสินมา คือสิ่งของเครื่องใช้ของสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช ในขณะที่ท่านยังมีชีวิตอยู่ก็จะเป็นวาจาสิทธิ์ด้วยเช่นกัน และท่านเป็นบุคคลแรกที่บุกเบิกการเปิดเผยเรื่องราวของสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราชสู่โลกภายนอกเขาขุนพนม จนกระทั่งมาถึงยุคที่พระครูปิยะคุณาธารมาสานต่อ และมีบุคคลจากทั่วสารทิศทั้งในและต่างประเทศเดินทางมาที่วัดเขาขุนพนมเป็นจำนวนมากในปัจจุบัน (ศานติ โบดินันท์, 2561, น. 194-195)
3. พระตำหนักสมเด็จพระสังฆราช : ตำหนักประมุขสงฆ์ การก่อสร้างพระตำหนักนี้เป็นความคิดริเริ่มของเจ้าประคุณสมเด็จพระพุฒาจารย์ เมื่อคราวเดินทางมาปฏิบัติสังฆกิจแทนพระองค์สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราชสกลมหาสังฆปริณายก ที่จังหวัดนครศรีธรรมราช เมื่อวันที่ 25 กุมภาพันธ์ 2540 เพื่อถวายสมเด็จพระสังฆราช (ศูนย์วัฒนธรรมจังหวัดนครศรีธรรมราช สถาบันราชภัฏนครศรีธรรมราช, 2541, น. 90-91)
4. พิพิธภัณฑ์วัดเขา : คลังมรดกช่างท้องถิ่น มีลักษณะเป็นอาคารคอนกรีต (ค.ส.ล.) ชั้นเดียว หลังคาทรงจั่วออกมุขคู่ ด้านหน้ายกพื้นสูง ปัจจุบันได้เก็บรวบรวมโบราณวัตถุชิ้นสำคัญ และมีคุณค่าตามประวัติศาสตร์และโบราณคดีหลายชิ้นที่พบที่เขาขุนพนม โบราณวัตถุส่วนใหญ่ได้มาจากถ้ำพระยาตากและถ้ำข้างเคียง มีการจัดเก็บรวบรวมอย่างเป็นหมวดหมู่ (ศูนย์วัฒนธรรมจังหวัดนครศรีธรรมราช สถาบันราชภัฏนครศรีธรรมราช, 2541, น. 115) ปัจจุบันจะเปิดให้ชมเฉพาะในกรณีพิเศษเท่านั้น แต่สามารถมองผ่านกระจกชมโบราณวัตถุได้
5. สระน้ำโบราณ ที่เรียกว่า “สระนางเลือดขาว” ลักษณะเป็นรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้า กว้าง 5 เมตร ยาว 10 เมตร ตามตำนานกล่าวว่าสระน้ำแห่งนี้มีไว้สำหรับบาทบริจาริการ นางสนมกรมใน (หญิงที่มีหน้าที่รับใช้ปฏิบัติ พระเจ้าแผ่นดิน)
ปัจจุบันวัดเขาขุนพนม เป็นแหล่งเรียนรู้และแหล่งท่องเที่ยวทางประวัติและวัฒนธรรม และมีการสันนิษฐานว่ามีความสัมพันธ์กับประวัติศาสตร์ของเมืองนครโดยตลอดโดยเฉพาะสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช วัดเขาขุนพนมเป็นวัดควรแก่การอนุรักษ์และศึกษาอีกวัดหนึ่ง เพราะวัดนี้ชวนให้เกิดข้อสันนิษฐานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์อยู่ไม่น้อย
ข้อมูลอ้างอิง
การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.). (ม.ป.ป.). วัดเขาขุนเขาพนม. https://thai.tourismthailand.org/Attraction/วัดเขาขุนพนม
ศานติ โบดินันท์, สวัสดิ์ กฤตรัชตนันต์ และ ดำรง โยธารักษ์. (2561). พระเจ้าตากสินมหาราชไม่ได้สิ้นพระชนม์ที่กรุงธนและที่เมืองคอน. หน้า 152-282
ศูนย์วัฒนธรรมจังหวัดนครศรีธรรมราช สถาบันราชภัฏนครศรีธรรมราช. (2541). เขาขุนพนม : ชีวิตและวัฒนธรรม. ศูนย์วัฒนธรรมฯ.
Thailand Tourism Directory กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา. (2564). วัดเขาขุนพนม. https://thailandtourismdirectory.go.th/th/attraction/1872
Visits: 4996