USMLE หรือที่หลายคนเรียกสั้นๆ ว่า “ยูสไมล์” คือการสอบเพื่อให้ได้ใบประกอบโรคศิลป์ที่จะทำงานในประเทศสหรัฐอเมริกา การสอบประกอบไปด้วย 3 ส่วน ได้แก่ USMLE step1, step2CK, step2CS(CSA) step3 ซึ่งหากมหาวิทยาลัยหรือหน่วยงานได้จัดซื้อฐานข้อมูลออนไลน์ โดยเฉพาะฐานข้อมูลด้านวิทยาศาสตร์สุขภาพ เช่น Access Medicine ช่วยให้ผู้สนใจเรียนรู้และฝึกหัดเพื่อสอบใบ USMLe ได้อีกช่องทางนอกเหนือจากการใช้เพื่อการเรียนการสอน หรือการวิจัย
USMLE คืออะไร
ความหมายของ USMLE (United States Medical License Examination) นั้นหมายถึง การสอบใบประกอบวิชาชีพแพทย์อเมริกา เป็นการสอบเพื่อวัดความรู้และทักษะทางการแพทย์ตามมาตรฐานของประเทศสหรัฐอเมริกา เป็นการสอบที่ได้รับการยอมรับและถือเป็นแนวทางในการสอบวัดความรู้แพทย์ในหลายประเทศ ในการสอบมีการวัดทั้งความรู้ ความสามารถ มุมมองและทัศนคติที่เกี่ยวข้องกับอาชีพแพทย์ ข้อสอบถูกออกโดยคณาจารย์ทางด้านการแพทย์ และหมอจากทั่วทั้งอเมริกา ผู้สอบต้องสอบผ่านทั้ง 3 ขั้นตอนจึงจะมีสิทธิ์ได้รับใบอนุญาตในการประกอบวิชาชีพแพทย์ในสหรัฐอเมริกา การสอบนี้เป็นการสอบที่จำเป็นสำหรับผู้ที่ต้องการจะสมัครเรียนต่อในหลักสูตร แพทย์ประจำบ้าน (Residency) หรือ แพทย์เฉพาะทางต่อยอด (Clinical Fellow) จัดสอบโดย the Federation of State Medical Boards (FSMB) และ the National Board of Medical Examiners (NBME)

ขั้นตอนการสอบ USMLE
การสอบแบ่งออกเป็น 3 ขั้นตอน
Step 1 : Basic Medical knowledge – ความรู้พื้นฐานทางการแพทย์
ขั้นตอนนี้เป็นการสอบเพื่อประเมินการประยุกต์ใช้องค์ความรู้พื้นฐานด้านวิทยาศาสตร์มาใช้ในการคิดวิเคราะห์ในเชิงการแพทย์ ผู้เข้าสอบต้องมีความรู้ความสามารถด้านวิทยาศาสตร์สำหรับการแพทย์ และต้องเข้าใจหลักการทางวิทยาศาสตร์เพื่อต่อยอดองค์ความรู้นำไปสู่ “การเรียนรู้ ตลอดชีวิชีวิต (Lifelong Learning)” การสอบในขั้นตอนเน้นในเรื่องระบบความคิดและการนำไปต่อยอด (System and process)
และขั้นตอนนี้เป็นข้อสอบที่ยากที่สุด เพราะเนื้อหาเกี่ยวกับวิทยาศาสตร์และวิทยาศาสตร์ที่เกี่ยวข้องกับการแพทย์ทั้งหมด เนื้อหาประกอบด้วย กายวิภาคศาสตร์ พฤติกรรมศาสตร์ ชีวเคมี จุลชีววิทยา พยาธิวิทยา เภสัชวิทยา สรีรวิทยา โภชนาการ และพันธุศาสตร์ เป็นต้น
ความสำคัญของคะแนนในขั้นตอนที่ 1 นับว่าสำคัญที่สุด เพราะใช้เป็นเกณฑ์ในการประเมินเพื่อเข้ารับการฝึก Residency ในสหรัฐอเมริกา เพราะนักศึกษาที่สอบได้คะแนนสูง ก็มีโอกาสสูงที่จะผ่านช่วง Residency และสามารถสอบผ่าน Specialty’s Board
ช่วงเวลาในการสอบหากเป็นนักศึกษาในอเมริกาหลักสูตรแพทย์ 4 ปี จะสอบตอนเรียนจบชั้นปีที่ 2 ส่วนนักศึกษาหลักสูตร 6 ปี จะสอบช่วงชั้นปีที่ 3 หรือปีที่ 4
เงื่อนไขในการสอบ จะมีการบันทึกคะแนนไว้ถาวร ผู้ที่สอบผ่านแล้วจะไม่สามารถสอบใหม่เพื่อปรับคะแนนให้สูงขึ้น แต่ถ้าสอบไม่ผ่าน สามารถสอบใหม่ได้อีก 6 ครั้ง ซึ่งในระยะเวลา 1 ปี สามารถสอบขั้นตอนเดิมได้ไม่เกิน 3 ครั้ง จะต้องเว้นระยะการสอบห่างจากการสอบแก้ตัวครั้งแรกอย่างน้อย 12 เดือน และห่างจากการสอบแก้ตัวครั้งล่าสุด 6 เดือน จึงจะมีสิทธิ์สอบใหม่ ในส่วนของผลการสอบไม่ผ่านก็จะมีการบันทึกไว้ตลอดเช่นกัน
Step 2 : การสอบทางคลินิก
Clinical Knowledge(CK) – ความรู้ทางคลินิก (MCQ) และ Clinical Skill(CS) – ทักษะในการดูแลผู้ป่วยทางคลินิก
เป็นขั้นตอนการสอบเพื่อประเมินความสามารถในการประยุกต์ใช้องค์ความรู้เชิงการแพทย์ ทักษะและความเข้าใจเกี่ยวกับความรู้ชั้นคลินิกที่สำคัญ เพื่อนำมารักษาผู้ป่วย โดยเน้นเรื่องการส่งเสริมสุขภาพให้ดีขึ้นและการป้องกันโรค
เนื้อหาในการสอบแบ่งออกเป็น 2 ส่วน ได้แก่ Step 2 CK (Step 2 Clinical Knowledge) และ Step 2 CS (Step 2 Clinical Skills)
Step 2 CK ใช้เวลาในการสอบหนึ่งวันเต็ม การสอบแบ่งออกเป็น 9 session มีรูปแบบการตอบข้อสอบที่หลากหลายขึ้นอยู่กับข้อสอบ เป็นการวัดความรู้แพทย์และโรคต่างๆ เนื้อหาประกอบด้วย อายุรศาสตร์ สูติศาสตร์และนรีเวชวิทยา กุมารเวชศาสตร์ เวชศาสตร์ป้องกัน จิตเวชศาสตร์ ศัลยศาสตร์ รวมถึงการให้การรักษาให้ศาสตร์อื่น ๆ
Step 2 CS เป็นการสอบเพื่อประเมินทักษะการรักษาและการสื่อสารกับผู้ป่วย โดยจัดสอบเพียง 5 รัฐเท่านั้น ได้แก่ Philadelphia Chicago Atlanta Houston และ Los Angeles เนื้อหาในการสอบประกอบด้วย 3 รายวิชา คือ
- Communication and Interpersonal Skills (CIS) เป็นการประเมินทักษะการสื่อสารโดยมีคนไข้เป็นศูนย์กลาง ดูการรักษาความสัมพันธ์ระหว่างแพทย์กับคนไข้ ความสามารถของแพทย์ในการรวบรวมข้อมูลที่สำคัญ การให้คำปรึกษาช่วยเหลือผู้ป่วยในการตัดสินใจ รวมถึงการสนับสนุนด้านอารมร์แก่ผู้ป่วย การประเมินจะประเมินกับผู้ป่วยจริง โดยประเมินเป็นขั้นตอนจากการสังเกตุพฤติกรรม
- Spoken English Proficiency (SEP) เป็นการประเมินความชัดเจนในการสื่อสารภาษาอังกฤษระหว่างแพทย์กับผู้ป่วย สิ่งที่วัดคือการออกเสียง การเลือกคำ การพูดอย่างเหมาะสม สามารถสื่อสารให้ผู้ป่วยเข้าใจ การทวนคำถาม ผู้ป่วยสามารถฟังเข้าใจ รวมไปถึงสำเนียงที่ฟังง่าย เข้าใจง่าย
- Integrated Clinical Encounter (ICE) เป็นการประเมินทักษะการรวบรวมข้อมูล การตีความข้อมูลที่ได้จากคนไข้ การซักประวัติ การตรวจร่างกาย และการวินิจฉัยโรคที่ใกล้เคียงมากที่สุด สามารถวินิจฉัยแยกโรคได้
ความยากในการสอบในขั้นตอนที่ 2 คือการเน้นความรู้ด้านการสื่อสารทั้งการสอบถามข้อมูล การตัดสินใจ และการให้คำแนะนำคนไข้ ซึ่งจะต้องสื่อสารกับคนไข้เจ้าของภาษาให้รู้เรื่อง เป็นการสอบกับผู้ป่วยจริง เพื่อประเมินความสามารถในการรวบรวมข้อมูล และนำข้อมูลมาประเมินและออกแบบแนวทางการรักษาให้ถูกต้อง ครอบคลุมถึงการทดสอบการตรวจร่างกาย การสื่อสารกับผู้ป่วย เพื่อนร่วมงาน เช่นพยาบาล เป็นต้น
Step 3 : Foundation of Independent Practice & Advance Clinical Medicine ทดสอบความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับความรู้ทางการแพทย์พื้นฐานเพื่อนำไปประยุคใช้ในทางเวชปฏิบัติ รวมถึงความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับการใช้ข้อมูลเชิงประจักษ์
เป็นการสอบปฏิบัติเพื่อดูความพร้อมในการรักษาคนไข้ภายใต้การดูแลของอาจารย์ เน้นในเรื่องการจัดการผู้ป่วยเป็นหลัก โดยนักศึกษาแพทย์ในสหรัฐอเมริกาจะสอบเมื่อจบปีแรกของการฝึก Residency
การสอบในส่วนนี้ มีเนื้อหาด้าน Central nervous system, Eye/ear/nose/mouth/throat, Respiratory system, Circulatory system, Digestive system, Behavioral/emotional disorders, Musculoskeletal system, Skin/subcutaneous tissue, Endocrine/ nutrition /metabolic disorders,
Kidneys/urinary tract, Reproductive system, Pregnancy/childbirth, Neonate/childhood illnesses, Blood and blood-forming organs, Infectious/parasitic diseases, Injuries/wound/toxic effects/burns, Health maintenance issues.
เนื้อหาการสอบ มีขอบเขตที่กว้าง การสอบแบ่งออกเป็น 3 ขั้นตอน แต่ละขั้นตอนผู้สอบต้องเตรียมความพร้อมในด้านเนื้อหาให้ครอบคลุม
และในส่วนของฐานข้อมูล Access Medicine ก็มีการสนับสนุนในเรื่องการสอบUSMLE ด้วย โดยจะมีส่วนของทรัพยากรที่สนับสนุนสำหรับการสอบ โดยเฉพาะ เป็นการช่วยอำนวยความสะดวกให้นักศึกษาสามารถเข้าถึงทรัพยากรเพื่อเตรียมความพร้อม และทบทวนเนื้อหาเพื่อเตรียมสอบได้อย่างสะดวกมากยิ่งขึ้น ซึ่งในส่วนนี้ก็มีทั้งในส่วนที่เป็นหนังสือ พร้อมทั้งข้อสอบ เพื่อทดสอบความรู้ก่อนลงสนามสอบจริง ทรัพยากรที่เตรียมไว้ ช่วยสนับสนุนทั้งการสอบในขั้นตอนที่ 1 และ ขั้นตอนที่ 2 และยังมี Flashcards เพื่อช่วยทบทวนความรู้เพิ่มเติมอีกด้วย
Top Resources for USMLE Prep

High-Yield Q & A Review for USMLE Step 1: Biochemistry and Genetics | |
Physiology Flashcards for USMLE Step 1 and Course Review | https://accessmedicine.mhmedical.com/flashcards.aspx?gboscontainerid=322 |
Test-Taking Strategies for the USMLE STEP 2 Exam: Proven Methods to Succeed |
เราได้รู้จักพื้นฐานของการสอบใบประกอบวิชาชีพแพทย์อเมริกาไปแล้ว ซึ่งผู้สอบจะต้องปฏิบัติตามเงื่อนไขของการสอบ คือ การสอบนี้ผู้สอบต้องสอบผ่านทั้ง 3 ขั้นตอนจึงจะมีสิทธิ์ได้รับใบอนุญาตในการประกอบวิชาชีพแพทย์ในสหรัฐอเมริกาได้ ในบทความต่อไปเราจะกล่าวถึงรายละเอียดของการสอบแต่ละขั้นตอนกันค่ะ
บรรณานุกรม
Consulting, L. s. I. M. (2567). ใบประกอบวิชาชีพแพทย์อเมริกา. Lin’s International Medical Consulting. Retrieved 24 ตุลาคม from https://liemgthailand.com/th/license-usmle/
MEDNU, F. S. t. R. T. i. t. U. b. (256, 10 ธันวาคม 2560). What is USMLE? First Step to Residency Training in the US by MEDNU. https://www.facebook.com/USResidencyMEDNU/posts/what-is-usmleทุกคนคงจะคุ้นตากับคำๆนี้อยู่แล้ว-เพราะอาจจะเคยเห็นผ่านตาจากหนังสือเ/1768146086529504/?locale=th_TH

เรื่องเล่าของความชรา
ไม่มีใครหยุดยั้งความชราได้ แต่เราต้องเรียนรู้ที่จะชราไปอย่างมีคุณภาพ และคลายกังวลเรื่องความชราอย่างมีสติและความเข้าใจที่ถูกต้อง สามารถทำใจยอมรับและรับมือกับความชราที่จะมาถึง รวมถึงการดำเนินชีวิตในวัยชราได้อย่างมีความสุข

เรื่องราวของภูมิคุ้มกัน
เรื่องราวของภูมิคุ้มกัน เป็นเรื่องราวของระบบที่ปกป้องร่างกายจากศัตรูภายนอก เรียกว่า ภูมิคุ้มกัน ซี่งถือว่าสำคัญมากต่อการดำรงชีวิตของคนเรา

เรื่องราวของไขมันช่องท้อง
เรื่องราวของไขมันช่องท้อง หากคุณรู้จะช่วยคุณลดน้ำหนักได้โดยไม่ต้องอด ด้วยการกิน การเคลื่อนไหว และการใช้ชีวิต เล่มนี้จะบอกวิธีลดไขมันที่สุดยอดจากคำแนะนำของคุณหมอ

สมอง มหัศจรรย์ของมนุษย์
สมอง มหัศจรรย์ของมนุษย์ เป็นเสมือนกระจกส่องให้เห็นตัวเอง อ่านแล้วจะเข้าใจระบบการทำงานของมนุษย์ที่ไม่แพ้ปัญญาประดิษฐ์

คุยเฟื่องเรื่องไขมัน
คุยเฟื่องเรื่องไขมัน เล่มนี้จะไขข้อข้องใจเกี่ยวกับไขมันและน้ำมันให้เราได้รู้ และเรารู้เกี่ยวกับเรื่องนี้มากน้อยเพียงใด หากคิดว่ายังรู้ไม่หมด อ่านเล่มนี้ได้เลย เพื่ออนาคตของสุขภาพที่ดี

เรื่องเล่าของน้ำตาล
เริ่องเล่าของน้ำตาล หนังสือที่ไขปริศนาข้อเท็จจริงของ “น้ำตาล” เพื่อให้เรารู้และเข้าใจน้ำตาลและการควบคุมน้ำตาลมากขึ้น