ชนบทที่รัก เป็นวรรณกรรมเยาวชนที่เคยสร้างเป็นละครโทรทัศน์ช่อง 7 เป็นเรื่องราวของเด็ก ๆ ในชนบทภาคใต้ของไทย โดยเน้นการละเล่นพื้นบ้านและแทรกวัฒนธรรมประเพณีท้องถิ่น เพื่อถ่ายทอดให้ผู้อ่านทั้งเด็กและผู้ใหญ่สนุกสนานและประทับใจความเป็นอยู่แบบไทย และช่วยกันอนุรักษ์ให้คงอยู่สืบไป
ที่ลานดินในหมู่บ้านมีเด็ก ๆ มาวิ่งเล่นกันพร้อมหน้าพร้อมตา ทั้งจุก จอม เปี๊ยก จ้อย แสง และสา ในมือของสาถือลูกฟุตบอลยางพลาสติกสีแดงมาด้วย แล้วเด็ก ๆ ก็เริ่มเล่นฟุตบอลกันโดยแบ่งออกเป็น 2 ฝ่ายจนเหนื่อยจึงนั่งพัก พอหายเหนื่อยจึงชวนกันหาเกมเล่นกันต่อชื่อว่า ‘เกมม้าหางแดง’ ต้องจับคู่กันและแบ่งออกเป็น 2 ฝ่าย แต่ละคู่ต้องจับไม้สั้นไม้ยาวกัน จับได้ไม้สั้นเป็นม้า จับได้ไม้ยาวเป็นผู้ขี่หลังม้า และจะเริ่มโยนลูกบอลกัน หรือบางทีอาจจะใช้ลูกตะกร้อที่สานด้วยใบมะพร้าวใส่ดินทรายไว้ข้างในพอขว้างปาได้ให้กับพวกฝ่ายของตนซึ่งขี่อยู่บนหลังม้า โดยโยนรับกันไปมาอย่าให้ตกลงพื้น ถ้าลูกบอลตกลงพื้นผู้ขี่หลังม้าต้องรีบกระโดดลงจากหลังม้า แล้ววิ่งหนีไป ฝ่ายม้ารีบเก็บลูกบอลแล้วปาไปที่ฝ่ายขี่หลังถ้าโดนตัวก็จะต้องเป็นม้าให้เพื่อนขี่หลังแทน
พอเดือนสี่มาถึง ข้าวในนาเริ่มสุกถึงเวลาต้องเก็บเกี่ยวกัน ที่นาของจุกจึงมีการลงแขกเกี่ยวข้าวกันโดยมีเพื่อนบ้านมาช่วยกันหลายคน จุกช่วยแม่เตรียมอาหารคาวหวานไปเลี้ยงเพื่อนบ้านที่มาช่วยเกี่ยวข้าว หลังจากช่วยพ่อขนเลียงข้าว จุกถอนซังข้าวมาทำปี่เล่นสนุกดีเหมือนกัน ในเดือนสี่นี้ก็จะมีลมว่าวที่พัดมา เด็ก ๆ จะเล่นว่าวกัน บนท้องฟ้าเกลื่อนกลาดไปด้วยว่าวนานาชนิดสีสวย ๆ เช่น ว่าวนก ว่าวปลา ว่าวควาย และว่าวปักเป้า จุกกับจอมชวนกันออกมาเล่นว่าวที่กลางทุ่งนาเหมือนกัน
บ่ายวันหนึ่งอากาศร้อนอบอ้าว ไม่มีลมพัดมาเลย เด็ก ๆ นั่งกันอยู่บนศาลากำลังคิดกันว่าจะเล่นอะไรกันดี จอมทำท่าครุ่นคิดพักหนึ่ง เหมือนนึกอะไรได้พร้อมบอกเพื่อน ๆ ว่า ไปหาขนไก่มาฉัด (เตะ) กันดีกว่า เด็ก ๆ ก็วิ่งไปที่เล้าไก่หลังบ้านของจอมไปหาขนไก่ได้มาหลายอัน จุกเลือกขนไก่อันสวย ๆ ขนยังเรียบและแข็งได้ 5-6 อัน มัดที่โคนขนด้วยหนังยาง ให้ปลายขนทั้ง 6 หันออกนอก เมื่อมัดเรียบร้อยแล้วมันจึงเป็น 6 แฉกดูสวยงาม เด็ก ๆ เริ่มเล่นโดยการแข่งขันเตะลูกขนไก่ให้ได้ 300 ครั้ง
บ่ายวันหนึ่งในฤดูแล้ง จุก จอม และเปี๊ยกชวนกันไป ‘ยอนไข่มดแดง’ กัน โดนมดแดงกัดต้องปัดตามตัว แขนขา หลังจากได้ไข่มดแดงมาแล้วก็ต้มไข่มดแดงตัวสีขาวเติมเกลือเล็กน้อยแล้วกินกันอย่างเอร็ดอร่อย
เด็ก ๆ โห่กันลั่นทันทีที่เห็นรถขายยาเลี้ยวเข้ามาในหมู่บ้าน คืนนี้มีการฉายหนังกลางแปลงที่ลานวัด เด็ก ๆ ดีใจเนื้อเต้นได้ดูหนังกลางแปลงกัน
ในแต่ละวันเด็ก ๆ ก็จะหากิจกรรมมาเล่นกันตลอดเวลา เช่น ‘ยิกจับสีนคอ’ หรือ เกมไล่จับ เป่ากบ ยิงราว ยิงนก โหละปลา หรือ หาปลา เด็ก ๆ ก็สนุกสนานกับกิจกรรมเหล่านี้ เป็นความสุขของเด็ก ๆ ชาวชนบทกัน