ตาพรานบุญ ตำนาน “บนบานได้ไหว้รับ ที่วัดยางใหญ่”

“พราน” มีตำนานที่กล่าวถึงมากมายตั้งแต่สมัยโบราณไม่ว่าจะเป็นนายพรานในวรรณคดี เรื่องพระสุธน – มโนราห์ ซึ่งเป็นนิทานชาดกพื้นบ้านในยุคสมัยอยุธยา ซึ่งในสมัยก่อนเชื่อกันว่า "พราน" คือผู้ที่มีวิชาอาคมแก่กล้ามาก เพราะเมื่อเข้าไปในป่าที่เต็มไปอาถรรพ์จากภูตผีปีศาจและสิ่งเร้นลับที่มองไม่เห็นหรืออันตรายจากสัตว์ป่าที่ดุร้ายหลากหลายชนิดหากไม่มีของดีหรือวิชาอาคมติดตัวก็จะไม่สามารถมีชีวิตรอดกลับออกจากป่าได้

“พราน” มีตำนานที่กล่าวถึงมากมายตั้งแต่สมัยโบราณไม่ว่าจะเป็นนายพรานในวรรณคดี เรื่องพระสุธน – มโนราห์ ซึ่งเป็นนิทานชาดกพื้นบ้านในยุคสมัยอยุธยา ซึ่งในสมัยก่อนเชื่อกันว่า “พราน” คือผู้ที่มีวิชาอาคมแก่กล้ามาก เพราะเมื่อเข้าไปในป่าที่เต็มไปอาถรรพ์จากภูตผีปีศาจและสิ่งเร้นลับที่มองไม่เห็นหรืออันตรายจากสัตว์ป่าที่ดุร้ายหลากหลายชนิดหากไม่มีของดีหรือวิชาอาคมติดตัวก็จะไม่สามารถมีชีวิตรอดกลับออกจากป่าได้

https://mgronline.com/south/detail/9610000001550

ตำนานเรื่องเล่าเกี่ยวกับพรานที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในสมัยก่อนนั้น น่าจะต้องยกให้ “พรานบุญ” ถือเป็นสุดยอดพราน ตามตำนานกล่าวว่า พรานบุญเป็นผู้ที่มีวิชาอาคมที่เก่งกล้า สามารถเดินทางท่องเที่ยวในป่าหิมพานต์ได้ ครั้งหนึ่งพรานบุญได้ใช้วิชาช่วยเหลือพญานาคราชนามว่า ท้าวชมพูจิต ให้รอดพ้นจากความตาย ท้าวชมพูจิตจึงได้พาพรานบุญไปที่นาคพิภพเป็นเวลา 7 วัน มอบแก้ววิเศษให้ พร้อมคำสัญญาว่าหากวันข้างหน้าพรานบุญประสงค์สิ่งใดก็ให้มาหา เมื่อขออะไรก็จะให้ เพื่อเป็นการตอบแทนที่ได้ช่วยชีวิตท้าวชมพูจิตไว้ได้ กาลต่อมาพรานบุญได้พบนางกินนรทั้งเจ็ดผู้เป็นธิดาท้าวทุมราช และต้องการนำนางกินนรีไปถวายพระสุธนกุมาร จึงได้เดินทางไปขอยืม นาคบาศ จากท้าวชมพูจิต ซึ่งเป็นของวิเศษของพญานาคที่จะสามารถจับนางกินนรีได้ และสามารถจับนางมโนราห์ ซึ่งเป็นธิดาองค์เล็กไปถวายพระสุธนได้สำเร็จ ผู้คนจึงต่างนับถือในความสามารถของพรานบุญว่าเข้มขลังยิ่งนัก และโดดเด่นในทางโชคลาภและโภคทรัพย์อีกด้วย ด้วยเหตุนี้ ในเรื่องของความเชื่อ ผู้คนต่างให้ความเคารพนับถือพรานบุญ เชื่อว่าเมื่อบูชาแล้วจะได้รับอานิสงส์ เช่น ค้าขายดี มีเสน่ห์ต่อคนรอบข้าง มีเมตตามหานิยม ใครเห็นก็รักใคร่เอ็นดู อีกทั้งยังช่วยปกป้องคุ้มครองให้รอดพ้นจากอันตรายและอาถรรพ์คุณไสยต่าง ๆ อีกด้วย

พรานบุญ ทางภาคใต้นั้น เริ่มต้นจากการแสดงมโนราห์ ซึ่งเป็นศิลปะการแสดงพื้นเมืองที่สำคัญ เป็นดั่งชีวิตจิตใจและจิตวิญญาณของชาวใต้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในจังหวัดนครศรีธรรมราชและจังหวัดพัทลุง มโนราห์ถือเป็นต้นกำเนิดการแสดงและอยู่คู่กับชุมชนคนใต้มาอย่างยาวนานตั้งแต่สมัยบรรพกาล ซึ่งเป็นการแสดงทางด้านนาฎยศาสตร์ที่จำเป็นต้องมีครูถ่ายทอดสืบต่อกันมารุ่นต่อรุ่น ซึ่งมโนราห์จะมีการแสดงอยู่ 2 รูปแบบคือ  1. มโนราห์พิธีกรรม (โนราโรงครู) ซึ่งเป็นพิธีเพื่อเชิญครูหรือบรรพบุรุษของมโนราห์มายังโรงพิธี เพื่อทำพิธีไหว้ครู (ครอบครู) หรือไหว้ตายายของผู้ที่สืบเชื้อสายทางด้านมโนราห์ และอีกพิธีกรรมของมโนราห์โรงครูคือทำพิธีแก้บนเพื่อเชิญครูโนราให้มารับของแก้บนตามที่เจ้าของหรือใครที่ได้บนบานศาลกล่าวไว้แล้วได้ในสิ่งที่ปราถนา  2. มโนราห์เพื่อความบันเทิง ซึ่งพบได้มากในปัจจุบันเป็นการแสดงเพื่อให้ความบันเทิงโดยตรง โดยเริ่มจากปล่อยตัวนางรำมโนราห์ ออกพราน ออกตัวนายโรง และออกพรานอีกครั้ง พรานบุญ นับเป็นครูมโนราห์ที่สำคัญผู้หนึ่ง เพราะเป็นตัวตลกในเรื่องมโนราห์  เมื่อออกรำจะต้องสวมหน้ากากพราน ซึ่งแกะจากไม้ มีจมูกงุ้มยื่นยาว เจาะรูส่วนที่เป็นตาดำ ทาสีแดงทั้งหน้ากาก เว้นฟันจะใช้โลหะสีขาว ทาสีขาวหรือเลี่ยมเฉพาะฟันบน แล้วใช้ขนเป็ดสีขาวเอามาติดให้ดูเป็นผมหงอก ซึ่งท่ารำของพรานนั้นจะเป็นท่ารำที่ตลก ไม่มีท่ารำที่แน่นอน ขึ้นอยู่กับความสามารถของพรานแต่ละคน และจะต้องมีท่ารำพื้นฐาน เช่น ย่อตัวรำ หลังแอ่น ยื่นอกไปด้านหน้ามาก ๆ ทั้งยังท่ามีแปลก ๆ ออกไป เช่น ทำให้ท้องป่องผิดปกติ อาจจะป่องไปด้านซ้ายบ้าง ขวาบ้าง หรือทำให้กล้ามเนื้อหน้าท้องเคลื่อนไหวเป็นลอนคลื่น  ซึ่งเป็นบทแสดง แต่เมื่อออกมาแสดงก็จะเรียกเสียงหัวเราะอย่างมีความสุขจากผู้ชมได้เสมอทุกเพศทุกวัยไม่ว่าเด็กหรือผู้ใหญ่ และไม่ว่าจะแสดงกี่ครั้งก็ตาม บทบาทของพรานบุญนอกจากให้ความบันเทิงในส่วนของการแสดงมโนราห์แล้วนั้น ภายใต้หน้ากากที่มีมนต์ขลังและทรงพลังราวกับมีปาฎิหารย์ภายใต้หน้ากากอันลึกลับ ในทางความเชื่อแล้วผู้คนต่างก็เคารพนับถือพรานบุญเป็นอย่างมาก และใครที่บูชาพรานบุญ ทำความดี ละเว้นความชั่ว ต่างก็ได้ประจักษ์ถึงเหตุการณ์และประสบการณ์อย่างน่าอัศจรรย์ยิ่งนัก

พรานบุญ วัดยางใหญ่ (วัดสีชมพู) ตั้งอยู่ ตำบลท่าศาลา จังหวัดนครศรีธรรมราช เป็นวัดใช้สีชมพูนั้นมาจากตำนานของพญานาคราช ที่ชื่อว่า “ท้าวชมพูจิต” ที่พรานบุญ ได้เคยช่วยชีวิตเอาไว้ตามที่กล่าวข้างต้น บริเวณรอบวัดตกแต่งด้วยสีชมพูสดใส เมื่อเดินเข้ามาจะเข้าภายในวัดก็จะเจอกับซุ้มประตูวัดที่มีการออกแบบเหมือนกับเทริดมโนราห์อย่างสวยงามวิจิตตระการตา เมื่อเดินผ่านซุ้มประตูภายในบริเวณวัดจะเห็นโบสถ์สีชมพูโดดเด่นสะดุดตา ด้านหน้าโบสถ์จะมีพระพุทธรูปทรงเครื่องอย่างมโนราห์และภายในโบสถ์จะมีหลวงพ่อยางใหญ่ (พ่อท่านยางใหญ่) ซึ่งเดิมทีนั้น เป็นชิ้นส่วนพระพุทธรูปหินทรายแดงถูกขุดค้นพบในปี พุทธศักราช 2598 จากนั้นพระครูพอศิษฐ์อรรถการ หรือ (พ่อท่านคล้าย วาจาสิทธิ์) แห่งวัดสวนขัน เพื่อเป็นประธานในพิธีเบิกเนตรฉลองสมโภช หลวงพ่อวัดยางใหญ่ จนกระทั่งเกิดเสียงเลื่องลือถึงความศักดิ์สิทธิ์ จนมีผู้คนที่เลื่อมในศรัทธาเดินทางมากราบไหว้ขอพรกันอย่างไม่ขาดสาย

บริเวณด้านขวามือของโบสถ์จะเป็นสร้างวิหารพ่อท่าน วาจาสิทธิ์ และวิหารเสริมบารมีหรือวิหารหลวงปู่ทวด ซึ่งพ่อท่านคล้าย วาจาสิทธิ์ท่านได้บูรณะองค์พระที่ขุดพบ เพราะทราบกันดีว่าหลวงพ่อท่านมีความเมตตาในการบูรณะองค์พระที่ชำรุดและสร้างสาธารณะประโยชน์ไว้มากมาย  บริเวณด้านหน้าโบสถ์ทางด้านซ้ายและขวาจะมีท้าวเวสสุวรรณยืนเฝ้าหน้าโบสถ์ให้ผู้คนที่เคารพศรัทธาขอโชคลาภตามศรัทธา ถัดไปทางซ้ายมือจะเป็น วิหารปฐมบรมครูตาพรานบุญ ภายในวิหารจะมีรูปปั้นของตาพรานบุญองค์ใหญ่อยู่กลางห้องซึ่งถือเป็นจุดสำคัญในการกราบไหว้ขอพร

โดยชาวบ้านเชื่อกันว่า “ตาพรานบุญ” คือผู้ที่อยู่เฝ้าองค์พระตั้งแต่ครั้งอดีตกาล จนกระทั่งยุคปัจจุบันเรียกว่าอยู่เป็นคู่บุญบารมี เพื่อทำนุบำรุงรักษาพระพุทธศาสนา เพราะทุกครั้งที่มีการอธิษฐานขอสิ่งต่าง ๆ กับองค์หลวงพ่อ ก็มักจะได้พบเห็นตาพรานบุญ ปรากฎในฝัน หรือบางคนมักจะได้ยินเป็นเสียงซึ่งมีลักษณะของภาษาใต้โดยเชื่อว่าตาพรานบุญเป็นผู้คอยดูแลให้คำอธิษฐานต่าง ๆ สัมฤทธิผล จนได้รับขนานนามว่า “ตาพรานบุญ แห่งวัดยางใหญ่”นอกจากมีการจัดสร้างพรานบุญองค์ใหญ่แล้ว ภายในวิหารยังมีก็ยังมีรูปปั้นของเหล่าตัวละครมโนราห์ต่าง ๆ ตลอดจนรูปกินนรีในอริยบทต่าง ๆ เพื่อให้ได้ศึกษาวัฒนธรรมอันดีงามอีกด้วย

การไหว้ขอพรตาพรานบุญ ซึ่งแต่ละคนจะใช้ของเซ่นไหว้ไม่เหมือนกันแต่องค์ประกอบที่สำคัญที่ขาดมิได้ซึ่งจะต้องมีคือ
1. พวงมาลัย
2. ธูป 9 ดอก
3. เทียน 1 เล่ม
4. หมากพลู ยาสูบ 1 ชุด

ของที่ใช้ไหว้ขอพรตาพรานบุญ

บทสวด คาถาบูชาพรานบุญ

  • นะโมตัสสะภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุทธัสสะ
  • นะโมตัสสะภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุทธัสสะ
  • นะโมตัสสะภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุทธัสสะ
  • นะ ชา ลี ติ ออ อา ออ แอ รึก รือ ลึก ลือ ชัยยะ ชัยยะ สิริโภคา นะมาสะโย

เครื่องรางหน้ากากตาพรานบุญ เป็นเครื่องรางของขลังและเป็นวัตถุมงคลที่ศักดิ์สิทธิ์ของคนภาคใต้ ไม่ใช่เพียงแค่ป้องกันเภทภัยหรือเป็นที่พึ่งทางใจเท่านั้น แต่ประกอบไปกับคติความเชื่อที่สืบทอดกันมาตั้งแต่สมัยโบราณจากรุ่นสู่รุ่นในหมู่คณะมโนราห์ หรือเรียกว่าศาสตร์วิชาครูใหญ่ “พรานบุญ” เป็นศาสตร์วิชาคาถามหาละลวย มหาเสน่ห์ ผู้ที่ศรัทธาและสวดบูชาจะมีพลานุภาพเสริมเมตตามหานิยมให้เป็นที่ต้องตาต้องใจแก่ผู้ที่ได้พบได้เจอ เหมาะแก่ผู้ที่มีอาชีพนักแสดง และพ่อค้าแม่ค้าหรือผู้ที่มีอาชีพที่เกี่ยวกับการใช้วาทศิลป์ในการโน้มน้าวจิตใจผู้คนที่เน้นคุณด้านเสน่หามายา ดังนั้นในทางความเชื่อแล้ว ผู้คนต่างก็เคารพนับถือพรานบุญเป็นอย่างมาก และใครที่บูชาพรานบุญ ทำความดี ละเว้นความชั่ว ต่างก็ได้ประจักษ์ถึงประสบการณ์น่าอัศจรรย์ เช่น ค้าขายดี มีเสน่ห์ต่อคนรอบข้าง มีเมตตามหานิยมใครเห็นก็รักใคร่เอ็นดู อีกทั้งยังช่วยปกป้องคุ้มครองผู้บูชาจากอันตรายและอาถรรพ์คุณไสยต่างๆ อีกด้วย ซึ่งคนที่จะขอพรหรือบูชาจะต้องบูชาท่านด้วยความเคารพ ให้ศรัทธาด้วยใจจริง อย่าศรัทธาตามกระแส ให้เคร่งครัดในการบูชา แล้วทุกสิ่งที่ขอจะสมปราถนา และถ้าบนบานศาลกล่าวสิ่งใดกับตาพรานบุญแล้วสำเร็จสมดังปรารถนาต้องรีบแก้บนตามที่ได้บนบานไว้อย่าให้พร่อง และให้กลับมาบริจาคทำบุญทำนุบำรุงวัดยางใหญ่ ก็จะเป็นสิริมงคลอย่างยิ่ง

ข้อมูล วัดยางใหญ่ นครศรีธรรมราช
ที่อยู่ : ตำบลท่าขึ้น อำเภอท่าศาลา จังหวัดนครศรีธรรมราช
พิกัด : https://goo.gl/maps/vMhCSSjZVzBxM3v39
เปิดให้เข้าชม : 08.00-17.00 น.
เว็บไซต์ : https://www.facebook.com/วัดยางใหญ่

ที่มาเนื้อหาและภาพประกอบบางส่วน
https://th.theasianparent.com/ta-pran-boon-yang-yai-temple
https://horoscope.trueid.net/detail/pM9E7GJ5XZ3M
https://www.sac.or.th/portal/th/article/detail/428
https://twitter.com/didthana/status/1372746744748937221

Views: 14584

Comments

comments

Leave a Reply

For security, use of Google's reCAPTCHA service is required which is subject to the Google Privacy Policy and Terms of Use.

You are currently viewing ตาพรานบุญ ตำนาน “บนบานได้ไหว้รับ ที่วัดยางใหญ่”