ชวนอ่าน เพราะความรู้เกิดขึ้นง่ายจากการอ่าน
Content for Longlife Learning

อ่านไวใน 7 วัน เป็นเทคนิคฝึกฝนทักษะการอ่านเร็ว ฉบับรวบรัดใน 1 สัปดาห์

อ่านไวใน 7 วัน
 
โดย Tina Konstant  
ลองคิดดูว่าถ้าเราอ่านหนังสือไวขึ้น 10 เท่า  ชีวิตของเราจะก้าวกระโดดไปไกลขนาดไหน
ทุกท่านสามารถนำไปฝึกได้ทันที  แค่ 7 วัน แล้วคุณจะพบกับความมหัศจรรย์ที่เกิดขึ้น !!

อ่านไวใน 7 วัน
จะช่วยคุณได้ หากคุณต้องอ่านตำราเรียนเล่มหนาเตอะ และเวลาก็มีเพียงน้อยนิด หากคุณมีเวลาเพียงแค่ 7 วัน เทคนิคในหนังสือเล่มนี้ ช่วยคุณได้นะ

และช่วยให้ทันวันสอบด้วยนะ

  • แนะนำเคล็ดลับสำหรับการอ่านอย่างรวดเร็ว 
  • เป็นเรื่องที่ง่ายมากโดยมีส่วนที่คุณต้องฝึกหัดเพิ่มเติม
  • เพียงแค่หนึ่งในห้าข้อกลยุทธ์ในหนังสือเล่มนี้เท่านั้นและ
  • ส่วนที่เหลือก็ง่ายมากเพราะคุณเคยใช้มันอยู่แล้วค่ะ 

มาดูกันว่า เทคนิคการอ่าน ให้เร็วภายใน 7 วันช่วยคุณให้รอดจากการอ่านหนังสือเล่มหนาภายในเวลาที่ไม่เหลือเฟือ

การอ่านให้ไวใน 1 สัปดาห์ เราทำได้อย่างไร

 

วันอาทิตย์ วันแรกเราจะมาเรียนรู้เทคนิคการอ่านทั้งห้าขั้นตอนค่ะ โดยเทคนิคนี้มีแนวคิดมาจากกระบวนการของการเน้นสิ่งสำคัญและการกำจัดสิ่งที่ไม่สำคัญออกไป เมื่อเราใช้ระบบการอ่านแบบวิธีนี้  หมายถึงว่าเราจะเน้นไปที่สิ่งสำคัญเพื่อใช้ในการศึกษาและทำจากสิ่งที่ไม่สำคัญออกไป ซึ่งมันก็ขึ้นอยู่กับสิ่งที่คุณต้องการจากหนังสือเล่มนี้หลังจากที่เราได้ทำคำเข้าใจในขั้นตอนที่ 1-5 เรียบร้อยแล้วให้ทดลองเลือกหนังสือที่เราชอบและสนใจมาหนึ่งเล่มและฝึกฝนอ่านโดยใช้เทคนิคอ่านตั้งห้าขั้นตอนโดยอย่าพึ่งไปกังวลถึงเรื่องความเร็วในการอ่านเพราะว่าเรื่องนี้จะอยู่ในหัวข้อต่อไปค่ะ 

Prepare : เตรียมความพร้อม คือ ถามตัวเอง 3 คำถามว่า ทำไมต้องอ่านหนังสือเล่มนี้  อ่านเล่มนั้นเพื่ออะไร (ตั้งเป้าหมาย)  เราต้องการอะไรจากหนังสือเล่มนี้่

Preview : ดูโครงร่างหนังสือ ปก คำนำ สารบัญ บรรณานุกรม ภาพรวมของหนังสือและเนื้อหาน่าสนใจไหม ตรงตามเป้าหมายที่เราต้องการอ่านไหม  ตัดเนื้อหาที่มั่นใจว่าไม่ต้องอ่านออกไป เนื้อหาที่ต้องการ  และถามย้ำสิ่งที่ต้องการจากหนังสือ

Passive Reading : อ่านแบบผ่าน ๆ เน้นคำสำคัญ อ่านเน้นให้เร็วเข้าไว้และทำความเข้าใจเนื้อหาโดยรวม  คือ อ่านแบบ scan ให้จบรวดเดียวให้จบภายใน 30 วินาที  หาคำศัพท์โดดเด่นแล้วขีดเส้นใต้ และทำความเข้าใจศัพท์ก่อนอ่านทั้งเล่ม

Active Reading : อ่านสรุปใจความ ด้วย 2 เทคนิค คือ อ่านย่อหน้าแรกของแต่ละบท และอ่านประโยคแรกของทุกย่อหน้าทำ Mind Map 

Selective Reading : เลือกอ่านส่วนที่เราสนใจเป็นพิเศษ และถามตัวเองว่าได้ข้อมูลครบตามที่อยากได้หรือยัง  ถ้ายังไม่ครบให้กลับไปค้นหา  ถ้าครบแล้วให้หยุดอ่านได้

เรียนรู้เทคนิค 5 ขั้น ตอน ได้แก่

  1. เตรียมตัวให้พร้อมก่อนเริ่มอ่าน  โดยการตั้งคำถาม 3 ข้อ
  2. ดูเนื้อหาของหนังสือคร่าว ๆ
  3. อ่านแบบสแกนให้จบภายใน 30 วิ เน้นคำสำคัญ
  4. สรุปใจความสำคัญ
  5. เลือกอ่านส่วนที่สนใจเป็นพิเศษ
วันจันทร์  เราจะฝึกเทคนิคอ่านเร็ว เรียนรู้วิธีการอ่านเร็วที่ประสบความสำเร็จและกลยุทธ์ในการเพิ่มประสิทธิภาพในการอ่าน มันเป็นเรื่องที่ง่ายมากที่จะเรียนรู้สิ่งที่ไม่เคยทำมาก่อน เราไม่จำเป็นต้องปรับเปลี่ยนพฤติกรรมเดิมๆของเรา เพื่อที่ให้เราประสบความสำเร็จการเรียนรู้เทคนิคการอ่านเร็วถือว่าเป็นเรื่องที่ท้าทายมาก เพราะขณะที่เรากำลังเรียนรู้วิธีการอ่านใหม่เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการอ่าน แต่การอ่านแบบเดิมที่ติดตัวเรามาตั้งแต่เด็กกลับมาขัดขวางกระบวนการการเรียนรู้ของเรา ดังนั้นเพื่อที่จะปลูกฝังนิสัยในการอ่านใหม่โดยไม่ให้มีสิ่งใดมารบกวนเราจะต้องหมั่นฝึกฝนอยู่เป็นประจำค่ะ การอ่านเร็วไม่ใช่การอ่านแต่ละคำให้เร็วกว่าที่คุณเคยอ่าน แต่เป็นอะไรที่มากกว่านั้นมันเป็นการอ่านด้วยความเร็วที่เหมาะสมกับประเภทหนังสือที่เราอ่าน ถ้าเราอ่านช้าไป จิตใจของเราก็จะฟุ้งซ่านเกิดความเบื่อหน่ายและในที่สุดเราก็จะจำไมไม่ได้ แต่ถ้าแต่ถ้าเกิดว่าอ่านเร็วเกินไปเราก็จะสูญเสียโอกาสที่จะจดจำในสิ่งที่เราต้องการจะจำเกิดความเครียดและจดจำได้น้อยลง ยิ่งเรามีความยืดหยุ่นในการอ่านมากเท่าไหร่เราก็ยิ่งสามารถอ่านได้เร็วและจดจำข้อมูลได้มากขึ้นเท่านั้น 

เรียนรู้วิธีพัฒนาการอ่านเร็วที่ครอบคลุมเนื้อหาทั้งหมด

ลดการอ่านออกเสียงในใจโดยการฝึกอ่านโดยใช้นิ้ว ปากกา หรือดินสอจิ้มตัวอักษรและอ่านไปตามตัวอักษรที่ต้องการ

จะช่วยให้เราควบคุมจังหวัะการอ่านให้เร็วขึ้น เพราะมีการนำของสายตาไปยังจุดที่ต้องการ

 

วันอังคาร เป็นการฝึกเทคนิคการจำสิ่งที่อ่าน  ถึอเป็นวันที่สำคัญมากเพราะในวันนี้เราจะได้เรียนรู้วิธีการรวมเทคนิคอันเดียวเข้ากับเทคนิคการเพิ่มความจำค่ะ เมื่อเราอ่านจนถึงตอนท้ายของหน้าหรือของบทหรือของหนังสือของเล่นนั้นเคยไหมที่ควรจะต้องย้อนกลับไปอ่านตั้งแต่ต้นอีกครั้ง เพราะว่าเราไม่สามารถจำสิ่งที่เราอ่านไปได้ไม่ว่าจะสามารถอ่านได้เร็วแค่ไหนเธอจำมันไม่ได้ก็ไม่มีความหมายอะไรเลย แล้วมันยังทำให้เสียเวลาอีกด้วยในการจดจำข้อมูลให้ได้เป็นระยะเวลายาวนานจะต้องมีการทบทวนโดยการทบทวนจะต้องทำอย่างรวดเร็ว เพราะมันจะทำให้เรารู้สึกหมดกำลังใจได้ถ้าใช้เวลานานเกินไป ในวันนี้นะคะเราจะเน้นไปที่กระบวนการทำงานของความจำว่ามีการทำงานอย่างไรและมีวิธีการหรือเทคนิคใดที่จะช่วยให้เราสามารถจำสิ่งที่เราอ่านได้อย่างขึ้นใจ  

 

การจำมี 3 ระบบ ( รับ – เก็บ – ค้นหา ) 

รับ : คือการป้อนข้อมูลเข้าสมอง โดยการอ่านอย่างมีเป้าหมาย วางแผนการอ่าน ตั้งใจอ่านอย่างมีสมาธิ คิดตามสิ่งที่อ่าน ทำความเข้าใจ เชื่อมโยงความจำเก่าและใหม่ 

เก็บ : สรุปจัดเรียงความสัมพันธ์เก่าและใหม่เข้าด้วยกันเพื่อประทับความจำลงสมอง การจำเป็นภาพ Mind Map ,Short Note , Key word , Highlight เป็นต้น  

ค้นหา : คือการใช้ประสาทสัมผัส การใช้จินตภาพเพื่อดึงความจำออกมาใช้ 

เรียนรู้เทคนิคการจดจำในสิ่งที่คุณได้อ่าน ได้แก่

การจดบันทึกเฉพาะคำสำคัญ (keyword)

จดบันทึกบนที่ว่างในหน้าหนังสือ

จดบันทึกโดยใช้ปากกาสี โดยแทน สีของปากกา 1 สี เท่ากับบันทึก 1 เรื่อง 

วันพุธ ฝึกการใช้สายตาเพิ่มความเร็ว   ดวงตาของเราเนี่ยทำงานอย่างไรในขณะที่เรากำลังอ่านหนังสือ แม้ความเหนื่อยล้าจะทำให้ความสามารถในการอ่านของเราลดลงก็ตามแต่ถ้าเราพักสายตาอย่างถูกวิธีก็จะทำให้เรามีสมาธิจดจ่อกับสิ่งที่อ่าน ซึ่งผลที่ตามมาก็คือพวกเราจะสามารถจดจำสิ่งที่อ่านได้เป็นอย่างดีค่ะ เครื่องมือสำคัญที่ช่วยในการอ่านของเราก็คือดวงตาค่ะ สิ่งรบกวนต่างๆจะทำให้เราอ่านได้ไม่สะดวกสบายและจะส่งผลกระทบต่อสมาธิเมื่อเหนื่อยหรือแสงที่ใช้ในการอ่านมีเพียงพอสายตาก็จะล้า ดวงตาของเราปวดมันก็จะส่งผลให้เกิดปวดหัวตามไปด้วย ต่อมาเราก็จะสูญเสียสมาธิและอ่านมากขึ้น เราสามารถอ่านได้ง่ายขึ้นเมื่อเราพักสายตาจากการอ่านมาเป็นเวลานานและแก้ไขนิสัยที่ใช้สายตาที่ผิดวิธีค่ะ

อ่านไวใน 7 วัน
  1. เรียนรู้เทคนิคการใช้สายตาเพื่อเพิ่มประสิทธิผลในการอ่าน
    ด้วยการฝึกอ่านโดยใช้สายตา อ่านจากตรงกลางของกระดาษ แล้วค่อยชำเลืองไปซ้าย – ขวา 
อ่านไวใน 7 วัน
  1. กำหนดเวลาอ่านให้แน่นอน และเหมาะสม โดยประเมินเวลาที่เหลือทั้งหมดว่ามีเท่าไหร่
  2. เลือกสิ่งที่จำเป็นต้องอ่าน สภาพแวดล้อมการอ่านที่ดี หากข้อมูลไม่พอต้องตั้งคำถามว่าไปหาข้อมูลจากไหน 

วันพฤหัสบดี เป็นวันที่ฝึกอ่านภายใต้ความกดดัน 
จะเป็นการพิจารณาสิ่งรบกวนการอ่านของคุณค่ะ เช่นเสียงรบกวนจากภายในหรือภายนอก แสงสว่างที่ไม่เพียงพอ หรือระยะเวลาที่จำกัด ในความคิดของเราเราอยากจะอ่านเฉพาะสิ่งที่เราสนใจและในสภาพแวดล้อมที่ดีที่สุด โดยมีระยะเวลาในการอ่านมากเท่าที่เราต้องการและอยากอ่านรเมื่อไหร่ก็ได้ แต่ในโลกของความจริงชีวิตไม่ง่ายขนาดนั้นบางครั้งเราก็ต้องทนอ่านหนังสือในที่ที่เราไม่ชอบในเวลาและสถานที่ที่ไม่เหมาะสมกับการอ่านและอยู่ภายใต้ระยะเวลาที่จำกัด รวมทั้งเสียงรบกวนที่เกิดขึ้นมากมายรอบรอบตัวของเรา เช่นเสียงโทรศัพท์ซึ่งรบกวนประสิทธิผลในการอ่านและทำให้ไม่อยากจดจำเนื้อหาที่อ่านได้ ยิ่งคุณสามารถลดสิ่งรบกวนได้มากเท่าไหร่คุณก็จะยิ่งมีโอกาสจะประสบความสำเร็จในการอ่านภายใต้ระยะเวลาที่มีอยู่อย่างจำกัดได้มากขึ้นเท่านั้นค่ะ

อ่านไวใน 7 วัน
  1. เรียนรู้เทคนิคกำจัดสิ่งรบกวนในการอ่านเพื่อรักษาสมาธิ ด้วยการ

    กำหนดเวลาอ่านให้แน่นอน และเหมาะสม 

  2. เลือกสิ่งที่จำเป็นต้องอ่าน 

วันศุกร์ ฝึกตัดสิ่งที่รบกวนในการอ่านออกไป
เราได้อ่านเทคนิคการอ่านเดียวต่างๆ เช่นเทคนิคการอ่าน 5 ขั้นตอน
– เทคนิคการอ่านเร็ว
– เทคนิคการจำในสิ่งที่อ่าน
– เทคนิคการใช้สายตาเพิ่มประสิทธิผลในการอ่าน
– เทคนิคกำจัดเสียงรบกวนในการอ่าน

 

และในตอนนี้ก็ได้เวลาแล้วที่เราจะต้องประยุกต์เทคนิคเหล่านี้เข้ากับหนังสือประเภทต่างๆ เพื่อที่เราจะเข้าใจเทคนิคขนาดเดียวได้ดียิ่งขึ้นค่ะ และเราจะทดสอบเทคนิคนี้ในโลกความจริงเราจะได้ทราบว่าเวลาที่เราอ่านจริงเป็นอย่างไรและเราจะเพิ่มประสิทธิภาพการอ่านของเราได้อย่างไรในชีวิตจริงบางครั้งเราก็มีเวลาน้อยมากในการศึกษาข้อมูลจำนวนมากก่อนที่จะเข้าประชุมหรือการนำเสนอความคิดใดใดซึ่งเราก็จะใช้เทคนิคนี้เพื่อช่วยให้สามารถศึกษาข้อมูลทั้งหมดเท่าที่เป็นไปได้ภายในเวลาที่มีอยู่อย่างจำกัด  

อ่านไวใน 7 วัน
อ่านไวใน 7 วัน

เรียนรู้เทคนิคการอ่านหนังสือแต่ละประเภท

  • ตัดสิ่งที่รบกวนออกไป
  • ฝึกอ่านในที่เงียบ ๆ
  • ตั้งรางวัลให้กับตัวเองหากอ่านได้เร็วขึ้น

วันเสาร์ สร้างพรสวรรค์ในการอ่านไว  เป็นวันสุดท้ายที่เราจะเรียนรู้การพัฒนาวิธีใหม่ใหม่และนำไปใช้ให้ติดจนเป็นนิสัย เมื่อไรก็ตามที่เราเรียนรู้สิ่งใหม่ๆมันก็จะมีเวลาสำหรับสิ่งที่เราเรียนรู้ว่าเราควรจะไปปฏิบัติอย่างไรกับมัน แต่ถ้าเราไม่ได้ทดลองปฏิบัติเวลาในการเรียนรู้ของเราก็จะไม่ได้ต่อเนื่อง การรับข้อมูลนั้นเป็นเรื่องที่ง่ายมากเพียงแต่เราอ่านหนังสือ เข้าเรียนหรือฟังจากเทป แต่เมื่อเราได้เรียนรู้แล้วตอนนี้มันขึ้นอยู่กับเราว่าเราจะใช้สิ่งที่เราเรียนรู้ได้มากหรือน้อย เราอาจจะเก็บหนังสือเข้าชั้นจนมันสายเกินไป เราจะทำตามหนังสือได้แนะนำไว้หรือไม่นั้นก็ขึ้นอยู่กับตัวของเราเอง ซึ่งผลก็อาจจะลืมมันหรือนำไปประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวันกับการทำงานหรือการเรียนก็ได้มันขึ้นอยู่กับการตัดสินใจและการกระทำโดยมันเป็นการตัดสินใจเพียงเสี้ยววินาทีว่า คุณอยากพัฒนาตัวเองให้ดีกว่าเดิมหรือไม่ 

อ่านไวใน 7 วัน

เรียนรู้ปัจจัยที่มีผลต่อการพัฒนาศักยภาพการอ่านของคุณ
นำเทคนิคนี้ไปใช้กับการอ่านทุกประเภท
ทำติดต่อกัน 21 วัน แล้วเราจะอ่านไวไปตลอดชีวิต
แบ่งเวลาวันละ 20 นาทีฝึกเทคนิคการอ่านที่กล่าวมาทั้งหมด

อ่านต่ออีกมุมมอง ได้ที่นี่

อ่านไวใน 7 วัน = Speed reading in a week / Tina Konstant ; โอฬาร สุนทรภูษิต, ผู้แปล ; ธนิกานต์ มาฆะศิรานนท์, ผู้เรียบเรียง.

เลขหมู่ LB1050.54ก51อ 2549

Authorกอนสแตนท์, ตีนา
Publishedกรุงเทพฯ : บิสคิต, 2549
Editionพิมพ์ครั้งที่ 1
Detail162 หน้า : ภาพประกอบ ; 21 ซม
Subject
Added AuthorKonstant, Tina
 ธนิกานต์ มาฆะศิรานนท์
 โอฬาร สุนทรภูษิต

Visits: 259

Facebook Comments

facebook comments