เส้นทางศึกษาธรรมชาติ เดินป่าหน้าฝน น้ำตกกรุงชิง
เส้นทางศึกษาธรรมชาติ หมายถึง เส้นทางที่กำหนดไว้หรือแนะนำให้นักท่องเที่ยวเดินชมสภาพธรรมชาติของพื้นที่แห่งหนึ่งแห่งใด เช่น บริเวณป่าไม้ในอุทยานแห่งชาติ วนอุทยาน สวนพฤกษศาสตร์ เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า ป่าชายเลน ป่าพรุ ทั้งนี้เพื่อมิให้นักท่องเที่ยวหลงทาง หรือเดินสะเปะสะปะไปเหยียบย่ำทำลายพืชพรรณไม้ หรือได้รับอันตรายจากอุบัติภัย ระหว่างเส้นทางเดินจะมีเครื่องหมายบอกทาง รวมทั้งมีป้ายแนะนำชื่อพรรณไม้ต่าง ๆ และสิ่งที่นักท่องเที่ยวควรทราบในสถานที่นั้น รวมทั้งมีทางสำหรับเดินได้อย่างสม่ำเสมอ สะดวกสบายพอสมควร ไม่เกิดอันตราย และมีป้ายในเส้นทางเป็นระยะ ๆ เพื่อให้นักท่องเที่ยวได้เรียนรู้ความหมายของธรรมชาติในระหว่างทางอีกด้วย (มูลนิธิไทยรักษ์ป่า, ม.ป.ป.)
การเดินทางตามเส้นทางศึกษาธรรมชาติของน้ำตกกรุงชิง เป็นการเดินป่าศึกษาธรรมชาติ จากสำนักงานอุทยานแห่งชาติเขาหลวง ไปยังน้ำตกกรุงชิง มีระยะทางประมาณ 3.70 กิโลเมตร ป่าแห่งนี้ยังนับเป็นป่าดึกดำบรรพ์ที่เต็มไปด้วยเฟินต้น หรือที่เรียกกันว่า มหาสดำ ซึ่งเป็นกลุ่มพืชในยุคร่วมรุ่นกับไดโนเสาร์ และระหว่างการเดินทางจะมีสถานที่ให้แวะศึกษาประวัติศาสตร์เมื่อครั้งที่กรุงชิงยังเป็นพื้นที่สีแดง แหล่งอาศัยของคอมมิวนิสต์อีกด้วย ท้ายปลายทางของการเดินป่าแห่งนี้ เราจะได้สัมผัสกับความสวยงาม และสายน้ำที่เย็นฉ่ำของน้ำตกกรุงชิง ที่ชื่อว่าหนานฝนแสนห่า
ในการเดินเส้นทางศึกษาธรรมชาติ ผู้ที่สนใจจะต้องเตรียมร่างกายให้แข็งแรง และอุปกรณ์ต้องพร้อม เพราะระยะทางไปกลับเกือบจะทั้งวัน ดังนั้นจะต้องเตรียมตัวให้พร้อม ดังนี้
- หมวก - เสื้อผ้าที่มิดชิด และระบายอากาศร้อนหรือจะเป็นเสื้อกันฝนได้ก็จะดี และควรใช้เสื้อผ้าสีเรียบๆ ที่กลมกลืนกับธรรมชาติ - รองเท้าผ้าใบเดินสบาย ๆ - กล้องถ่ายรูป - กล้องส่องทางไกล - สมุดบันทึก - เป้ใส่ของ - อาหารกลางวัน - น้ำดื่ม - ยากันทาก เช่น ยาเส้น ยาหม่อง หรือยาดม - ถุงใส่ขยะกลับมาด้วย เพราะไม่ควรจะทิ้งขยะไว้ในป่าและบริเวณน้ำตก และที่สำคัญจะต้องมีหัวใจที่อยากเรียนรู้ธรรมชาติ เพราะหากเราเต็มใจหรือกระตือรือร้นสำหรับการเดินศึกษาธรรมชาติ จะทำให้ระยะทางที่ไกลนั้น เพลิดเพลินไปได้ดีทีเดียว
ข้อควรระวังในการเดินศึกษาธรรมชาติ
ระหว่างเดิน ควรเดินอย่างระมัดระวัง เพราะต้นไม้มีพิษที่จะพบได้ตามข้างทาง ได้แก่ ต้นตำแยช้างและกะลังตังช้าง หากโดนตัวหรือมือจะมีอาการไหม้ หรืออาการอื่น ๆ ต้องรีบแจ้งเจ้าหน้าที่ทันที
สำหรับคนที่กลัวทาก ให้พยายามสังเกตบนพื้นดินว่ามีทากกำลังรอคอยเราอยู่หรือเปล่า และให้สังเกตตัวเอง หากมีความรู้สึกว่าเย็น ๆ ตรงบริเวณไหน ให้เปิดดูทันทีก่อนที่จะโดนทากกัด เพราะหากโดนกัดแล้ว เลือดจะไหลเยอะ หลังจากนั้นจะคันอยู่หลายวัน และอาจจะมีแผลเป็นร่วมด้วย เมือทากกัดรีบทายาทันที และกดเลือดห้ามไว้ซักครู่ ให้เลือดหยุดไหล
ทางศึกษาธรรมชาติ น้ำตกกรุงชิง ไป-กลับระยะทางประมาณ 8 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 4-5 ชั่วโมง แล้วแต่สภาพของผู้เดินทาง ทางเดินระยะไกล บางช่วงมีความลาดชัน ที่ลาดชันที่สุดน่าจะเป็นช่วงบันไดสามขั้น และช่วงที่เราขึ้นมาจากน้ำตกชั้น 2 คือหนานฝนแสนห่า มาชั้น 3 และชั้น 4 เส้นทางการเดินศึกษาธรรมชาติของน้ำตกกรุงชิง ป้ายบอกเล่าเรื่องราวของป่าแห่งนี้ มีป้ายทั้งหมด 13 จุด ไปดูกัน
เริ่มต้นจากที่ทำการอุทยานน้ำตกกรุงชิง ซึ่งเป็นหน่วยงานที่ดูแลน้ำตกกรุงชิง เราจะเห็นป้ายบอกรายละเอียดของเส้นทางไปจนถึงหนานของน้ำตก เมื่อเริ่มเดินทาง เราจะพบว่ามีเส้นทางที่สะดวกสบายพอสมควร ส่วนใหญ่เป็นพื้นปูซีเมนต์ แต่จะมีใบไม้หล่นลงมาปกคลุมตลอดทาง บางช่วงจะมีศาลาให้ไว้พักเหนื่อยและที่สำคัญหากเราเดินทางในช่วงฤดูฝน แต่หากฝนไม่ตกระหว่างทาง จะเห็นว่าป่ามีความชุ่มชื้น สดชื่น ใบไม้สีเขียวจัด และมีประกายของความสดชื่น เพราะเพิ่งสัมผัสกับน้ำฝน จึงทิ้งความความชุ่มชื้นไว้ และเมื่อมีแสงแดดส่องลงมาตามช่องว่างของต้นไม้และใบไม้ จะทำให้ระหว่างทางมีความสว่างได้บ้าง และที่สำคัญจะทำให้เราสบายตัว ไม่ร้อน ไม่เหนียวเหนอะหนะ ไม่อบอ้าว แต่มีความเย็น ทำให้เราสามารถเดินไปได้เพลิน ๆ ไม่เหนื่อยมาก และระหว่างทางเดินจะมีป้ายบอกทางเป็นระยะ เพื่อสื่อความหมายธรรมชาติ และแสดงให้เห็นถึงระบบนิเวศของป่าต้นน้ำอันทรงคุณค่าอีกด้วย (มูลนิธิไทยรักษ์ป่า, ม.ป.ป.) และหากเราเป็นนักดูนก ก็ต้องมีความเงียบนำ และมีอุปกรณ์ส่องนกไปด้วย จะทำให้เราเห็นนกหลากหลายชนิดในผืนป่าแห่งนี้ มากันไปเรียนรู้ความหมายของผืนป่าแห่งนี้ ทั้ง 13 ความหมาย
ก่อนจะเริ่มเตินทาง เราต้องติดต่อเจ้าหน้าที่ เพื่อทำการซื้อตั๋วเข้าชม ราคาเหมือนกันทั้งประเทศ คือ ผู้ใหญ่ คนละ 40 บาท เด็กเข้าฟรี และมีค่ารถอีก และหากต้องการเจ้าหน้าที่อุทยานนำทาง สามารถติดต่อได้ แต่หากจะให้มั่นใจให้ติดต่อมาล่วงหน้า เพื่อทางอุทยานจะได้เตรียมเจ้าหน้าที่ไว้บริการ แต่หากเราไม่ได้ศึกษาธรรมชาติจริง ๆ เพียงแค่อยากมาเที่ยวน้ำตก ก็สามารถเดินทางกันไปเองได้เหมือนกัน เพราะเส้นทางไม่ได้อันตรายมาก เพียงแต่ให้ทำตามที่สถานที่กำหนดอย่างเคร่งครัด
และเมื่อเตรียมตัวพร้อม คนพร้อม อุปกรณ์พร้อม ก็เริ่มต้นเดินทางกันได้เลย โดยมีจุดเริ่มต้นที่มีการบอกรายละเอียดของน้ำตกไว้ด้วยว่าน้ำตกกรุงชิงมีกี่ชั้น และมีหนานอะไรบ้าง ระยะทางเท่าไหร่ เพื่อให้เราตัดสินใจว่าจะไปต่อหรือพอแค่นี้ แต่หากเราเป็นสายลุย บอกได้คำเดียวว่าคุ้มค่ามากสำหรับเส้นทางการเดินทางศึกษาธรรมชาติและชมความสวยงามของน้ำตกแห่งนี้
01 เปลือกไม้ ผลงานสร้างสรรค์ของธรรมชาติ
เปลือกไม้ เปรียบได้กับผิวหนังของมนุษย์ ทำหน้าที่สำคัญในการปกป้องต้นไม้ให้อยู่รอด สีสัน ลักษณะภายนอก หรือ สารเคมีที่อยู่ภายในเปลือกไม้ล้วนผ่านกระบวนการออกแบบโดยธรรมชาติ เพื่อรักษาให้เผ่าพันธุ์ของตนเองอยู่ร่วมกับสิ่งมีชีวิตอื่นได้ เช่น รักษาความชื้น และป้องกันการบุกรุกทำลาย ในขณะเดียวกัน สิ่งมีชีวิตอื่นในระบบนิเวศอาศัยเปลือกไม้เป็นแหล่งที่อยู่อาศัยและแหล่งอาหาร เช่น นก แมลง ไลเคน และจุลินทรีย์ต่าง ๆ
“เปลือกไม้” จึงเป็นร่องรอยแห่งชีวิต และมีส่วนช่วยเพิ่มความหลากหลายทางชีวภาพให้กับผืนป่า
จุดแรกนี้ที่เราผ่าน เป็นจุดที่แสดงถึงเปลือกของต้นแลนบานต้นใหญ่ จะมีลักษณะเปลือกจะเปิดกางออก ชี้ลงดิน เป็นการป้องกันไม่ให้สัตว์เลื้อยคลานปีนขึ้นหลบภัยได้ ที่เรียกว่าแลนบาน หมาบถึงว่า ตัวแลนขึ้นต้นไม้ไม่ได้ เล็บไม่สามารถเกาะได้ จะทำให้หล่นลงมา
02 เฟินต้น พืชโบราณจากยุคดึกดำบรรพ์
จากบันทึกซากดึกดำบรรพ์ตั้งแต่ยุคไทรเอสซิก หรือเมื่อ 250 ล้านปีก่อน ทำให้นักวิทยาศาสตร์เฟินต้นรอดจากการสูญพันธุ์ครั้งใหญ่หลายครั้ง ด้วยการพัฒนาสายพันธุ์ที่เติบโตได้ในสภาพแวดล้อมที่แตกต่างกัน
“มหาสดำ” เป็นเฟินต้น หรือเฟินดินที่พบในพื้นที่ป่าดิบเขาภาคใต้ บริเวณที่มีความชื้นหรือใกล้แหล่งน้ำ จัดเป็นชนิดพันธุ์แรก ๆ ที่สามารถเข้ายึดครองพื้นที่ป่าเปิดจากภัยธรรมชาติ ช่วยลดการชะล้าง พังทลาย และเพิ่มความชุ่มชื้นแก่ดิน รวมถึงก่อให้เกิดการทดแทนของสังคมพืชรวดเร็วยิ่งขึ้น
- เฟินบางชนิดมีวิวัฒนาการน้อยมาก ไม่แตกต่างจากบรรพบุรุษที่พบในซากดึกดำบรรพ์
- มหาสดำเติบโตช้า มีความสูงเพิ่มขึ้นเพียง 2.5-5 ซม. ต่อปี ดังนั้นมหาสดำที่เราพบในป่า จึงอาจมีอายุหลายศตวรรษ
- ระบบรากถูกพัฒนาให้รวมตัวกันอย่างแข็งแรง สามารถยกลำต้นและใบขนาดใหญ่ ให้สูงพ้นจากพื้นดินไปรับแสงแดดและกระแสลมแรง ช่วยให้ สปอร์ใต้ใบที่มีขนาดเล็กมาก สามารถกระจายไปตามที่ชุ่มชื้นและอยู่ห่างไกลได้
เฟินต้น เป็นต้นเฟินต้นส่วนใหญ่ที่พบ คือ มหาสดำ ซึ่งมีอายุมาหลายสิบปี กรุงชิงแห่งนี้ถือเป็นแหล่งหลักของต้นมหาสดำเลยทีเดียว มีหลายขนาด และถือว่าเป็นต้นไม้ที่ปรับตัวได้ดีมาก ๆ ยามเราเดินผ่านหากแสงแดดส่องลงมา แสงกระทบกับใบที่โปร่ง จะสวยมาก และหากมีกรุงชิงแล้ว จะต้องหาให้เจอว่าต้นอยู่บริเวณไหน
03 ปูภูเขา ชนิดใหม่ของโลก
ประเทศไทยมีความหลากหลายทางชีวภาพมากที่สุดแห่งหนึ่งของโลก จึงพบสิ่งมีชีวิตชนิดใหม่อยู่บ่อยครั้ง ปูภูเขาอาจารย์ไพบูลย์ พบครั้งแรกที่นี่ และพบเป็นวงกว้างตามแนวเทือกเขานครศรีธรรมราชตอนเหนือ ปูชนิดใหม่ของโลกนี้ตั้งตามชื่อของศาสตราจารย์ ดร.ไพบูลย์ นัยเนตร ผู้เป็นนักอนุกรมวิธานของไทยด้านสัตว์กลุ่มปูที่สร้างผลงานด้านนี้ไว้เป็นจำนวนมาก
“ปูภูเขาอาจารย์ไพบูลย์” เป็นสัตว์น้ำไม่มีกระดูกสันหลัง มีบทบาทใหม่ในห่วงโซ่อาหารของระบบนิเวศน้ำไหลบริเวณนั้น สามารถดำรงชีวิตด้วยการขุดรูอาศัยอยู่ใกล้กันกับแหล่งน้ำและออกหากินอยู่บนดิน ปูเพศเมียที่มีลูกปูขนาดเล็ก จะคลานลงบริเวณชายน้ำ แล้วปล่อยให้ลูกออกมาอาศัยและหากินตามริมน้ำ
ถึงตรงนี้ ทีมเราต่างตื่นเต้นอยากจะเห็นปูที่ว่า เห็นเพียงแค่ก้ามโตสีเหลืองอยู่ในรูเท่านั้น เพราะหากเราไปกันหลายคน และไม่เงียบเสียง ปู่จะรีบลงรูทันทีหลังจากได้ยินเสียงเท้าเดิน แต่เราก็ยังพยาบาลซูมจนได้ภาพมาเท่าที่เห็น ได้เท่านี้จริง ๆ
04 จากป่าสมบูรณ์ สู่เส้นทางยุทธศาสตร์
ภายใต้ผืนป่าที่เนืองแน่นไปด้วยทรัพยากร มีประวัติศาสตร์เล่าขานถึงการต่อสู้ของพรรคคอมมิวนิสต์ที่มีผืนป่ากรุงชิงเป็นที่มั่นสำคัญในการต่อสู้กับฝ่ายรัฐ โดยใช้ยุทธวิธีสร้างกับดัก หรือ “หลุมขวาก” จากภูมิปัญญาพรานท้องถิ่น ด้วยการขุดหลุมลึก นำไม้จากต้นคุเรียน หรือต้นหลาวชะโอน พืชพื้นถิ่นประจำป่ากรุงชิง มาเหลาให้เป็นแท่งแหลม เรียกว่า “ขวาก” ปักลงทั่วหลุม จากนั้นนำไม้ไผ่สานพอหยาบ ๆ คลุมปากหลุมแล้วโรยด้วยใบไม้พรางไว้
หากยังถูกรุกคืบ จะมีแนวรับธรรมชาติคือพื้นที่ลาดชัน เรียกว่า “บันไดสามขั้น” ช่วยตัดกำลังให้เหนื่อยล้า เข้าถึงได้ยาก ยุทธวิธีเหล่านี้ทำให้กองกำลังฝ่ายรัฐต้องใช้เวลานานหลายปีจึงจะสามารถเข้ายึดค่ายกรุงชิงได้ โดยตีฝ่าด้านป้อมปราการข้ามบันได้สามขั้นเข้าสู่ “ประตูชัย” ในปี พ.ศ. 2520
หลุมขวาก เป็นกับดักสัตว์ จากภูมิปัญญาของพรรคคอมมิวนิสต์ โดยหลุมจะลึกมากและภายในหลุมจะปักด้วยไม้แหลมที่เหลามาจากต้นหลาวชะโอน แต่ตอนที่เราเห็นปัจจุบันสภาพหลุมตื้นเขินพอสมควร ระหว่างทางเดินเจ้าหน้าที่ก็บอกให้ระวัง เพราะเดินไปอาจจะตกหล่นไปบางหลุมได้ ถัดไปเราก็จะพบกับบันไดสามขั้น เหนื่อยกันทีเดียวกับการเดินขึ้นบนทางลาดชันนี้ แต่เดินสะดวกเพราะมีทางเดินให้ ครึ่งทางก็นั่งพักเหนื่อยได้ และใกล้ ๆ กันก็มีต้นลูกชกต้นสูงทีเดียวและลูกดกแทบจะล้นออกจากต้น
05 หุ้นส่วนที่ยั่งยืนในผืนป่า
ไม่มีความสัมพันธ์ระหว่างพืชและแมลงผสมเกสรชนิดใดที่จะเป็นหนึ่งเดียวกันมากเท่าวงจรการผสมระหว่างต้นไทรและต่อไทร ซี่งมีวิวัฒนาการเฉพาะร่วมกันมาอย่างยาวนาน ผลไทรที่ยังไม่สุกดี แท้จริงแล้วคือช่อดอกของไทร ที่มีเฉพาะต่อไทรตัวเมียที่พร้อมวางไข่ สามารถผ่านเข้าไปเพื่อผสมเกสรได้เท่านั้น การพบกันโดยบังเอิญเมื่อ 90 บ้านปีก่อน กลับกลายเป็นความสัมพันธ์ที่เป็นดั่งหุ้นส่วนชีวิตที่ต้องพึ่งพาอาศัยกันอยางมหัศจรรย์
ต้นไทร ออกลูกครั้งละมาก ๆ ตลอดทั้งปี เพื่อพร้อมให้ต่อไทรเพศเมียที่มีวงจรชีวิตอยู่เพียง 48 ชั่วโมงมาวางไข่ หลักจากผสมเกสรแล้ว ใช้เวลา 1-2 เดือนในการสุกและกินได้ จึงเป็นแหล่งอาหารที่อุดมสมบูรณ์สำหรับสัตว์ป่าหลากหลายสายพันธุ์ เช่น นก ชะนี กระรอก หรือหมูป่า และเก้ง จากวิวัฒนาการแบบพึ่งพาอาศัยในการแพร่พันธุ์ เกิดเป็นความเชื่อมร้อยสรรพชีวิตแห่งผืนป่า
ช่วงนี้ก็จะเป็นต้นไทรใหญ่ ที่ถือเป็นหุ้นส่วนที่ยั่งยืน เพราะไทรเป็นพืชที่ถือว่าเป็น “นักบุญแห่งผืนป่า นักฆ่าแห่งพงไพร” ซี่งหมายถึงเป็นต้นไม้ที่เอื้อหรือเป็นที่พึ่งพิงให้กับสัตว์ต่าง ๆ ได้มาพึ่งพาอาศัย แต่หากไทรไปอยู่ใกล้ต้นไม้ต้นไหน ต้นไม้นั้นก็จะไม่รอด
06 ร่องรอยแห่งประวัติศาสตร์
ลานสนามบาส-ถ้ำดอนเมือง
ณ ฐานที่มั่นกรุงชิง ราวปี พ.ศ. 2518 “ลานสนามบาส” แห่งนี้ ถูกปรับให้เป็นพื้นที่โล่งเพื่อใช้รวมพลทำกิจกรรมต่าง ๆ เป็นทั้งลานฝึกทหาร จุดหุงต้มอาหารเลี้ยงกำลังพล พื้นที่พักผ่อนออกกำลังกาย เช่น การเล่นบาสเกตบอล และตั้งโรงเรียนการเมืองขยายแนวคิดและอุดมการณ์ให้กับสหายพรรค บริเวณโดยรอบเป็นป่าอุดมสมบูรณ์ มีต้นไม้สูงใหญ่มากมาย จึงใช้หลบจากสายตาฝ่ายรัฐได้ดี อีกทั้งมี “ต้นหลุมพอ” ที่มีรากค้ำยันแบบแผ่นขนาดใหญ่ ช่วยซ่อนอำพรางตัวระหว่างสู้รบ
นอกจากนั้น “ลานสนามบาส” ยังเป็นจุดศูนย์กลางด้านในที่เชื่อมต่อไปยังจุดสำคัญอีก 2 แห่ง คือ “ถ้ำเกลือ” ซึ่งใช้เก็บเสบียงที่ขนมาจากหมู่บ้านใกล้เคียง และ “ถ้ำดอนเมือง” โถงกว้างจุคนได้ประมาณ 100 คน มีช่องหินวงกลมขนาดใหญ่ไว้เฝ้าสังเกตุการณ์ทางอากาศ จึงใช้เป็นที่หลบภัยอีกด้วย
ร่องรอยแห่งประวัติศาสตร์ อีกจุดที่เราต้องเดินเลี้ยวเข้าป่าไปสักนิดจะเจอกับ ที่ที่เคยเป็นลานสนามบาส ที่ออกกำลังกายและพักผ่อนหย่อนใจ แต่ชณะนี้มีหญ้าปกคลุมไม่ค่อยเห็นอะไร แแต่หากเราเลี้ยวเข้าไปด้านซ้ายอีกนิด ก็ขะเจอกับ ต้นหลุมพอ ที่มีขนาดต้นใหญ่และสูงมาก จนเขาเรียกว่า หลุมพอยักษ์ รอบต้นกว้างประมาณ 6.5 เมตร สูงประมาณ 40 เมตร และมีอายุประมาณ 600-700 ปี มีรากที่แข็งแรงมาก มีหลายต้น แต่มีต้นนี้ต้นเดียวที่ใหญ่และสูงมาก เมื่อก่อน ต้นไม้นี้ยังใช้เป็นหลุมหลบภัยได้ดีเพราะขนาดเราเข้าไปยืนรากก็บังไปเกือบครึ่งตัวแล้ว และเจ้าหน้าที่ชี้ให้ดูจุดที่เรียกว่า ถ้ำดอนเมือง ซี่งนี้ตอนนี้ก็เป็นป่ารก เห็นเพียงทางเข้าที่รกครึ้มไปด้วยต้นไม้ เจ้าหน้าที่อุทยานฯ ได้ให้ข้อมูลว่าด้านในเป็นป่ารกมาก ไม่ค่อยมีร่องรอยหลงเหลือแล้วด้วย และทีมเรามีเด็กเล็กร่วมทีม จึงไม่สะดวกที่จะเดินไปสำรวจถ้่ำดอนเมือง
07 มดยักษ์ปักษ์ใต้
มดขนาดใหญ่ที่สุดในโลก
ผืนป่ากรุงชิงแห่งนี้ มีมดกว่า 500 ชนิด จากที่พบในประเทศไทยประมาณ 1,200 ชนิด ด้วยขนาดลำตัวของมดยักษ์ปักษ์ใต้ ยาวถึง 2.5-3 ซม. นับได้ว่าเป็นมดที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก มักอาศัยอยู่ตามขอนไม้ผุขนาดใหญ่และใต้ดินบริเวณต้นไม้ใหญ่เฉพาะในป่าดิบชื้นที่สมบูรณ์ทางภาคใต้ จึงใช้เป็นดัชนีบ่งชี้สภาพของป่ากรุงชิงได้ทางหนึ่ง
“มด” มีบทบาทสำคัญในห่วงโซ่อาหารหลายระดับ ช่วยทำให้ระบบนิเวศอยู่ในสภาวะสมดุล และเป็นผู้ช่วยแพร่กระจายพันธุ์ของต้นไม้ในป่า ซึ่งหากพื้นที่ป่าถูกรบกวน มดเหล่านี้อาจสูญพันธุ์ และยังทำให้สัตว์หรือพืชที่เปราะบางหายไปจากพื้นที่ได้เร็วยิ่งขึ้น
เอาเข้าจริง กว่าจะเจอมดยักษ์ เราต้องก้มหากันตลอดทาง เพื่อให้เจอมดตัวใหญ่ ๆ แต่มดมีเยอะจริง ๆ เขาบอกว่ามีมากกว่า 500 ชนิด แต่เราต้องการหามดยักษ์ปักษ์ใต้ เดินออกมาได้สักพักก็พบเจ้ามดยักษ์กำลังมุ่งตรงมาที่เรากำลังเดินอยู่พอดี ขนาดตัวใหญ่กว่ามดธรรมดามาก และสังเกตง่ายเพราะท้องจะมีสีแดงต่างจากมดตัวอื่น ๆ ว่าไปก็หายากเหมือนกันนะเนี่ย
08 พื้นที่ชุ่มน้ำ
แหล่งน้ำจืดคุณภาพกลางผืนป่า
ลำห้วยเล็ก ๆ กลางหย่อมป่าพรุ ยามหน้าแล้งจัด น้ำลดเหลือปริ่มตะกอนดินและซากใบไม้ที่ทับถม ยามหน้าฝน มีน้ำท่วมขังนานนับเดือน ดินเป็นกรดและอ่อนนุ่ม พืชพันธุ์ที่เติบโตได้ในสภาพเช่นนี้ ต่างผ่านการคัดคัดกรองจากธรรมชาติด้วยการปรับตัว และพัฒนาแตกรากให้แผ่ออกด้านข้างเพื่อยึดดินไว้ไม่ให้ล้มและทนต่อกระแสน้ำหลากที่รุนแรง
ในแหล่งน้ำจืด มีสิ่งมีชีวิตอาศัยอยู่มากมายหลายชนิด แมลงน้ำเป็นสัตว์กลุ่มที่พบมากที่สุด นอกจากจะมีบทบาทต่อห่วงโซ่อาหารในระบบนิเวศน้ำจืดแล้ว ยังเป็นดัชนีชี้วัดคุณภาพน้ำอีกด้วย เนื่องจากเป็นสิ่งมีชีวิตที่มีความสัมพันธ์กับแหล่งน้ำโดยตรง ชนิดของแมลงน้ำที่พบ สามารถจำแนกคุณภาพน้ำได้ แม้น้ำบริเวณนี้จะมีสีชาอ่อนจากการทับถมของเศษใบไม้ แต่สามารถพบแมลงน้ำกลุ่ม EPT ซึ่งช่วยยืนยันว่าแหล่งน้ำแห่งนี้มีคุณภาพดีมาก
เดินมาเรื่อย ๆ ก็จะเจอที่ลุ่มและมีแอ่งน้ำ หรือลำห้วยเล็ก ๆ มีปลาเล็ก ๆ หลายตัว น่าจะเป็นพื้นที่ชุ่มน้ำ เพราะดินแถวนี้จะนุ่มมาก และน่าจะเป็นแหล่งน้ำมีคุณภาพดีมาก เพราะน้ำใสจนเห็นตัวปลาแหวกว่ายกันไปมา
09 เรื่องราวของไผ่
“ไผ่” เป็นพืชตระกูลหญ้าที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก โดยมีมากกว่า 1,000 ชนิดทั่วโลก ซึ่งในไทยพบมากกว่า 60 ชนิด ไผ่มีรากที่แผ่กระจายและหนาแน่น ทำให้ขยายพันธุ์ได้เป็นวงกว้าง อีกทั้งระบบเหง้าที่พิเศษของไผ่ สนับสนุนให้ต้นไผ่ที่โตเต็มที่ส่งคาร์โบไฮเดรตและสารอาหารที่จำเป็นแก่หน่อและต้นอ่อน เพื่อให้ไผ่รุ่นต่อไปแข็งแรงพร้อมเติบโต เราจึงมักพบไผ่อยู่รวมกันเป็นกอ
ไผ่ ยังมีความเกี่ยวพันกับความเป็นอยู่และวิถีวัฒนธรรมของชุมชน ทั้งในประเทศไทยและทวีปเอเชีย โดยมีความเชื่อว่า หากดอกไผ่บานจะเป็นสัญญาณแห่งความอดอยาก แท้จริงแล้ว ตลอดชีวิตของไผ่ออกดอกเพียงครั้งเดียวเมื่อหมดอายุขัย ต้นไผ่จะลดจำนวนลงและตายในที่สุด ทำให้การใช้ประโยชน์จากไผ่สิ้นสุดลง
บริเวณจะเจอต้นไผ่จำนวนมาก จนเรียกว่าเป็นดงไผ่ได้เลย แสงแดดส่องผ่านใบไผ่ลงมา สวยงาม ไล่เฉดสีกันไปแก่ อ่อน ยามต้องแสงแดด พื้นดินก็ปลกคลุมไปด้วยใบไผ่ เราหยุดพักจากการเดินให้หายเหนื่อยได้บ้าง เพราะช่วงนี้พื้นดินแห้งดี
10 ต้นชิง
ไม้หมายถิ่น
ข้อสันนิษฐานหนึ่งของชื่อ “กรุงชิง” คือ พื้นที่นี้เคยมีต้นชิงเป็นจำนวนมาก ภูมินามของแต่ละท้องถิ่น สะท้อนประวัติศาสตร์และความสัมพันธ์ที่เกี่ยวข้องกับอัตลักษณ์อันโดดเด่นของแต่ละพื้นที่ เช่นเดียวกับ “ศาลาดงชิง” ในเส้นทางแห่งนี้ ที่นักท่องเที่ยวเคยใช้พักพิงเป็นร่องรอยของความเนืองแน่นของพืชตระกูลปาล์มอย่างต้นชิง ซึ่งปัจจุบันพบเห็นไม่มากนักในป่าผืนนี้
ชิง มักอาศัยอยู่ใต้ร่มเงาที่มีแสงแดดน้อย มีความสวยงามด้วยเรือนยอด และใบแฉกวงกลมขนาดใหญ่ จึงมีช่องว่างให้ลมและฝนปริมาณมากไหลผ่านได้ดี ในอดีต ชาวบ้านนำยอดชิงมาประกอบอาหาร ใช้ใบเป็นร่มหรือภาชนะใส่อาหาร จึงเป็นนิเวศวัฒนธรรมที่ควรแก่การอนุรักษ์ หวงแหน เพื่อรักษาคุณค่าและบ่งบอกความหมายของ “กรุงชิง”
ต้นไม้หมายถิ่น ที่เขาสัณนิษฐานว่าอาจจะเป็นที่มาของกรุงชิงแห่งนี้ เป็นจุดรวมของต้นชิง เล็กใหญ่ปะปนกันไป และแสง
11 หมุนเวียนสู่ความสมดุล
สรรพสิ่งภายใต้ผืนป่าล้วนก่อเกิดประโยชน์ซึ่งกัน ไม่มีข้อยกเว้นแม้แต่พืชหรือสัตว์ที่เหลือเพียงซาก ด้วยมีสิ่งมีชีวิตที่มีบทบาทเป็นย่อยสลายจำนวนมากกระจายตัวอยู่ทั่วผืนป่า เช่น แมลง สัตว์เลื้อยคลาน เห็ดนานาชนิด รวมถึงจุลินทรีย์อย่างราและแบคทีเรีย ทำให้เกิดการหมุนเวียนธาตุอาหารกลับลงสู่ดิน ช่วยให้ต้นไม้และสิ่งมีชีวิตในระบบนิเวศเติบโตเป็นอย่างดี ขณะเดียวกันมีราทำลายแมลง คอยช่วยควบคุมจำนวนแมลงในธรรมชาติเพื่อให้สมดุลเช่นกัน
ธรรมชาติซี่งเป็นต้นแบบการจัดการทรัพยากรอย่างสมดุล และเป็นแรงบันดาลใจให้กับมนุษย์ในการพัฒนาหนทางเพื่อแก้ไขปัญหาาสิ่งแวดล้อมในปัจจุบัน รวมถึงหาทางออกการอยู่ร่วมกันระหว่างมนุษย์กับธรรมชาติอย่างยั่งยืน
ระยะนี้เรายังเจอสัตว์หลายชนิด เช่น มดชิด หรือกระสุนพระอินทร์ จั๊กจั่นงวงช้าง ปาล์มช้างร้องไห้ เถาวัลย์ยักษ์อีกด้วย และเหมือนกับว่าใกล้จะได้เจอน้ำตกเสียทีแล้ว เพราะทีมที่ล่วงหน้าไปแล้ว ตะโกนรอด้วยความหิวแล้วหล่ะ
12 เพราะเราคือ "ระบบนิเวศเดียวกัน"
การมีอยู่ของสิ่งมีชีวิตหนึ่ง สัมพันธ์กับสิ่งมีชีวืตอื่นเสมอ ในธรรมชาติ สิ่งมีชีวิตล้วนดำรงอยู่เพื่อรักษาเผ่าพันธุ์และสมดุลของระบบนิเวศ เช่นเดียวกับผืนป่าแห่งนี้ ที่สะท้อนให้เห็นถึงจัวหวะชีวิตของความหลากหลายทางธรรมชาติ ที่มีความเชื่อมโยงเป็นหนึ่งเดียวกัน ทั้งยังเกี่ยวเนื่องต่อชีวิตของมนุษย์อีกด้วย ดังนั้นหากธรรมชาติได้รับผลกระทบจากความเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ย่อมส่งผลกระทบต่อวัฏจักรการดำรงชีวิตทางธรรมชาติ รวมถึงมนุษย์อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
มนุษย์ ผู้ได้รับประโยชน์ทั้งทางตรงและทางอ้อมมาจากความสัมพันธ์นี้ ได้รับแหล่งอาหาร เพื่อกินอยู่และสร้างรายได้ ได้รับแหล่งน้ำและอากาศบริสุทธิ์ การพึ่งพาของมนุษย์ในระบบนิเวศเดียวกัน จึงมีส่วนสำคัญต่อการอยู่ร่วมกัน เพื่อรักษาสมดุลของธรรมชาติ
ในที่สุดก็มาถึงจุดที่สะท้อนให้เห็นถึงการพึ่งพาอาศัยกันของป่า สัตว์ และมนุษย์ และจุดนี้ยังได้เห็นน้ำตกกรุงชิงชั้นแรกคือ ชั้นที่ 7 วังเรือบิน และเราก็ได้พักกินข้าวที่แบกกันมาตั้งแต่พื้นล่าง แต่อื่นใดก็คือเป็นที่ปลดทากสำหรับหลายคนที่โดนทากเล่นงานเข้าแล้ว และเป็นมื้อกลางวันที่รอคอย ได้บรรยากาศท่ามกลางธรรมชาติ เสียงน้ำไหลไปด้วย ได้พักขา พักตัว หรือบางคนไปอาบน้ำ ล้างตัว ก่อนที่จะเริ่มไปสัมผัสกับสายน้ำอันเย็นฉ่ำของสายน้ำตก และอาจจะเตรียมมาเล่นน้ำกันแล้วด้วย เมื่อพักหายเหนื่อยแล้วก็เริ่มต้นกับการสัมผัสกับหนานทั้ง 7 ชั้น กันดีกว่า
13 หนานฝนแสนห่า ไหลจากภูผาสู่มหานที
“หนานฝนแสนห่า” น้ำตกชั้นที่สวยที่สุดของกรุงชิง มีปริมาณน้ำแตกต่างกันไปในแต่ละฤดู ป่าผืนใหญ่แห่งนี้เป็นบ้านของพืชพันธุ์และสัตว์ป่า เป็นต้นกำเนิดของคลองกรุงชิง สายน้ำที่เกิดจากน้ำตกแห่งนี้จะไปไหลไปรวมกับห้วยคลองกลาย ค่อยหล่อเลี้ยงชุมชน ก่อนนำพาแร่ธาตุจากผืนป่าไปสู่สัตว์น้ำในท้องทะเล
สรรพสิ่งบนโลกนี้ ล้วนก่อเกิดและเกื้อกูลภายใต้วัฏจักรของธรรมชาติ เพราะมีป่ากักเก็บน้ำ เพราะมีน้ำจึงมีชีวิต การดำรงอยู่ของทุกสิ่งจึงต้องอาศัยความเข้าใจและจิตสำนึกที่ตระหนักเห็นคุณค่า เพื่อรักษาความงดงามและคุณค่าอันไม่จำกัดให้กับโลกตลอดไป
เราจะต้องเดินไปให้ถึง หนานฝนแสนห่า เท่านั้น จึงจะได้เจอกับจุดที่ 13 ซี่งเป็นจุดไฮไลท์ของการเดินทางศีกษาธรรมชาติ และชมน้ำตกที่สวยที่สุดของน้ำตกกรุงชิง คุ้มกับการเดินทางที่เหนื่อยมาตั้งแต่เช้า พักกาย พักใจไปกับน้ำตกอันชุ่มฉ่ำ ก่อนจะต้องเดินกลับ การเดินทางตอนนี้จะต้องใส่กำลังใจให้เต็มเปี่ยมกับการต้องขึ้นทางชัน ให้ถึงจุดที่ 12 ที่ผ่านมาให้ได้
นี่แหละความสมดุลของธรรมชาติ ทั้งสัตว์ พืช น้ำ หากเราตั้งใจเรียนรู้ธรรมชาติรอบตัวที่เราเดินมา จะเกิดความรู้สึกรักและหวงแหน อยากให้ป่า และสัตว์ป่า พืชพรรณทั้งหลายคงอยู่ตลอดไป ขอบคุณผู้ดูแลรักษาให้สิ่งเหล่านี้ คอยดูแล ปรับปรุงให้คงอยู่ แล้วพบกับ EP ต่อไป ของการตามหาน้ำตกที่อยู่ในแบ๊งค์พัน น้ำตกกรุงชิง และหนานฝนแสนห่า จุดหมายปลายทางอันสวยงามที่ต้องแลกมาด้วยความอดทน เหนื่อยล้าของนักท่องเที่ยวทั้งหลาย
สรรพสิ่งบนโลกนี้ ล้วนก่อเกิดและเกื้อกูลภายใต้วัฏจักรของธรรมชาติ เพราะมีป่ากักเก็บน้ำ เพราะมีน้ำจึงมีชีวิต การดำรงอยู่ของทุกสิ่งจึงต้องอาศัยความเข้าใจและจิตสำนึกที่ตระหนักเห็นคุณค่า เพื่อรักษาความงดงามและคุณค่าอันไม่จำกัดให้กับโลกตลอดไป
ขอขอบคุณ หน่วยพิทักษ์อุทยานแห่งชาติที่ ขล. 3 (น้ำตกกรุงชิง) ที่อนุเคราะห์เจ้าหน้าที่นำทางและให้ความรู้กับทีมงาน
และสามารถรับชมการนำเที่ยวแบบ 360 องศา ได้จาก แอพพลิเคชั่น “กรุงชิง Virtual Nature Trail 360 องศา”
อ้างอิง
มูลนิธิไทยรักษ์ป่า. (ม.ป.ป.). เส้นทางศึกษาธรรมชาติ. มูลนิธิ. https://thairakpa.org/media_release/เส้นทางศึกษาธรรมชาติ
มูลนิธิไทยรักษ์ป่า. (ม.ป.ป.). Krung Ching Virtual Nature Trail 360. มูลนิธิ. https://thairakpa.org/krung_ching/kc/
Visits: 184
- อุทยานแห่งชาติเขาหลวง : จากผืนป่าอันอุดมสมบูรณ์สู่แหล่งต้นน้ำสำคัญของแดนใต้ตอนกลาง
- เส้นทางศึกษาธรรมชาติ เดินป่าหน้าฝน – น้ำตกกรุงชิง
- น้ำตกกรุงชิง ความงามกลางป่าเขาหลวงและธนบัตร 1000 บาท
- น้ำตกอ้ายเขียว : เส้นทางศึกษาธรรมชาติที่เดินสบายตามสวนหินเลียบลำธาร
- ป่ากรุงชิง มหัศจรรย์พืชพรรณและสัตว์ป่าแห่งผืนป่าดิบชื้นของภาคใต้
- น้ำตกพรหมโลก อีกหนึ่งเสน่ห์ทางธรรมชาติและสายน้ำของนครศรีธรรมราช
- เส้นทางศึกษาธรรมชาติ : สัมผัสบรรยากาศป่าดงดิบริมน้ำตกพรหมโลก