"ชีวิตคือเงาสะท้อนการใช้ชีวิต" และชีวิตของ นพ.เรืองฤทธิ์ ศิริพานิช ก็สะท้อนให้เห็นตัวอย่างของคนที่ประสบความสำเร็จในทุกอย่างที่อยากเป็นและในทุกอย่างที่ต้องทำตามหน้าที่

ทำทุกอย่างให้สุดRitz เป็นหนังสือที่สร้างแรงบันดาลใจให้เกิดความพยายาม โดยเฉพาะวัยเรียน อ่านหนังสือเล่มนี้แล้วจะรู้สึกฮึกเฮิม จะเกิดความคิดที่ว่า เรายังพยายามได้อีก พยายามขึ้นได้อีก ต้องทำให้เต็มที่เพราะสิ่งที่ริทย้ำในหนังสือเล่มนี้ ริทไม่ได้เกิดมาเก่ง แต่ริทพยายาม ทำทุกอย่างให้สุดRitz จึงมีทุกวันนี้
"ชีวิตคือเงาสะท้อนการใช้ชีวิต" และชีวิตของ นพ.เรืองฤทธิ์ ศิริพานิช ก็สะท้อนให้เห็นตัวอย่างของคนที่ประสบความสำเร็จในทุกอย่างที่อยากเป็นและในทุกอย่างที่ต้องทำตามหน้าที่
งั้นเรามาหากคำตอบกันว่า กุญแจสำคัญที่ทำให้ริทเรียนเก่ง จนได้เป็นคุณหมอคนเก่ง คืออะไร
“เกม” เป็นเหมือนโลกอีกโลกหนึ่งในจินตนาการ ที่ทำให้ผมมีความสุข สนุก และไม่อยากให้ใครมาแตะต้องหรือทำลาย ผมพยายามเรียนให้ได้เกรดดี ๆ คว้ารางวัลจาการแข่งขันนั่น โน่น นี่มาตลอด เพียงเพราะอยากพิสูจน์ให้พ่อ แม่ เห็นว่า “เกม” ไม่ได้เลวร้าย และไม่ได้ทำให้ชีวิตเราแย่ลงได้อย่างที่ใคร (ก็ไม่รู้) บอกไว้ (หน้า 42)
“ผมเป็นคนไม่หวงวิชา” เวลามีเพื่อนมาถามเรื่องเรียนผมจะชอบมาก เพราะเหมือนกันเราได้ทบทวนความรู้ความเข้าใจไปในตัว และจะไม่บอกแค่ “คำตอบ” แล้วจบ แต่จะอธิบายที่ไปที่มาและวิธีการคิด และถ้าตรงไหนผมอธิบายไม่ได้ แสดงว่า ความรู้ในเรื่องนั้นไม่แม่น ผมจะบอกเพื่อนว่า “เดี๋ยวเรากลับไปอ่านตรงนั้นให้ขึ้นใจจนเข้าใจ เพื่อกลับมาอธิบายให้เพื่อฟังหม่อีกครั้ง ส่วนเรื่องที่เพื่อนสงสัยจะเป็นเรื่องยาก เพราะฉะนั้น การติวให้เพื่อนไม่ใช่แค่การแบ่งปันความรู้ให้กันและเท่านั้น ยังเป็นวิธีที่จะทำให้เราเห็น”จุดอ่่อน” ของตัวเองอย่างชัดเจน และกลับไปกำจัดจุดอ่อนนั้นให้หมดไป (หน้า 56)
“ทุกความสำเร็จของผม ล้วนมีต้นทางมากจาก “ความสุข”
ไม่มีร้อยยิ้มไหนจะสวยเท่า รอยยิ้มของพ่อกับแม่ในวันนั้น วันที่ผมสอบติด “หมอ”
“หมอ” เป็นหนึ่งในความใฝ่ฝันของคนทั้งบ้าน ไม่ว่าจะเป็นพ่อแม่ อาม่า อากง หรือคุณตา คุณยาย ต่างอยากให้ผมเรียนหมอ (หน้า 60)
“ชีวิตต้องมี “เป้าหมาย” ที่ชัดเจน และใช้ความพยายามให้เต็มที่ เราก็จะขยับเข้าใกล้ความสำเร็จตลอดเวลา… ผมใช้เวลา 4 ปีเต็ม ๆ กว่าจะไปถึงเป้าหมาย (หน้า 82)
เกมกับชีวิตคล้ายกันเมื่อไหร่ที่เราหลงลืมกติกานั่นหมายถึงจบ ตั้งแต่เล็กจนโตทุกครั้งที่มีความอยากเล่นเกมมันพลุ่งพล่านสิ่งแรกที่เขาจะทำก็คือ รีบประสานงานทุกอย่างให้เรียบร้อยก่อนไม่ว่าจะเป็นการบ้าน รายงาน หรือจัดเตรียมหนังสือตามตารางเรียนให้พร้อมก่อนจะมาต่อคิวเล่นเกม นั่นเป็นกฎเหล็กสำคัญข้อแรกที่เขาตั้งขึ้นกับตัวเขาเองและเป็นกฎที่ไม่เคยมีบทลงโทษ เพราะเขาไม่เคยแหกกฎนี้ไม่เคยมีข้อแม้สักครั้งเดียว เราทำสิ่งที่ชอบได้แต่เราต้องไม่ตามใจจนเสียการเรียน เหมือนที่นักคิดหลายคนบอกว่าความสำเร็จจะเกิดขึ้นได้ต้องบาลานซ์สิ่งที่ชอบและหน้าที่รับผิดชอบให้ได้ค่ะ และนี่เป็นกุญแจความสำเร็จดอกแรกและสำคัญที่สุดที่จะขายรหัสว่าทำไม ริทถึงเรียนเก่งได้
“รางวัลที่ได้มาวัดแค่ “ความรู้” ทางวิชาการ แต่ “ความสำเร็จ” ต้องวัดการนำความรู้นั้นไปใช้ประโยชน์ในชีวิตจริงได้
ภาษาอังกฤษทำให้เห็นภาพนี้ได้ชัดที่สุด เก่งแค่บนแผ่นกระดาษคำตอบไม่ได้อีกต่อไปแล้ว
ซึ่งมันไม่ใช่ปัญหาของผมคนเดียว แต่ผมว่า นี่เป็นปัญบหาระดับชาจิของเราทีเดียว (หน้า 96)
“จริงอยู่ ความกลัวไม่ได้หมดสิ้นไป บางครั้ง เราคงต้องเข้าเขาหลายลูก กว่าจะไปถึงยอดเขาที่สูงที่สุด… แต่ผมมี “ความกล้า” ที่จะผ่าน “ความกลัว” ไปได้ (หน้า 96)
ความสำเร็จไม่ได้อยู่แค่ในตำรา ชีวิตต้องมีเป้าหมายที่ชัดเจนและใช้ความพยายามให้เต็มที่เราก็จะขยับเข้าใกล้ความสำเร็จตลอดเวลา เขาใช้เวลา 4 ปีเต็ม ๆ กว่าจะถึงเป้าหมายในการแข่งขัน เกมเอแมตช์ มัธยมตอนปลายระดับภาคตะวันออกเฉียงเหนือโครงการไซเบอร์คิดครอสเวิร์ดเกมมิ่ง ชิงแชม ป์ภาคตะวันออกเฉียงเหนือครั้งที่ 10 ซึ่งเป็นเวทีใหญ่ที่สุดและเป็นเวทีครั้งใหญ่ครั้งสุดท้ายก่อนจะจบมัธยมศึกษาปีที่ 6 และเขาทำสำเร็จแต่การขึ้นไปเพื่อกลายเป็นผู้แพ้ เสียใจที่เป็นสิ่งที่รู้สึกแน่นอนโอกาสสุดท้ายของตัวเองกับเพราะรางวัลที่หนึ่งแล้วไม่สำเร็จได้เพียงรางวัลรองชนะเลิศอันดับ 1 เด็กหนุ่มก็คิดว่านึกสนุกจนอยากจะเจ๋งแล้วคุณจริง ๆ แล้วเกิดเป็นเป้าหมายที่ต้องทำให้ได้ความพยายามที่ผมใส่ลงไปไม่เคยทำตามเลย มันมาทำให้เขาเข้าใกล้ความหมายทีละน้อย ๆ แต่เวลาจนสามารถก้าวขึ้นมาเล่นบนกระดานใหญ่ได้อย่างที่ฝัน ถึงยังไปไม่ถึงยอดเขาสูงสุดแต่เขาก็มั่นใจว่าถ้ายังไม่จบ ม.6 ก็ยังจะลงแข่งต่อไปเพราะคำว่าแพ้ไม่เคยทำให้เขายอมและเป้าหมายไปได้
“แต่สำหรับพ่อและแม่…ผมรู้ว่า “สิ่งของ” ไม่ใช่ความสุขที่ท่านต้องการ แต่คือ “เวลา) ที่ทุกคนในครอบครัวได้อยู่ใช้ร่วมกันต่างหาก ที่คือ ความสุขที่แท้จริงของพ่อและแม่
และนี่คือเป้าหมายที่สำคัญที่สุดอย่างหนึ่งในชีวิตผม (หน้า 118)
“รักแท้ย่อมมีความปรารถนา แต่รักแท้ ความปรารถนา คือ เห็นคนที่รักมีความสุข โดยไม่ต้องการสิ่งตอบแทน (หน้า 128)
“ถ้าให้เลือกระหว่างลูกชายเป็นหมอ กับลูกชายเป็นเดอะสตาร์ แม่จะเลือกแบบไหน ผมถามแม่ขึ้นเล่น ๆ โดยไม่นึกฝันว่า วันหนึ่งตัวเองจะต้องมายืนอยู่จุดที่ต้องเลือกจริง ๆ
วันนั้น แม่หันมายิ้ม แล้วพูดว่า “แล้วแต่ลูก” ลูกอยากเป็นอะไรก็ได้” (หน้า 144)
หลายครั้งในชีวิต สิ่งที่คิดว่าเป็นไปไม่ได้ … ผมก็ลงมือทำให้เป็นไปได้… จุดหมายที่สำคัญที่สุดในชีวิตก็คือการเรียนหมอให้สำเร็จ แต่ผมไม่จำเป็นจะต้องเดินตามทางเหมือนคนอื่นเป๊ะ คนส่วนใหญ่หรือความเชื่อของคนอื่นว่าต้องเรียนอย่างเดียวถึงจะประสบความสำเร็จ สูตรไม่ได้มีเพียงหลักสูตรเดียว จุดมุ่งหมายเดียวกันแต่ไปคนละทางได้ ทางที่ผมาเลือกอาจจะเป็นทางอ้อม แต่ก็ไม่ได้เถลไถลไร้สาระ เพราะระหว่างทางผมได้ทำ “สิ่งที่รัก” อย่างดีที่สุด และผมพบว่า “ทางอ้อม” ทำให้เขาได้ประสบการณ์ที่ดีที่สุดในชีวิต มากกว่า “ทางตรง” (หน้า 154)
ยอมรับว่า “กลัว” แต่ความกลัวไม่ใช่สิ่งที่น่าอาย เพราะควาามกลัวเป็นช่วงที่เราจะได้ไตร่ตอง เป็นโอกาสเปลี่ยนแปลงชีวิตให้ดีขึ้น (หน้า 154)
15 เคล็ด ไม่ (ลับ) เรียนดีฉบับนักศึกษาแพทย์
1. คะแนนสอบไม่ใช่ทุกอย่างในชีวิต การสอบได้เกรดเอหรือสอบได้มากกว่าหนึ่ง ไม่ได้หมายความว่าเราเก่ง ฉลาด หรืออยู่เหนือใคร เช่นเดียวกับการสอบตกก็ไม่ได้หมายความว่าเราโง่ แย่ หมอที่เกรดเฉลี่ย 4.00 อาจจะรักษาคนไข้ได้แต่ทำให้คนไข้มีรอยยิ้มไม่ได้ รักษากายได้แต่รักษาใจไม่ได้ ฉะนั้นจำไว้ว่าเกรดไม่ใช่ทุกอย่างที่ทำให้คุณค่าของคนเรามากขึ้นหรือลดลง
2. เรียน ๆ เล่น ๆ ก็เก่งได้ เทคนิคส่วนตัวของเขาก็คือการไม่เครียดเมื่อไหร่ที่เครียดก็เริ่มมีความกดดัน ต้องกำจัดออกไปก่อน เช่น อ่านหนังสือแล้วเครียดต้องหยุดอ่านทันที ไปหาอย่างอื่นทำก่อนค่อยมาอ่านใหม่ ยิ่งถ้าปวดหัวเป็นไมเกรน อ่านไปก็เท่านั้นเพราะคุณจะอ่านบรรทัดนึงวนไปวนมา จำได้น้อยมากลองหากิจกรรมนอกห้องเรียนทำ เช่น เล่นกีฬา ทำกิจกรรมโรงเรียน หรือไม่ก็เล่นเกมเกม นอกจากจะช่วยคลายเครียดแล้วยังฝึกความเป็นผู้นำการแก้ปัญหาเฉพาะหน้าได้
3 เทคนิคการอ่านให้ได้ผล การอ่านที่ได้ผลนั้น ข้อ 1 จะต้องอย่าอ่านหนังสือต่อเนื่องยาวนาน ข้อ 2 ต้องวางแผน และข้อ 3 อย่าอ่านข้ามอินโทรหรือเนื้อหาที่แนะนำ
4. ฟังให้เข้าใจ
ตั้งใจฟัง ไม่ฟังไปจดไปหรือจดทุกอย่างที่อาจารย์สอน เพราะเราจะไม่มีเวลาคิดในสิ่งที่ฟัง ไม่มีเวลาให้สมองสงสัย
คิดตาม ถ้าตรงไหนไม่เข้าใจต้องถามให้เคลียร์หรือถ้ายังไม่เคลียร์ในห้องก็ต้องกลับไปค้นคว้าหาคำตอบให้ชัดเจน
อย่าเชื่อทุกคำที่อาจารย์พูดเวลาฟังอาจารย์สอนถ้ามีจุดไหนที่รู้สึกว่าไม่ตรงกับสิ่งที่เราเรียนรู้มาต้องถามให้เคลียร์
5. การสร้างภาพความเข้าใจในสมอง บางคนอาจจะชอบช็อตโน้ตหรือบางคนอาจจะชอบเขียนภาพ Mind Map สรุปความรู้ที่เรียนมาหรือจะนำชีทหรือเอกสารการสอนที่อาจารย์แจกมาเรียงใหม่เป็นข้อ ๆ แล้วแต่ในหัวข้อจะแตกแยกเป็นหัวข้อย่อย ๆ สุดท้ายก็จะได้ภาพความหมายใหม่ขึ้นมาในสมองชุดหนึ่ง
6. เทคนิคการเขียน ความรู้ข้อนี้จะเกิดขึ้นได้ก็ต่อเมื่อเรามั่นใจว่าเรามีความรู้พื้นฐานต่าง ๆ เพียงพอ จำได้แม่นและถูกต้อง เมื่อมีความรู้ใหม่ ๆ เข้าในสมองเราก็จะสามารถนำความรู้ใหม่งั้นไปแขวนกับความรู้เดิมที่มีอยู่ เกิดเป็นโยงใยความรู้ที่เชื่อมต่อกันอย่างเป็นระบบภาพ ความรู้พื้นฐานในสมองก็จะขยายใหญ่ขึ้นมาเรื่อย ๆ เมื่อถึงเวลาใช้งานก็สามารถนำออกมาใช้ได้แม่นยำและถูกต้อง
7. การทบทวนบทเรียนช่วงสอบ นี่ก็เป็นปัญหาใหญ่ของเด็กไทยก็คืออ่านเฉพาะช่วงสอบ ไม่สอบก็ไม่อ่าน แน่นอนอ่านไม่ทันค่ะ เป็นคำที่มักได้ยินจากเพื่อนบนหน้าห้องสอบเสมอการอ่านหนังสือไม่จำเป็นต้องอ่านช่วงสอบเท่านั้นนะคะ ให้วางแผนการอ่านหนังสืออย่างที่บอกตั้งแต่ต้นว่าเรื่องสำคัญเป็นความจำระยะยาวให้อ่านและทำความเข้าใจไว้ตั้งแต่เนิ่น ๆ วนเรื่องรายละเอียดที่เป็นความจำระยะสั้นให้อ่านใกล้ใกล้สอบ
8. ทำการบ้านให้ครบ พยายามหาคำตอบมาตลอดว่าทำไมจึงเรียนเก่งทั้งที่หนังสือไม่ค่อยอ่าน ชอบนั่งหลับเวลาเรียน กลับบ้านไปเล่นแต่เกมส์ สงสัยตั้งนานหลายปีแล้วสุดท้ายก็พบว่าสิ่งที่จะทำให้เข้าใจในบทเรียนซึ่งทำเป็นประจำและไม่เคยขาดคือ การบ้าน ที่อาจารย์มอบหมายและเข้าใจว่าสิ่งนี้แหล่ะที่เป็นคีย์สำคัญ
9. การเก๊งข้อสอบ 80% ข้อสอบเป็นความรู้ที่นักเรียนต้องรู้อะไรบ้างที่ต้องรู้ทั้งหมด ก็อยู่ในหนังสือแบบเรียนในสิ่งที่อาจารย์สอนในชั่วโมงแล้วจะเข้าใจและจำได้ทั้งหมดหรือไม่ถ้ามั่นใจในความรู้พื้นฐานของตัวเองก็จะสามารถทำข้อสอบส่วนใหญ่ได้แล้ว 20% ของข้อสอบ เป็นข้อสอบที่ค้นหาช้างเผือก ถ้าเป้าหมายของเราอยากเป็นที่หนึ่งอยากได้ทุนแล้วก็ต้องขวนขวายไปทำความเข้าใจเรื่องที่ยากกว่าหลักสูตรให้ได้ เช่น โจทย์คณิตศาสตร์บางข้อต่อให้รู้สุดหมดก็ไม่สามารถทำได้ มันต้องมีเทคนิคเพิ่ม เราต้องหาเพิ่มจากการไปเรียนพิเศษหรือการทำข้อสอบเก่าเก่า
10. อย่าประมาท สำคัญมาก คำว่าประมาทไม่ใช่แค่ความพลั้งเผลอ แต่คิดว่าตัวว่าเก่งจริงนี่ เค้าเรียกว่าประมาทได้เหมือนกัน
11. ขี้สงสัย คะแนนไม่ใช่เรื่องสำคัญแต่สงสัยว่าความรู้ความเข้าใจกับโจทย์ข้อนั้น จึงไปถามอาจารย์สุดท้ายก็เข้าใจถูกอาจารย์จึงแก้ไขคะแนนให้กับทุกคน
12. เพื่อนดีมีชัยไปกว่าครึ่ง เพื่อนดีสามารถช่วยเรานำไปสู่ความสำเร็จได้ง่ายขึ้นโ ชคดีที่ชีวิตนี้มีแต่เพื่อนดี ดีในความหมายก็คือเข้าใจกัน
13. หลับให้จำ เกิดจากการสังเกตตัวเองว่าหลังอ่านหนังสือเรื่องใดเรื่องหนึ่งจบแล้วมีเพื่อนมาถามจะตอบคำถามเพื่อนไม่ค่อยได้ กลับไปนอนพักผ่อนวันรุ่งขึ้นเพื่อนมาถามจะตอบเพื่อนได้ดีมันสมองต้องการเวลาในการจัดการความรู้เขียนมาให้เข้าใจแล้วจึงสามารถนำความรู้ไปใช้ได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น
14. เทคนิคในการสอบ มีกฎอยู่ว่า ข้อ 1 ต้องรู้ว่าข้อสอบมีกี่ข้อกี่หน้า และข้อ 2 เมื่อข้อสอบยากซึ่งมี 2 แบบ ข้อสอบ มากเวลาน้อยก็เลยอยากให้เราไปก่อนเพราะถ้าความรู้และเพียงพอแสดงว่าข้อสอบนั้นยากสำหรับเราก็คงอยากเสนอเพื่อนเหมือน และข้อสอบน้อยเวลามาก ให้ทำเครื่องหมายไว้แล้วข้ามไปทำข้อสอบข้ออื่นก่อนแล้วค่อยกลับมาใช้เวลาคิดในข้อสอบที่เข้ามาทีหลัง
15. เคล็ดลับในการแอดมิดชั่น 1. เริ่มจากเลือกคณะที่อยากเรียน 2. ดูรายวิชาและสัดส่วนคะแนนที่ใช้ในการคัดเลือก 3. เทคนิคการอ่านทบทวนความรู้ตั้งแต่มอ. 4-6 หากเราทำความเข้าใจอย่างดีตั้งแต่แรแล้วความรู้ทั้งหมดก็จะอยู่ในสมองของเรา 4. ฝึกทำข้อสอบเก่า ซึ่งไม่ได้หวังว่าข้อสอบจะออกซ้ำแต่การทำข้อสอบมาทำให้เรารู้สึกแนวของคำตอบเพราะคำตอบบางข้อจะเป็นการใช้ความคิด
ทำทุกอย่างให้สุด Ritz | |
Author | เรืองฤทธิ์ ศิริพานิช |
Published | กรุงเทพฯ : สิปปสยาม, 2559 |
Edition | พิมพ์ครั้งแรก |
Detail | 207 หน้า : ภาพประกอบ ; 21 ซม |
Call NO. | |
ISBN | 9786169272700 |
ประเภทแหล่งที่มา | Book |
Hits: 66
No related posts found