ลูกประ : ไม้ผลประจำถิ่น@นครศรีธรรมราช

ลูกประ

ลูกประ หรือ ลูกกระ คือ เมล็ดหรือผลของต้นประ ไม้ยืนต้นที่พบในได้ในป่าดงดิบของภาคใต้ โดยเฉพาะในเขตเทือกเขา ป่ากรุงชิง อำเภอนบพิตำ จังหวัดนครศรีธรรมราช จังหวัดตรัง และจังหวัดใกล้เคียงที่อยู่ในเขตเทือกเขาบรรทัด ยาวตลอดไปจนถึงมาเลเซีย คนนครศรีธรรมราชนิยมนำมาแปรรูปเป็นอาหารได้หลากหลายจาน ลูกที่แก่จัดต้มให้สุกแล้วนำไปดองในน้ำเกลือ เก็บไว้กินได้นาน จะกินเล่น หรือใส่ในแกงส้ม แกงพุงปลา ต้มกะทิ เป็นผักเหนาะข้าว หนมจีน  นอกจากนี้แล้วยังนำมาคั่วให้แห้ง แกะเปลือกออกนำมาทำน้ำชุบ หอม อร่อย ทำให้แห้งเก็บใส่กระปุกไว้กินได้ เมื่อก่อนอาจะเป็นอาหารจานบ้าน ๆ แต่ในปัจจุบันมีขายตามท้องตลาด

  • ในปัจจุบัน มีการนำมาเพิ่มมูลค่า ด้วยการทำ ลูกประทรงเครื่อง นำมาเป็นส่วนประกอบของช็อกโกแลตอีกด้วย
  • ประ ความหมายตามพจนานุกรม ราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ. 2554 เรียกว่า “ลูกกระ”
  • “(ถิ่น-ปักษ์ใต้, มลายู)  [ปฺระ] น. ลูกกระ” (https://dictionary.orst.go.th/)
  • ลูกประ เป็นภาษาถิ่น ตามพจนานุกรมจะเรียกว่า ลูกกระ มีลักษณะคล้ายลูกยางพารา เวลาสุกก็จะแตกตกลงพื้นเช่นเดียวกันกับลูกยางพารา พบได้มากในภาคใต้
ลูกประ
ประ
ลูกประ งอก

ลักษณะทั่วไป

ชื่อทั่วไป: ประ

ชื่อวิทยาศาสตร์Elateriospermum tapos Blume

ชื่อท้องถิ่น: ภาคใต้ เรียก ประ/กระ ; มลายู-ยะลา เรียก ปีระ    

ถิ่นกำเนิด: ภาคใต้ของประเทศไทย มาเลเซีย และแถบหมู่เกาะสุมาตรา

ลักษณะทางพฤกษศาสตร์ 

ต้น: ไม้ต้นขนาดใหญ่  สูงถึง 20-40 เมตร

ใบ: ใบเดี่ยว ใบเดี่ยว เรียงสลับกัน ใบเป็นรูปรี ฐานใบมน กิ่งแหลม ปลายใบแหลม ขอบใบหยักเป็นคลื่นเล็กน้อย เมื่อแตกใบอ่อนจะมีสีชมพูแดงและค่อย ๆ  เปลี่ยนเป็นสีเขียว และเมื่อแก่มีสีน้ำตาล ก้านใบยาวสีเหลืองหรือเขียวอ่อน ใบรูปรีหรือขอบขนาน ปลายใบยาวคล้ายหาง โคนใบสอบเรียวหรือมน ขอบใบเรียบ ผิวใบเป็นมันวาว เส้นกลางใบชัดเจน เส้นแขนงใบ 15-20 คู่ เรียงตรงข้ามหรือสลับจากเส้นกลางใบ

ดอก: ดอกออกเป็นช่อกระจะที่ปลายกิ่ง ช่อสีขาวนวล ดอกแยกเพศ ดอกตัวผู้มีกลีบเลี้ยง 4-6 กลีบ มีเกสรตัวผู้จำนวนมาก ดอกตัวเมีย รังไข่มีสีชมพูอ่อน ช่อดอกยาว 19 เซนติเมตร ดอกมีสีขาวเกสรสีเหลือง มีกลิ่นหอมฉุน

ผล: ผลสดมีเปลือกหุ้มเป็นพู วงรี ผลอ่อนสีเขียวแก่จัดเป็นสีดำปนน้ำตาลมีเปลือกข็งหุ้มผิวมัน เนื้อข้างในเป็นสีขาวนวล กะเทาะเปลือกออกมาแล้วบางคนบอกคล้ายเม็ดขนุน

ยอดประ
แกงส้ม ลูกประ

ลูกประกับตำรับอาหารพื้นถิ่นเมืองคอน

แกงส้ม ลูกประ

วิธีทำ:

  1. เตรียมปลา (ใช้ปลาน้ำจืด เช่น ปลาช่อน ปลานิล) 
  2. เครื่องแกงส้มผสมกะปิเล็กน้อย 
  3. แกะเปลือกประดอง ล้างน้ำทิ้ง 1 ครั้ง 
  4. ใส่น้ำในหม้อตั้งไฟให้เดือด 
  5. ใส่เครื่องแกงผสมให้เข้ากัน 
  6. เติมเครื่องปรุง น้ำปลาหรือเกลือ น้ำตาลปึก น้ำมะนาวหรือใช้ส้มแขก 
  7. รอจนน้ำแกงเดือดจึงใส่ปลาลงไป 
  8. เมื่อปลาสุกใส่ลูกประที่เตรียมไว้ ชิมรสตามชอบ
น้ำชุบ ลูกประ
ลูกประดอง

น้ำชุบ ลูกประ

วิธีทำ

  1. ลูกประสดแกะเปลือกออก หั่นเป็นแว่นบาง ๆ คั่วจนเหลืองกรอบ
  2. ตำพอหยาบ ๆ 
  3. เติมหอมซอย กะปิ พริกขี้หนูตำให้ละเอียด
  4. ปรุงรสด้วยน้ำตาลบึก น้ำมะนาวเล็กน้อย คลุกเคล้าให้เข้ากัน ชิมรสตามชอบ

ลูกประ ดอง

 วิธีทำ

  1. ล้างให้สะอาด แช่น้ำราว 3 ชั่วโมงเพื่อคัดลูกเสียที่ลอยน้ำทิ้ง
  2. นำไปต้มในน้ำสะอาด ต้มด้วยไฟแรง ใส่เกลือ ต้มจนสุก 
  3. เมื่อสุกแล้วตักใส่ภาชนะ พักไว้ให้เย็น 
  4. นำลูกประมาดองด้วยน้ำเกลืออีกครั้ง ดองแล้วจะยังคงความมันไว้เหมือนเดิม แต่เพิ่มรสเปรี้ยว เค็ม อร่อยเหมือนเดิม

การใช้ประโยชน์จากป่าประ

  1. ใช้ประกอบอาหาร โดยนำมาดอง ต้ม คั่ว ทอด ฉาบ และประกอบอาหาร เช่น แกงส้ม น้ำชุบ ลูกประทรงเครื่อง ฯลฯ
  2. ใช้เป็นสีย้อมผ้า  ใบของต้นประนำมาทำสีย้อมผ้า จะให้สีน้ำตาลอ่อน น้ำตาลเข้ม สีอิฐ และสีชมพูอมแดง
  3. ใช้ทำของเล่น  โดยนำมาทำเป็น “ลูกหวือ” ของเล่นเด็ก ๆ ในสมัยก่อนเก่า

 

การรักษาป่าประ ตามความเชื่อและภูมิปัญญาชาวบ้าน

ชาวบ้านในชุมชนจะมีพิธีกรรมการเปิดป่าประ เพื่อบวงสรวงเจ้าที่หรือเทวาอารักษ์ที่ดูแลป่าประ โดยมี  “ต้นประขวัญ” ซึ่งเป็น ต้นประในพิธีกรรม 1 ต้น เป็นตัวแทนแห่งความเป็นศิริมงคล ซึ่งการมีพิธีกรรมนี้ชี้ให้เห็นถึงคุณธรรม จริยธรรมในด้านความเคารพต่อผู้มีพระคุณที่ทำให้ได้มีลุกประกิน แม้จะไม่เห็นตัวตนแต่เป็นเรื่องของความเชื่อและจิตวิญญาณที่ทำแล้วให้เกิดความสุขและมั่นใจ ภูมิปัญญาของการอนุรักษ์ป่า

ลูกประ เป็นผลของต้นประซึ่งเป็นไม้ป่า ขึ้นในป่าดงดิบบนภูเขา มีปีละครั้งเท่านั้น เพราะฉะนั้นการจะได้มาเราต้องเข้าไปหาในป่า บนภูเขา ประเหมือนกับยางตรงที่ลูกแตกแล้วปลิวกระเด็นไม่หล่นใต้ต้น ประขึ้นเป็นป่าเรียกป่าประเวลาขึ้นไปหาต้องขึ้นไปเป็นหมู่คณะห้ามไปคนเดียวเพราะจะหาไปได้เรื่อยและหลงอยู่ในป่าได้ และด้วยภูมิปัญญาการถนอมอาหารของท้องถิ่นทำให้มีการดองเพื่อจะเก็บอาหารไว้ได้นาน ๆ ประดองกินเป็นผักเหนาะ  ใช้ปรุงอาหาร แกงส้ม ต้มทิ หรือกินแกะกินเฉย ๆ ก็ได้

ประเป็นไม้ยืนต้นขนาดใหญ่ไม่เหมาะและไม่นิยมที่จะปลูกบริเวณบ้าน ที่กรุงชิงฤดูกาลที่ประแตกยอด ทั้งเขาจะเป็นสีชมพูอมแดง สะท้อนแสงแดด ตัดกับสีเขียวของขุนเขา สีฟ้าของท้องฟ้าวันที่ฟ้าใส ใส สวยจนอยากให้มาดูด้วยกัน ป่าประไม้ประจำถิ่นที่เมืองนครศรีธรรมราช

แหล่งข้อมูลอ้างอิง

  • พิชญาดา เจริญจิต. (2564, 8 กุมภาพันธ์). ลูกประ อาหารพื้นเมืองคนใต้. เทคโนโลยีชาวบ้าน. 
  • จุติพร อัศวโสวรรณ, จรุงใจ มนต์เลี้ยง, จุฑามาศ ศุภพันธ์, สาวิมล รอดเจริญ, ธวัชชัย คงนุ่ม,  สุชาดา จิตกล้า, พิมพ์ลภัส จิตต์ธรรม, พงศ์ธร บรรณโศภิษฐ์ และ สุดารัตน์ แก้วกับทอง. ภูมิปัญญานิเวศวิถีป่าประนบพิตำ อำเภอนบพิตำ จังหวัดนครศรีธรรมราช. วารสารนาคบุตรปริทัศน์, 12 (2).  https://so04.tci-thaijo.org/index.php/nakboot/article/view/241929
  • เสาวลักษณ์ เชื้อคำ.  (ม.ป.ป.). ลูกประดอง ของดองเคี้ยวเพลินจากแดนใต้. krua.co. https://krua.co/food_story/look-pra
  • สุชาดา ลิมป์. (2022). Special Scene : ผล “ประ (โยชน์)” ที่ไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป. สารคดี, 4 ตุลาคม.
  • ลูกประ พืชท้องถิ่นภาคใต้ ผลรสชาติจะคล้ายกับถั่วอัลมอนด์และเม็ดมะม่วงหิมพานต์ https://www.kasettambon.com/

ภาพประกอบเนื้อหาบางส่วนจาก

  • แกงส้มลูกประ  https://district.cdd.go.th/nopphitam/2019/02/05/อนุรักษ์อาหารพื้นถิ่น-บ
  • Facebookบ้านยายราโฮมสเตย์ https://www.facebook.com/photo/?fbid=2171269119648371&set=a.1182438665198093 ลูกประดอง https://www.facebook.com/photo/?fbid=973499321460980&set=pcb.973500631460849
  • ต้นประ  ส่วนอุทยานแห่งชาติ สํานักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 5 นครศรีธรรมราช https://www.facebook.com/photo/?fbid=268369727895628&set=pcb.268379994561268

Views: 398

Comments

comments

Leave a Reply

For security, use of Google's reCAPTCHA service is required which is subject to the Google Privacy Policy and Terms of Use.

ลูกประ
ประ