เกาะสีชัง เป็นเกาะขนาดเล็กที่เคยเป็นสถานที่ประทับของพระเจ้าแผ่นดินถึง 3 พระองค์ และยังเป็นที่จอดพักเรือสินค้านานาชาติ สามารถท่องเที่ยวในวันเดียวหรือพักค้างคืนได้ ชุมชนเกาะสีชังอยู่ทางตะวันออกของเกาะและเป็นที่ตั้งของท่าเรือเทววงษ์ (ท่าล่าง)

บนเกาะมีสถานที่ท่องเที่ยวหลายแห่ง ได้แก่ พิพิธภัณฑ์พระจุฑาธุชราชฐานห่างจากท่าเทววงษ์ลงมาทางใต้ สร้างในสมัยรัชกาลที่ 5 เพื่อเป็นที่ประทับในฤดูร้อน ด้านหน้าเป็นชายหาดท่าวัง มีสะพานอัษฎางค์ทอดยาวลงไปในทะเล ถัดขึ้นไปเป็นตึกวัฒนา พระตำหนักทรงปั้นหยา เรือนไม้ลวดลายขนมปังขิง และยังมีตึกผ่องศรี หรือศาลาแปดเหลี่ยม และเรือนอภิรมย์ ส่วนวัดอัษฎางค์นิมิตบนยอดเขา ก่อสร้างแบบสถาปัตยกรรมไทยผสมตะวันตก มีสระน้ำ บ่อน้ำระฆังหิน สะพานท่าเทียบเรือ ประภาคาร และมีต้นพระศรีมหาโพธิ์ในบริเวณวัด ห่างจากท่าเรือเทววงษ์ไปทางด้านเหนือของเกาะ มีศาลเจ้าพ่อเขาใหญ่ ลักษณะเป็นถ้ำที่ตั้งอยู่บนเขา ดัดแปลงให้เป็นศาลเจ้าด้วยสถาปัตยกรรมผสมผสานไทย-จีน จากบริเวณศาลมองเห็นทิวทัศน์บ้านเรือนด้านหน้าเกาะได้ชัดเจน สูงขึ้นไปบนยอดเขาเป็นที่ตั้งของมณฑปรอยพระพุทธบาท ซึ่งรัชกาลที่ 5 อัญเชิญมาประดิษฐานไว้ และยังเป็นจุดชมทิวทัศน์ของทะเลได้โดยรอบ หากนั่งเรือผ่านทางด้านหลังของเกาะสีชัง จะเห็นช่องเขาขาด หรือช่องอิศริยาภรณ์ และใกล้เคียงกันมีสะพานวชิราวุธ ทอดยาวเลียบเชิงเขาสำหรับเดินชมพระอาทิตย์ตกที่สวยงาม ริมหาดมีหินก้อนกลมขนาดใหญ่มากมาย บริเวณนี้เคยเป็นที่ตั้งพลับพลาที่ประทับของรัชกาลที่ 5 และมีพระเหลือง พระพุทธรูปองค์ใหญ่ ตั้งตระหง่านอยู่ตรงเชิงเขาภายในสำนักสงฆ์ถ้ำจักรพงษ์ ด้านตะวันตกของเกาะ จะพบหาดถ้ำเขาพัง (อ่าวอัษฎางค์) เป็นชายหาดกว้าง เม็ดทรายละเอียด น้ำใสสะอาด สามารถลงเล่นได้ มีที่พักราคาประหยัดและร้านอาหารอร่อยไว้บริการนักท่องเที่ยว เรือโดยสารที่ไปเกาะสีชังจะแวะจอดที่เกาะขามใหญ่ ซึ่งตั้งอยู่ด้านหน้าของเกาะสีชัง บนเกาะเป็นหมู่บ้านชาวประมง มีบริการที่พักแบบโฮมสเตย์ มีกิจกรรมตกปลา หาหอยนางรม และตกปลาหมึก ส่วนเกาะค้างคาว เป็นเกาะขนาดเล็กอยู่ทางด้านทิศใต้ของเกาะสีชัง มีหาดทรายที่ลงเล่นน้ำได้ รวมทั้งเป็นพื้นที่ตกหมึก ตกปลา ดำน้ำดูปะการัง ล่องแพ และพายคายัก (การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท., ม.ป.ป.)