นั่งรถไฟเที่ยว : สัมผัส 10 เส้นทางเสน่ห์การเดินทางบนรางรถไฟ

นั่งรถไฟเที่ยว : สัมผัส 10 เส้นทางเสน่ห์การเดินทางบนรางรถไฟ

นั่งรถไฟเที่ยว เป็นอีกทางเลือกสำหรับนักเดินทางสายชิลล์ ที่ไม่เร่งรีบในการเดินทาง และชื่นชมทิวทัศน์และความสวยงามของธรรมชาติผ่านหน้าต่างรถไฟระหว่างทาง และสามารถเดินทางได้ทุกฤดูกาล ไม่ว่าหน้าร้อน หน้าฝน หรือหน้าหนาว การเดินทางด้วยรถไฟไม่มีอุปสรรคในการเดินทางเลย หากท่านชอบแบบนี้ การเดินทางท่องเที่ยวด้วยรถไฟเป็นอีกการเดินทางที่มีเสน่ห์น่าหลงใหล สำหรับผู้ที่ชื่นชอบการเดินทางบนรางรถไฟจะสัมผัสได้ถึงอากาศที่บริสุทธิ์ยามผ่านธรรมชาติอันงดงามและสดชื่น เหมาะมาก ๆ สำหรับสายชิลล์  และสายที่ชอบเก็บภาพสวย เพราะระหว่างเดินทางเราจะซึมซับถึงความงดงามของธรรมชาติและสิ่งปลูกสร้างที่มีเอกลักษณ์เฉพาะ ฤดูกาลท่องเที่ยวนี้หรือฤดูไหน ๆ ลองศึกษารายละเอียดต้นทาง ปลายทางของรถไฟแต่ละเส้น ลองวางแผนเดินทางหรือท่องเที่ยวด้วยรถไฟดูบ้าง คุณอาจจะหลงเสน่ห์ของการเดินทางบนรางรถไฟก็ได้ วันนี้ชวนอ่าน ของพามา ชวนเที่ยว 10 เส้นทางการเดินทางบนรางรถไฟของบ้านเรา ที่ชวนคุณให้หลงใหลไปกับความสวยงามของเส้นทางเหล่านี้

เส้นทางรถไฟลอยน้ำโคกสลุง

ภาพจาก Monkeyy Topview

เส้นทาง : สถานีต้นทางกรุงเทพ (หัวลำโพง) และสถานีธนบุรี ปลายทางสถานีโคกสลุง

  ระยะทาง : 177 กิโลเมตร ระยะเวลา : 2 ชั่วโมงกว่า

อำเภอนี้เป็นที่ตั้งของเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ นครนายก ซึ่งเป็นเขื่อนคันดินที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในประเทศไทย สถานีรถไฟโคกสลุง” สถานีรถไฟเก่าแก่ที่ตั้งอยู่ใกล้กับเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ จังหวัดนครนายก สถานีโคกสลุงเป็นสถานีเล็ก ๆ มีขบวนรถไฟที่แล่นผ่านอยู่น้อย ได้แก่ ขบวนกรุงเทพ – หนองคาย หรือ ขบวนรถท้องถิ่น แก่งคอย – บัวใหญ่ และขบวนรถไฟขนส่งสินค้าเท่านั้นเอง เมื่อรถไฟวิ่งผ่านช่วงนี้ให้ความรู้สึกเหมือนกับว่ากำลังลอยอยู่บนน้ำ เกิดเป็นภาพที่สวยงามทั้งจากด้านนอกขบวนรถไฟและเมื่อมองออกไปนอกหน้าต่าง ด้วยความขึ้นชื่อนี้ทำให้ในแต่ละปีการรถไฟได้จัดขบวนเที่ยวพิเศษ เส้นทาง กรุงเทพฯ – เขื่อนป่าสักชลสิทธ์ ที่จะเป็นทริปไปเช้าเย็นกลับ ซึ่งความพิเศษอยู่ตรงที่เมื่อขบวนรถไฟถึงบริเวณจุดชมวิวเขื่อนป่าสักชลสิทธ์ รถจะจอด 30 นาที ให้ผู้โดยสารลงไปเก็บภาพวิวหรือถ่ายภาพเพื่อเช็คอินได้ นอกจากนี้ยังมีการหยุดรถที่สถานีสถานีโคกสลุงเพื่อเปลี่ยนหัวรถไฟ โดยระหว่างนี้จะมีเวลาอีก 30 นาทีให้ลงไปซื้อสินค้าท้องถิ่นที่ชาวบ้านนำมาขายก่อนที่จะเดินทางกลับกรุงเทพฯ 

 ปี 2565 เป็นต้นมา  การรถไฟแห่งประเทศไทย เปิดเส้นทางนั่งรถไฟเที่ยวกับ ขบวนรถไฟลอยน้ำ ต้อนรับฤดูกาลท่องเที่ยว พาไปสัมผัสลมหนาวกลางเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ ลพบุรี กับ ขบวนรถพิเศษนำเที่ยวเส้นทางกรุงเทพ – เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ ทุกวันเสาร์-อาทิตย์  ดูรายละเอียดเพิ่มเติมหรือติดต่อซื้อตั๋วโดยสารล่วงหน้าได้ที่ สถานีรถไฟทุกแห่งทั่วประเทศ หรือ จองตั๋วรถไฟออนไลน์ ได้ที่ ระบบ D-Ticket

 

ภาพจากเพจ หัวใจเดียวกัน หนึ่งเดียว

เส้นทางกรุงเทพฯ-กาญจนบุรี

นั่งรถไฟเที่ยว

เส้นทาง : สถานีต้นทางธนบุรี (อยู่ติดโรงพยาบาลศิริราช ปลายทางสถานีกาญจนบุรี

  ระยะทาง :  77  กิโลเมตร ระยะเวลา : 2 ชั่วโมง

เส้นทางรถไฟสายมรณะ ถ้ำกระแซ นับเป็นเส้นทางรถไฟที่ทั้งสวยและอันตราย ด้วยความสูงของทางรถไฟเลียบไปกับหน้าผาที่ด้านล่างเป็นแม่น้ำ และเป็นเส้นทางรถไฟที่มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์จากเรื่องราวความเป็นมาในสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 แล้ว ที่นี่ยังเป็นสถาที่ท่องเที่ยวที่ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวที่อยากจะมาถ่ายรูปขบวนรถไฟที่ออกมาจากถ้ำ เส้นทางที่น่าลองมาเที่ยวกันดู และเป็นอีกเส้นทางที่อยากให้คนชื่นชอบรถไฟได้ นั่งรถไฟเที่ยว เพราะนอกจากความสวยจากวิวแล้ว ยังจะได้ความสดชื่นจากป่าไม้ และเรายังสามารถไหว้ หรืออธิษฐานเมื่อผ่านถ้ำจุดที่มีพระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์ภายในถ้ำได้อีกด้วย (TripGather, 2563)

เส้นทางรถไฟสายมรณะ ถ้ากระแซ หรือสายน้ำตก

นั่งรถไฟเที่ยว
ภาพจาก sanook

เส้นทาง : สถานีต้นทางหัวลำโพง ปลายทางสถานีกน้ำตกไทรโยคน้อย

  ระยะทาง : 77 กิโลเมตร ระยะเวลา : 2 ชั่วโมง

เส้นทางรถไฟสายมรณะ ถ้ำกระแซ นับเป็นเส้นทางรถไฟที่ทั้งสวยและอันตราย ด้วยความสูงของทางรถไฟเลียบไปกับหน้าผาที่ด้านล่างเป็นแม่น้ำ และเป็นเส้นทางรถไฟที่มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์จากเรื่องราวความเป็นมาในสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 แล้ว ที่นี่ยังเป็นสถาที่ท่องเที่ยวที่ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวที่อยากจะมาถ่ายรูปขบวนรถไฟที่ออกมาจากถ้ำ เส้นทางที่น่าลองมาเที่ยวกันดู เพราะนอกจากความสวยจากวิวแล้ว ยังจะได้ความสดชื่นจากป่าไม้ และภายในถ้ำยังมีพระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์ประดิษฐานอยู่อีกด้วย (TripGather, 2563)  จุดที่นักท่องเที่ยวให้ความสนใจ คือ ช่วงสะพานข้ามแม่น้ำแควและช่วงโค้งมรณะหรือถ้ำกระแซซึ่งเป็นสะพานโค้งเลียบ แม่น้ำแควน้อยยาวประมาณ 400 เมตร ทิวทัศน์ตลอดเส้นทางนี้สวยงาม เลาะไปตามเชิงผาเลียบไปกับลำน้ำแควน้อย โดยจะวิ่งเลียบผ่านและจอดที่สถานีถ้ำกระแซเวลา 13.30 น. (ไปด้วยกัน, 2021) ช่วงนี้หากใครนั่งรถโบกี้พัดลม สามารถถ่ายภาพที่งดงามได้ แต่ต้องระมัดระวังไม่ยื่นมือหรือชะโงกตัวออกมาจากตัวรถไฟ และยังมีทีเด็ดคือ ช่วงถ้ากระแชมีความเชื่อว่า หากใครอยากอธิษฐานหรือขอพร ให้เอามือแตะหน้าผาและอธิษฐานขอสิ่งที่อยากได้ 1 ข้อ อาจจะเป็นเพราะภายในถ้ำกระแซ ซึ่งเป็นถ้ำจริงๆ มีพระพุทธรูปให้ผู้คนได้กราบไหว้ คนที่อยู่บนรถไฟสามารถสักการะที่ขอพรได้เหมือนกัน

การเดินทางด้วยตัวเอง เป็นการได้รับประสบการณ์โดยตรง หากใครอยากมีอารมณ์จากการเดินทางด้วยรถไฟสายน้ำตกแบบนี้ ต้องดูคลิปนี้ จะรู้ว่าการตามอ่านไม่ได้ความรู้สึกแบบนี้แน่นอน

รถจักรไอน้ำขบวนพิเศษ เส้นทางประวัติศาสตร์ กรุงเทพ - อยุธยา

นั่งรถไฟเที่ยว
ภาพจาก BLT Bangkok
นั่งรถไฟเที่ยว
ภาพจาก pantip

เส้นทาง : สถานีต้นทางหัวลำโพง ปลายทางอยุธยา

  ระยะทาง : 58 กิโลเมตร ระยะเวลา : 2 ชั่วโมง

ท่องเที่ยวด้วยรถไฟ เป็นการย้อนอดีตบนเส้นทางรถไฟสายประวัติศาสตร์ และร่วมน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 เสด็จพระราชดำเนินทรงประกอบพิธีเปิดการเดินรถไฟระหว่างสถานีกรุงเทพ – สถานีกรุงเก่า เมื่อวันที่ 26 มีนาคม 2439  นักท่องเที่ยวสามารถเดินทางไหว้พระขอพรสิ่งศักดิ์สิทธิ์ในจังหวัดพระนครศรีอยุธยา และท่องเที่ยวโบราณสถานที่ทรงคุณค่าทางประวัติศาสตร์ หรือร้านอาหารแบบผสมผสานกับบรรยากาศของความเป็นเมืองเก่า มีเวลาประมาณ 6 ชั่วโมงก่อนเดินทางกลับ นั่งรถไฟเที่ยว สายนี้เหมาะมากสำหรับสายไหว้พระเพราะอยุธยามีวัดเก่าแก่และสวยหลายวัด ไม่ว่าจะเป็นวัดไชยวัฒนาราม วัดพระศรีสรรเพชญ์ วัดมหาธาตุ วัดพนัญเชิงวรวิหาร วัดใหญ่ชัยมงคล หรืออยากจะไปเที่ยวโบราณสถานก็มีให้ชม เช่น วังช้างอยุธยา แลเพนียด, พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ เจ้าสามพระยา, หมู่บ้านญี่ปุ่น หมู่บ้านโปรตุเกส  และตลาดน้ำอโยธยา เป็นต้น

ทางรถไฟตลาดร่มหุบ

นั่งรถไฟเที่ยว
ภาพจาก TheTripPacker

เส้นทาง : สถานีต้นทางสถานีมหาชัยถึงสถานีแม่กลอง (สายสั้น) หรือ จากสถานีวงเวียนใหญ่ และใช้เวลาอีก 1 ชั่วโมงโดยไปลงที่มหาชัย และจากมหาชัยนั่งเรือข้ามฟากไปฝั่งท่าฉลอม เพื่อขึ้นรถไฟต่อจากสถานีบ้านแหลมไปยังแม่กลอง

  ระยะทาง : 70 กิโลเมตร ระยะเวลา : 2 ชั่วโมง

ตลาดร่มหุบ หรืออีกชื่อหนึ่งว่า ตลาดแม่กลอง อำเภอเมือง จังหวัดสมุทรสงคราม เป็นตลาดสดเมืองแม่กลอง ที่ตั้งขายกางร่มกันแบบแนบชิดรางรถไฟ ซึ่งมีทุกวันจะมีขวบนรถไฟวิ่งผ่านเป็นรถไฟขบวนสายสั้น จากสถานีมหาชัยถึงสถานีแม่กลอง เมื่อมีสัญญาณแจ้งว่าจะมีรถไฟวิ่งผ่าน เหล่าบรรดาพ่อค้า แม่ค้า ก็จะทยอยเก็บกระจาด กระบุง ตะกร้า รวมถึงร่มเข้าที่อย่างรวดเร็ว และเมื่อรถไฟวิ่งผ่านไปแล้ว ก็จะถูกนำกลับมาวางไว้อย่างเป็นระเบียบและรวดเร็วเช่นเดิม จึงกลายเป็นที่มาของชื่อตลาดร่มหุบ ซึ่งเป็นเสน่ห์และความสนุกสนานของบรรดานักท่องเที่ยวที่ได้พบเห็น เมื่อรถไฟผ่านไปทุกอย่างกลับคืนสู่สภาพเดิม

การเดินทางของนักท่องเที่ยว หลายคนใช้วิธีท่องเที่ยว โดยการมาขึ้นรถไฟที่สถานีรถไฟบ้านแหลม มายังสถานีรถไฟแม่กลองเพื่อมาชมตลาดร่มหุบ ซึ่งเป็นรถไฟสายสั้น โดยสถานีแม่กลอง จะมีรถไฟจะวิ่งผ่านตลาดวันละ 8 รอบ เลือกเวลากันได้ตามสะดวก หรือหากจะเดินทางมาจากรุงเทพ จะเริ่มจากวงเวียนใหญ่ ไปลงที่มหาชัย และจากมหาชัยนั่งเรือข้ามฟากไปฝั่งท่าฉลอม เพื่อขึ้นรถไฟต่อจากสถานีบ้านแหลมไปยังแม่กลอง (ปลายทาง) ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมง ค่าโดยสาร 10บาท และหากอยู่ที่โบกี้สุดท้าย แล้วมองผ่านกระจกหลังรถออกไป เวลาผ่านตลาด พอรถไฟผ่านไป พ่อค้าแม่ค้าก็จะกลับมาตั้งร้านเหมือนเดิม ชนิดไล่หลังรถไฟกันเลยทีเดียว เป็นภาพที่หาดูไม่ได้ที่ไหนในโลกนี้ นอกจากที่นี่และด้วยการ นั่งรถไฟเที่ยว เท่านั้น (Rent Connected BLOG, 2020)

สะพานทาชมพู

นั่งรถไฟเที่ยว
ภาพจาก The Cloud

เส้นทาง : สถานีต้นทางกรุงเทพ ปลายทางสถานีสะพานทาชมภู

รถไฟสายเหนือ 

  ระยะทาง : 691.89  กิโลเมตร ระยะเวลา : 9 ชั่วโมง

สะพานขาวทาชมภู  เป็นสะพานประวัติศาสตร์ ตั้งอยู่ที่บ้านทาชมภู หมู่ 4 ตำบลทาปลาดุก อำเภอแม่ทา จังหวัดลำพูน อยู่ระหว่างสถานีขุนตานกับสถานีทาชมภู  มีรูปทรงโค้งทาสีขาวในแบบสถาปัตยกรรมตะวันตก นับเป็นสะพานที่มีความแปลกและท้าทาย เพราะเป็นสะพานคอนกรีตเสริมเหล็ก ปกติสะพานรถไฟจะสร้างด้วยเหล็กเท่านั้น เพราะสามารถทนต่อแรงสั่นสะเทือนและอ่อนตัวได้ดีกว่า แต่เนื่องจากช่วงเวลาที่สร้างเป็นภาวะสงคราม จึงไม่สามารถหาเหล็กมาสร้างสะพานได้ แต่ด้วยการคำนวณและควบคุมงานที่ยอดเยี่ยม ทำให้สะพานขาวทาชมภูยังคงใช้งานได้อยู่จนถึงทุกวันนี้ และในปัจจุบันได้กลายเป็นสถานที่ถ่ายรูปสำหรับนักท่องเที่ยว ถือได้ว่าเป็นจุดเช็คอินที่น่าสนใจของลำพูน

เส้นทางรถไฟไปหัวหิน ประจวบคีรีขันธ์

นั่งรถไฟเที่ยว
ภาพจาก : คุณ Nanthawit Sonaya (เพจเฮัย รถไฟนี่หว่า)

เส้นทาง : สถานีต้นทางกรุงเทพ ปลายทางสถานีหัวหิน

  ระยะทาง : 250 กิโลเมตร ระยะเวลา : 4 ชั่วโมง

เส้นทางรถไฟไปยังหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เหมาะสำหรับสายชิลล์รักทะเลหัวหิน ทะเลยอดฮิตที่ไม่ว่าจะไปกี่ครั้งก็ได้ความสุขกลับมาเต็มเปี่ยม และการเดินทางด้วยรถไฟช่วงระยะทางนี้ จะได้สัมผัสวิวสองข้างทางเป็นบ้านพักอาศัยของชาวบ้านสลับกับต้นไม้สูงใหญ่ เหมือนเส้นทางอื่น ๆ แต่ปลายทางสถานีหัวหินนั้น มากมายด้วยที่เที่ยว ทั้งชายหาดหัวหิน สวนสนประดิพัทธ์ ตลาดซิคาด้า ซึ่งแต่ละจุดนั้นก็อยู่ไม่ไกลกัน จะเช่ามอไซต์เที่ยวก็น่าสนุก หรือมาสัมผัสทะเลอยู่กับตัวเองชิลล์ๆ ก็คุ้ม เป็นอีกเส้นทางที่คุ้มค่างบในกระเป๋า  และที่สำคัญสถานีรถไฟหัวหิน เป็นสถานีรถไฟที่สวยที่สุดในประเทศไทย สีแดงสะดุดตาด้วยสถาปัตยกรรมแบบวิคตอเรียนสร้างทัศนียภาพอันงดงามที่ดึงดูดความสนใจของผู้มาเยือน ในความเป็นจริงสถานีรถไฟหัวหินเองเป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวที่สามารถหาได้ในอำเภอหัวหิน และเมื่อไปถึงใช้บริการ รถตุ๊กตุ๊ก เพื่อไปยังจุดหมายปลายทางต่อไปได้

เส้นทางวิวทิวเขา ทุ่งมะเม่า ประจวบคีรีขันธ์

นั่งรถไฟเที่ยว
ภาพจาก : คุณ Nanthawit Sonaya (เพจเฮัย รถไฟนี่หว่า)

เส้นทาง : สถานีต้นทางกรุงเทพ ปลายทางสถานีทุ่งมะเม่า

  ระยะทาง : 250 กิโลเมตร ระยะเวลา : 4 ชั่วโมง

“ทางรถไฟเลียบทะเล”  จ.ประจวบคีรีขันธ์ คือเส้นทางช่วงบ้านทุ่งมะเม่า ต.อ่าวน้อย อ.เมืองประจวบ เป็นเส้นทางรถไฟสายใต้ ที่มีวิวทิวทัศน์สวยงามสองข้างทาง มีทิวเขาเล็ก ๆ ที่คู่ไปกับเส้นทางรถไฟตลอดเส้นทาง  นั่งชิลๆ ชมวิวไม่รีบเร่ง นั่งชมวิว ฟังเพลง ชีวิตสโลว์ไลฟฺ์ดีจัง  นอกจากเขาเล็ก ๆ แล้ว ยังมองเห็นทะเลอยู่ไกลๆ ช่วงสถานีบ่อนอก – สถานีทุ่งมะเม่า เรียกว่าเป็นเส้นทางสายใต้ที่สวยไม่แพ้เส้นทางสายเหนือเลย สายถ่ายภาพเก็บภาพได้ตลอดเส้นทางได้เลย

เส้นทางผ่านอุโมงค์ขุนตาล

นั่งรถไฟเที่ยว
ภาพจาก : แฟนเพจ: Pandora GhostPrincess

เส้นทาง : สถานีต้นทางกรุงเทพ ปลายทางสถานีขุนตาล

  ระยะทาง : 1,386.50 กิโลเมตร ระยะเวลา : 19 ชั่วโมง

ตั้งอยู่อำเภอแม่ทา จังหวัดลำพูน ใกล้กับอุทยานแห่งชาติดอยขุนตาล อุโมงค์สีแดงโดดเด่นและในอดีตเคยเป็นอุโมงค์ทางรถไฟลอดผ่านยาวที่สุดในประเทศไทย ใช้เวลาก่อสร้างเป็นระยะเวลานานถึง 11 ปี เราจะไปชมทิวทัศน์ของอุโมงค์ขุนตาลได้ต้องนั่งรถไฟสายกรุงเทพ – เชียงใหม่  และสถานีรถไฟขุนตาลเป็นสถานีรถไฟที่อยู่สูงที่สุดในประเทศไทย รอบสถานีเป็นอุทยานแห่งชาติดอยขุนตาล  นักท่องเที่ยวนิยมถ่ายรูปคู่กับรถไฟที่กำลังวิ่งออกจากปากอุโมงค์ขุนตาล เนื่องจากมีความสวยงาม เป็นที่ประทับใจของนักเดินทาง

เส้นทางผ่านอุโมงค์ต้นไม้

นั่งรถไฟเที่ยว
ภาพจาก : หิมาลายัน ทราเวล

เส้นทาง : สถานีต้นทางกรุงเทพ ปลายทางสถานีขุนตาล

  ระยะทาง : 10.6 กิโลเมตร ระยะเวลา : 25 นาที

ตั้งอยู่เส้นทางสายมักกะสัน – แม่น้ำ – โรงกลั่นบางจาก ช่วงทางตัดถนน ณ ระนอง – ทางตัดเข้าท่าเรือคลองเตย ใต้ทางด่วนเฉลิมมหานคร ช่วงต่างระดับคลองเตย – ทางลงท่าเรือ ถือเป็นเส้นทาง amazing ที่มีเส้นทางรถไฟช่วงมหัศจรรย์ภายในเมืองหลวง 

 

การเดินทางด้วยรถไฟกับ 10 เส้นทางนี้  นอกจากจะเป็นทางเลือกสำหรับคนที่หลงใหลการท่องเที่ยวลักษณะนี้แล้ว การเดินทางด้วยรถไฟยังประหยัดเงินในกระเป๋าให้เราได้อีกด้วย เพราะค่ารถเป็นราคามิตรภาพมาก มีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน ยังช่วยเซฟพลังในการเดินทางได้อีกด้วย  และปัจจุบันยังสะดวกในการจองตั๋วแบบออนไลน์อีกด้วย คิดว่าท่านคงตกหลุมรักการเดินทางนี้แน่นอน และหากสนใจเส้นทางอื่น ๆ คลิกรถไฟ จะมี e-book รายละเอียดเส้นทางท่องเที่ยวด้วยรถไฟให้อ่านและเลือกเดินทางกันหลายเส้นทางทีเดียว   

 

เอกสารอ้างอิง 

ชิลไปไหน. (2565). 10 เส้นทางรถไฟสวยในเมืองไทย. https://www.chillpainai.com/scoop/5159

 

ไปด้วยกันท่องเที่ยว. (2021). 10 เส้นทางรถไฟสวยในเมืองไทย. https://www.paiduaykan.com/travel/เส้นทางรถไฟสวย

Kapook.com. (2559). แจกพิกัด 10 ทริปนั่งรถไฟเที่ยว พร้อมมาตรการป้องกันโควิด 19. https://travel.kapook.com/view227623.html

Rent Connected BLOG. (26 พฤษภาคม 2020). ตลาดร่มหุบ ตลาดน่าหวาดเสียวที่สุดในโลก เมื่อรถไฟวิ่งผ่ากลางตลาด.  https://www.rentconnected.com/blogs/maeklong-railway-market/

ทีมพีอาร์การรถไฟแห่งประเทศไทย. (21 มีนาคม 2565). ขบวนพิเศษรถจักรไอน้ำนำเที่ยว เส้นทางประวัติศาสตร์ กรุงเทพ-พระนครศรีอยุธยา. https://www.facebook.com/photo.php?fbid=337688601722471&set=pb.100064440019733.-2207520000.&type=3

TripGether. (2563). 5 เส้นทางรถไฟสวย เห็นแล้วต้องหยิบกล้องขึ้นมาถ่าย. https://www.tripgether.com/อัปเดตเรื่องเที่ยว/5-เส้นทางรถไฟสวย-เห็นแล้วต้องหยิบกล้องขึ้นมาถ่าย/

 

Hits: 601

หากบทความนี้มีประโยชน์ ช่วยกดแชร์ด้วยนะคะ

Facebook Comments

facebook comments

Back To Top