ในโลกปัจจุบัน เราปฏิเสธไม่ได้เลยว่า อุตสาหกรรม K-POP คืออุตสาหกรรมเพลงที่มาแรงที่สุด และมีอิทธิพลเป็นอย่างมาก เป็น 1 ในซอฟต์พาวเวอร์ที่แข็งแกร่งที่สุดของประเทศเกาหลีใต้ หลาย ๆ คนอาจจะรู้จักศิลปิน Girl Group และ Boy Group มากมายที่กำลังเป็นดาวรุ่งในขณะนี้ เช่น aespa, NewJeans, RIIZE, NMIXX, ITZY, TXT, BABYMONSTER เป็นต้น ซึ่งวงน้องใหม่มาแรงเหล่านี้ล้วนอยู่ในยุค New Generation (Gen4 – Gen5) ครั้งนี้เราจะพาทุกท่านนั่งไทม์แมชชีนย้อนเวลากลับไปทำความรู้จักกับ 7 Legends ตำนานที่ทำให้อุตสาหกรรม K-POP กลับมารุ่งเรืองอีกครั้ง
7 Legends of K-POP คือ ตำนาน Girl Group และ Boy Group ทั้ง 7 แห่ง K-POP Generation ที่ 3 ซึ่งเป็นยุคทองที่สว่างรุ่งโรจน์ที่สุดของวงการ K-POP (2012-2019) อันประกอบไปด้วย EXO, BTS, GOT7, RED VELVET, SEVENTEEN, TWICE และ BLACKPINK
7 Legends of K-POP
EXO
เริ่มด้วย EXO (엑소) วงที่ได้รับการขนานนามว่าเป็น “KING of K-POP” Boy Group จากค่ายยักษ์ใหญ่ SM Entertainment ซึ่งประกอบไปด้วยสมาชิก 9 คนได้แก่ ซิ่วหมิน, ซูโฮ, เลย์, แบคฮยอน, ชานยอล, เฉิน, ดีโอ, ไค และเซฮุน (อดีตสมาชิกอีก 3 คนคือ คริส, ลู่หาน, เทา) ในปี 2012 การเดบิวต์ Boy Group ที่มีจำนวนสมาชิกมากถึง 12 คน กับเพลงที่มีชื่อว่า MAMA มาพร้อมคอนเสปต์เด็กหนุ่มที่มีพลังวิเศษจากต่างดาว ซึ่งอาจดูเป็นเรื่องเพ้อฝัน น่าตลกขบขัน หรือฟังดู cringe หู สำหรับใครหลาย ๆ คน แต่ใครจะไปคิดว่าคอนเสปต์นี้จะส่งให้ EXO กลายเป็นดาวรุ่งพุ่งแรง ที่ทะยานขึ้นสู่จุดสูงสุดของวงการในระยะเวลาอันรวดเร็ว
จากวงที่เคยโดนตราหน้าว่าเป็น “ความล้มเหลวของค่าย” กลับเป็นวงที่ทำสถิติ เป็นศิลปิน
K-POP วงแรกที่มียอดขายอัลบั้มทะลุ 1,000,000 copies ในรอบ 12 ปี ด้วยอัลบั้ม XOXO กับเพลงโปรโมทหลักที่มีชื่อว่า Growl (으르렁) นอกจากนี้ยังสามารถคว้ารางวัลจากเวทีต่าง ๆ มากมายทั้งในและนอกประเทศเกาหลีใต้ได้อย่างสมศักดิ์ศรี ด้วยผลงานที่ได้รับการยอมรับจากสาธารณชน ทั้งงานเพลง อัลบั้ม คอนเสิร์ต รวมไปถึงงานเดี่ยวรูปแบบต่าง ๆ ของสมาชิกแต่ละคน เรียกได้ว่าในขณะนั้นเป็นตำนานปรากฏการณ์ยุค EXO เลยก็ว่าได้
อีกหนึ่งผลงานของ EXO ที่เหล่า EXO-L (ชื่อแฟนคลับ) ภาคภูมิใจเป็นอย่างมาก คือการที่พวกเขาได้รับเลือกเป็นตัวแทนศิลปินเกาหลีใต้ ร่วมกับ CL จากวง 2NE1 เพื่อแสดงในพิธิปิดโอลิมปิกฤดูหนาวปี 2018 ซึ่งมีเกาหลีใต้เป็นเจ้าภาพ โดยการแสดงในครั้งนั้นเริ่มต้นด้วยการเต้นแบบเกาหลีโบราณของ คิมจงอิน ก่อนจะตามมาด้วยการแสดงจากสมาชิกทุกคนในเพลง Growl และเพลง Power โดยการแสดงในครั้งนั้นยังกลายเป็นอีกหนึ่งการแสดงที่ได้รับคำชื่นชมจากผู้ร่วมงานและแฟนเพลงทั่วโลกเป็นอย่างมาก
และเมื่อไม่นานมานี้ EXO ก็ได้สร้างตำนานใหม่อีกครั้งกับการส่งเพลง The First Snow ขึ้นสู่อันดับ 1 ในทุก ๆ ชาร์ตของประเทศเกาหลีใต้ และสามารถทำ Realtime All Kill หรือ RAK ได้ถึง 17 ครั้ง แม้ว่าจะปล่อยเพลงมาแล้ว 11 ปี และไร้ซึ่งการโปรโมท นับว่าเป็นปรากฏการณ์ที่หาได้ยากยิ่ง ปัจจุบันถึงแม้จะมีการปรับเปลี่ยนจำนวนสมาชิกเป็น 9 คน และไม่มีการ Active งานวงเท่าเมื่อก่อน แต่ EXO ก็กลายเป็นดาวค้างฟ้าที่เคยส่องแสงสว่างที่สุดในยุคของพวกเขา และเป็น Role Model ของรุ่นน้องอีกมากมาย
BTS
มาต่อกันที่วง Boy Group ที่มีชื่อเสียงโด่งดังไปทั่วโลกอย่าง BTS (방탄소년단) มาจากคำว่า บียอนด์เดอะซีน (Beyond The Scene) ภายใต้สังกัด Bighit Entertainment ประกอบไปด้วยสมาชิกจำนวน 7 คน ได้แก่ จิน, ชูการ์, เจโฮป, อาร์เอ็ม, จีมิน, วี และจองกุก ณ ช่วงเวลานี้ แน่นอนว่าไม่มีใครปฏิเสธได้ถึงความยิ่งใหญ่ของศิลปินกลุ่มวงนี้
BTS เดบิวต์ในปี 2013 กับเพลง No More Dream และโด่งดังเป็นพลุแตกในปี 2016 ด้วยเพลง Fire ซึ่งส่งให้พวกเขาก้าวขึ้นมายืนอยู่แถวหน้าอย่างไร้ข้อครหา ด้วยผลงานเพลงที่มีคุณภาพสม่ำเสมอ การทำผลงานอัลบั้มที่สมบูรณ์แบบ เป็นที่ประจักษ์แก่สายตาคนทั่วโลก พ่วงด้วยรางวัลที่ยิ่งใหญ่มากมายจากทั้งในประเทศเกาหลีใต้ และในประเทศต่าง ๆ รวมไปถึงสหรัฐอเมริกา
โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับปรากฏการณ์ Dynamite ซึ่งเป็นเพลงที่ทุบสถิติทั่วโลก เช่น เพลงที่มียอดวิว Youtube สูงที่สุดของโลกภายใน 24 ชั่วโมง ด้วยยอดวิว 101.1 ล้านวิว, เพลงของศิลปินกลุ่ม K-POP ที่ขึ้นอันดับ 1 ในชาร์ต Billboard Hot 100 ยาวนานถึง 32 สัปดาห์ เป็นเพลงแรกที่สามารถทำ Perfect All-Kill หรือ PAK มากที่สุดบนชาร์ตเพลงเกาหลีใต้ ด้วยจำนวนกว่า 500 ครั้ง ด้วยเนื้อเพลงที่เป็นภาษาอังกฤษทั้งหมด และทำให้ BTS มีชื่อเข้าชิงสาขา Best Pop Duo / Group Performance จากเวที Grammy Awards 2021 นับเป็นศิลปินเกาหลีวงแรกที่ได้เข้าชิงในเวทีนี้
นอกจากเพลงภาษาอังกฤษแล้ว BTS ยังสามารถพาเพลง Life Goes On ซึ่งเป็นเพลงภาษาเกาหลีเพลงแรกขึ้นอันดับ 1 บนชาร์ต Billboard’s Hot 100 ได้สำเร็จ รวมไปถึงการทำสถิติเป็น Boy Group วงแรกและวงเดียวที่มียอดวิว Music Video ทะลุ 1 พันล้านวิวมากถึง 6 เพลงด้วยกัน ถือเป็นช่วงเวลาที่ BTS สร้างผลงานที่อิมแพคมากมายให้กับโลก ด้วยผลงานเหล่านี้ จึงไม่ใช่เรื่องยากสำหรับชายหนุ่มทั้ง 7 คน ที่จะกลายมาเป็นศิลปินที่มีชื่อเสียงระดับโลก และเป็นตำนานศิลปินกลุ่มที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของวงการ K-POP และวงการเพลงโลก
GOT7
แน่นอนว่าคนไทยหลาย ๆ คนย่อมรู้จัก Boy Group ชื่อดังอย่าง GOT7 (갓세븐) ศิลปินจากค่าย JYP Entertainment ซึ่งมีสมาชิกทั้งหมด 7 คน ได้แก่ มาร์ค, เจบี, แจ็คสัน, จินยอง, ยองแจ, ยูคยอม และแบมแบม (สมาชิกชาวไทย)
GOT7 เป็นบอยกรุ๊ปเกาหลีอีกวงหนึ่งที่มีฐานแฟนคลับในประเทศไทยอยู่ในระดับแถวหน้า ด้วยแนวเพลงที่สนุกสนาน เสน่ห์ของเมมเบอร์แต่ละคนในวง โดยเฉพาะอย่างยิ่งแบมแบม ซึ่งเป็นสมาชิกที่มีเชื้อชาติไทย ทำให้บอยกรุ๊ปวงนี้สามารถยึดครองหัวใจของแฟนคลับ K-POP ชาวไทยได้จำนวนมาก พวกเขาเปิดตัวอย่างโดดเด่น ในปี 2014 ด้วยเพลง Got It? และเพลงนี้ก็ทำให้วง GOT7 ขึ้นไปอยู่อันดับที่ 2 บน Gaon Album Chart และอันดับที่ 1 บนชาร์ต Billboard World Albums Chart และกลายเป็นที่จับตามองในฐานะศิลปินหน้าใหม่มาแรงของยุค
เพลงที่ไม่พูดถึงไม่ได้เลยก็คือ Just Right ด้วยเนื้อร้อง และทำนองที่ติดหู ท่าเต้นที่เป็นเอกลักษณ์ ไวบ์บรรยากาศของวงที่มีความสดใส ขี้เล่น แต่ก็แฝงไปด้วยเสน่ห์ของเด็กหนุ่มทั้ง 7 ทำให้พวกเขากลายเป็นศิลปินตัวท็อปของวงการได้อย่างรวดเร็ว ด้วยผลงานที่เป็นเอกลักษณ์ บวกกับความสามารถในด้าน Stage Presence ทำให้พวกเขากลายเป็นที่รู้จักในวงกว้าง และสร้างฐานแฟนคลับทั่วโลกได้อย่างแข็งแกร่ง จนได้รับการจัดอันดับศิลปินจากชาร์ต Billboard’s Artist Hot 100 ด้วยอันดับที่ 45 ในปี 2016 ซึ่งนับเป็นก้าวที่สำคัญสำหรับพวกเขา
และ GOT7 ก็ได้ตอกย้ำถึงความยิ่งใหญ่ของพวกเขาด้วยการคว้ารางวัลบนซัง (1 ในรางวัลใหญ่ ของประเทศเกาหลีใต้) จากงาน Golden Disc Award 2017 ด้วยอัลบั้ม Flight Log: Turbulence ซึ่งมีเพลง Hard Carry เป็นเพลงโปรโมทหลักที่สร้างชื่อเสียงของวงให้แพร่ขยายไปในวงกว้างมากยิ่งขึ้น ปัจจุบันถึงแม้ว่า GOT7 จะหมดสัญญากับต้นสังกัดและแยกย้ายกันไปตามเส้นทางของแต่ละคน แต่พวกเขาก็ได้สร้างความมั่นใจให้กับแฟนคลับและแฟนเพลงทุกคนได้รับรู้ว่า GOT7 จะยังคงเป็นตำนาน Boy Group ที่ไม่มีวันแยกจากกันอย่างแน่นอน
RED VELVET
RED VELVET (레드벨벳) Girl Group สุดปังจากค่าย SM Entertainment ด้วยจำนวนสมาชิก 5 คนได้แก่ ไอรีน, เวนดี้, ซึลกิ, จอย และเยริ กับคอนเสปต์ที่เป็นเอกลักษณ์ด้วยการแบ่งแนวเพลงของวงออกเป็น 2 ด้านคู่ขนาน คือด้าน Red และด้าน Velvet พร้อมกับการรังสรรค์งานศิลปะชั้นสูงถ่ายทอดออกมาผ่านผลงานเพลง ผลงานอัลบั้ม และผลงานอื่น ๆ ที่แปลกใหม่ ไม่จำเจ และมีความเฉพาะตัว ทำให้พวกเธอได้รับฉายาว่า เจ้าแม่คอนเสปต์
เริ่มตั้งแต่การเดบิวต์ในปี 2014 ด้วยเพลง Happiness เพลงที่มีทำนองสดใส กับการเปิดตัว 4 สมาชิก พร้อมด้วยการโชว์ทักษะการร้องเพลงและการเต้นที่เป็นเลิศ จากนั้นก็สร้างความฮือฮาให้กับวงการ ด้วยการเพิ่มเยริ น้องเล็กเข้ามาเพิ่มสีสันให้กับวง พร้อมกับการคัมแบคเพลง Ice Cream Cake ซึ่งได้กลายมาเป็น 1 ในเพลงฮิตติดชาร์ตทั้งในประเทศและนอกประเทศ นอกจากนี้ Red Velvet ยังได้สร้างผลงานที่มีชื่อเสียงมากมายด้วยแนวเพลงที่หลากหลาย มีความแตกต่างแต่ก็ยังคงกลิ่นอายของความเป็น Red Velvet ได้อย่างดีเยี่ยม
และเพลงที่ทำให้พวกเธอมีชื่อเสียงเพิ่มขึ้นทั่วโลกคือเพลง Psycho 1 ใน Mega Hit ของพวกเธอ ด้วยสถิติที่สามารถส่งเพลงขึ้นอันดับ 1 ในหลาย ๆ ชาร์ตของเกาหลี และทำ Certified All Kill ได้ในที่สุด นับเป็นเพลงแรกของวงที่สามารถเข้าสู่ชาร์ท Spotify Global Top 100 Chart ได้สำเร็จ อีกทั้งยังส่งให้ Red Velvet ขึ้นเป็นศิลปิน K-Pop วงที่ 3 และเป็นวงแรกจาก SM ที่มียอด Monthly Listeners เกิน 5 ล้านไอดี นอกจากนี้ Psycho ยังเป็นทำสถิติเป็นเพลงของศิลปิน SM ที่มียอดสตรีมเกิน 100 ล้านสตรีมบน Spotify เร็วที่สุด พร้อมทั้งอัลบั้ม The Reve Festival Finale ก็ขึ้นที่ 1 Worldwide & European iTunes กลายเป็น Girl Group ที่มีอัลบั้มขึ้นที่ 1 Worldwide มากที่สุดในประวัติศาสตร์
สถิติเหล่านี้เป็นเพียงส่วนหนึ่งของความสำเร็จของพวกเธอในฐานะ ตำนาน Girl Group ที่มีคอนเสปต์เป็นเอกลักษณ์ไม่ซ้ำใคร เท่านั้น Red Velvet ยังเป็น Girl Group จาก Gen3 เพียงไม่กี่วงที่ยังคง Active งานวงได้อย่างต่อเนื่องโดยที่ไม่มีการเปลี่ยนแปลงสมาชิกท่ามกลางกระแสของศิลปินรุ่นใหม่ เพราะไม่ว่าจะมีการผลัดเปลี่ยนไปกี่ยุคสมัย Red Velvet ก็ยังคงมีคอนเสปต์ที่ไม่มีใครมาแทนที่ได้
SEVENTEEN
อุตสาหกรรม K-POP นั้นมีตำนานที่เป็นที่รู้จักกันอย่างดี คือตำนาน EBS 3 Boy Group ผู้โด่งดังของเกาหลีใต้ เมื่อมี E(EXO) B(BTS) แล้วเราจะขาด S ซึ่งมาจาก SEVENTEEN (세븐틴) ไปไม่ได้ พวกเขาคือ 1 ใน Boy Group ที่สร้างชื่อเสียงให้กับประเทศเป็นอย่างมาก
ในปี 2015 เด็กหนุ่ม 13 คน ประกอบไปด้วย เอส คูปส์, จองฮัน, โจชัว, จุน, โฮชิ, วอนอู, อูจี, ดีเค, มินกยู, ดิเอท, ซึงกวาน, เวอร์นอน และดีโน ภายใต้สังกัด Pledis Entertainment ได้เปิดตัวด้วยเพลง Adore U ซึ่งในขณะนั้นพวกเขายังไม่ได้รับความนิยมมากนัก ด้วยฐานแฟนคลับที่เริ่มจาก 0 จากค่ายเพลงขนาดกลางในประเทศเกาหลีใต้ และด้วยจำนวนสมาชิกที่คนมองว่าเยอะเกินความจำเป็น ทำให้หลาย ๆ คน มองข้าม SEVENTEEN ไปในช่วงแรก
ด้วยความสามารถในด้านการเพอร์ฟอร์มเพลง และความสามารถด้านการโปรดิวซ์เพลงที่ล้นเหลือ บวกกับความมุ่งมั่นพยายามที่จะพัฒนาและพิสูจน์ตัวเองมาตลอด ในที่สุดเด็กหนุ่มทั้ง 13 คนก็พาชื่อของวง SEVENTEEN ให้ขึ้นไปอยู่ในกลุ่มของศิลปินตัวท็อปแห่งวงการ K-POP ได้สำเร็จด้วยเพลง Don’t Wanna Cry ซึ่ง MV เพลงนี้ทำให้ Seventeen กลายเป็นศิลปินวงแรกในค่าย Pledis Entertainment ที่มี MV ยอดวิวทะลุ 100 ล้านวิว และ Performance ของเพลงนี้ยังได้รับรางวัล Best Dance Performance – Male Group จากงานประกาศรางวัล MAMA 2017 อีกด้วย ซึ่งเป็นตัวการันตีว่าพวกเขาคือตำนาน Boy Group ที่มีเพอร์ฟอร์มานซ์แข็งแกร่งที่สุดของวงการ
นอกจากนี้ SEVENTEEN ยังต่อยอดความสำเร็จของพวกเขาได้อย่างยอดเยี่ยมด้วยอัลบั้ม FML ทำยอดขายไปได้ถึง 6,233,008 ชุด ใช้เวลาประมาณ 2 เดือน ซึ่งถือเป็นอัลบั้มที่มียอดขายสูงที่สุดในประวัติศาสตร์วงการดนตรีเกาหลีใต้ และขึ้นไปอยู่ในอันดับที่ 198 บนชาร์ต Billboard 200 Albums นาน 9 สัปดาห์ติด สถิติเหล่านี้สามารถยืนยันได้อย่างดีว่า SEVENTEEN กลายเป็นศิลปินที่มีคุณภาพ และสร้างชื่อเสียงอันโด่งดังให้กับอุตสาหกรรมดนตรีเกาหลีใต้ได้อย่างสมบูรณ์แบบ
TWICE
อีก 1 ตำนานที่เป็นที่จดจำ นั่นก็คือ TWICE (트와이스) Girl Group สไตล์คัลเลอร์ป๊อปกับสมาชิก 9 คน คือ นายอน, จองยอน, โมโมะ, ซานะ, จีฮโย, มินะ, ดาฮยอน, แชยอง และจื่อวี จากค่าย JYP Entertainmen
พวกเธอเดบิวต์ในปี 2015 ด้วยเพลง Like Ooh Ahh กับแนวเพลงที่สดใส มีสตอรี่น่าสนใจ บวกกับความเป็นเอกลักษณ์ของสมาชิกทั้ง 9 คน ทำให้พวกเธอได้รับความสนใจจากสาธารณะเป็นอย่างมาก ก่อนที่พวกเธอจะดังเป็นพลุแตกด้วยเพลง Cheer Up และ TT ที่ถูกปล่อยมาในปีเดียวกัน และสามารถต่อยอดความโด่งดังให้กับวงได้เป็นอย่างดี นอกจากนี้พวกเธอยังสามารถปล่อยเพลงที่ทำสถิติ Perfect All Kill หรือ PAK (การขึ้นอันดับ 1 ในทุก ๆ ชาร์ตของเกาหลีใต้) ติดต่อกันถึง 3 เพลง (อีกเพลงคือ Knock Knock) จากนั้นพวกเธอทั้ง 9 ก็ได้ปล่อยผลงานที่โด่งดังมากมาย พร้อมกับการสร้างฐานแฟนคลับที่หนาแน่นโดยเฉพาะกับเหล่าแฟนบอยในหลาย ๆ ประเทศ
และในปี 2021 Twice ก็ได้สร้างสถิติอีกครั้งโดยการส่งเพลง The Feels ติดชาร์ต Biilboard’s Hot 100 ครั้งแรกของวง ด้วยอันดับที่ 83 ตอกย้ำถึงความยิ่งใหญ่ของพวกเธอ ในฐานะ 3rd Gen Leader ได้เป็นอย่างดี ทั้งนี้ TWICE ยังกลายเป็น Girl Group ที่มียอดชม MV เกิน 100 ล้านวิวมากที่สุดถึง 17 เพลง ซึ่งเป็นสถิติที่การันตีได้อย่างดีว่า Twice เป็นตำนาน Girl Group ขวัญใจแฟนบอยที่มีเพลงดังเยอะที่สุด
นอกจากความดังในเกาหลีใต้แล้ว Twice ยังสามารถสร้างชื่อเสียงในต่างประเทศได้ดีเยี่ยม โดยเฉพาะในประเทศญี่ปุ่น ด้วยผลงานที่สามารถคว้าอันดับที่ 1 บนชาร์ต Billboard ทั้งประเภท Hot Albums และ Top Albums Sales Charts ในญี่ปุ่น เช่นเดียวกับชาร์ตประจำสัปดาห์ Album TOP 100 ของ Line Music Japan จากอัลบั้ม &TWICE ซึ่งได้รับการรับรองยอดขายในระดับแพลตตินั่มจากสมาคมอุตสาหกรรมการบันทึกเสียงแห่งประเทศญี่ปุ่น (RIAJ) ซึ่งเป็นรางวัลที่มอบให้กับผลงานที่มียอดขายมากกว่า 250,000 ก็อปปี้ โดยนี่นับเป็นครั้งที่ 9 ติดต่อกันหลังจากอัลบั้มทั้ง 8 ชุดของวงที่ออกวางในญี่ปุ่นก่อนหน้านี้ ล้วนมียอดขายในระดับแพลตตินั่มมาแล้วทั้งสิ้น และด้วยความโด่งดังของวง Twice ยังเป็น K-POP Girl Group วงแรกในประวัติศาสตร์ที่จัดคอนเสิร์ตเวิร์ลทัวร์ครั้งที่ 5 Ready to Be ที่ Nissan Stadium สนามกีฬาที่ใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่น ต่อจาก TVXQ Boy Group ชื่อดังที่เป็นวงแรกจาก Gen2 นั่นอาจกล่าวได้ว่า Twice ก็เป็นศิลปินที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดอีกวงหนึ่งจากประเทศเกาหลีใต้
BLACKPINK
ปิดท้ายด้วย Girl Group ที่ไม่มีใครในโลกนี้ไม่รู้จักอย่าง BLACKPINK (블랙핑크) Girl Group ชื่อดังภายใต้สังกัด YG Entertainment ประกอบไปด้วย 4 สาว จีซู, เจนนี่, โรเซ่ และลิซ่า ด้วยองค์ประกอบที่ลงตัวทั้งแนวเพลงที่เป็นเอกลักษณ์ ท่าเต้นที่เป็นที่จดจำ การโปรโมทที่ไม่เหมือนใคร สมาชิกในวงที่มีเสน่ห์เฉพาะตัวยากจะหาใครเทียบได้ ทำให้ BLACKPINK มีชื่อเสียงโด่งดังไปทั่วโลกในระยะเวลาไม่กี่ปี
ย้อนกลับไปในปี 2016 BLACKPINK ศิลปินน้องใหม่จากประเทศเกาหลีใต้ได้เดบิวต์อย่างเป็นทางการด้วยเพลงไตเติ้ลคู่อย่าง Boombayah และ Whistle ซึ่งทั้งสองเพลงสามารถทำผลงานได้ดีทั้งในเกาหลีและอินเตอร์ โดย Whistle สามารถทำให้พวกเธอได้สถิติ Perfect All Kill ขึ้นชาร์ตอันดับ 1 ทั้ง realtime และ daily ในทุกชาร์ต รวมทั้ง ichart ของเกาหลี ในขณะที่ Boombayah เป็นเพลงเดบิวต์ที่มียอดวิว ทะลุ 1,600 ล้านวิวรวมเป็นเวลาทั้งหมด 6 ปี 10 เดือน 25 วัน 11 ชั่วโมงนับตั้งแต่ปล่อย MV และยังเป็นมิวสิควิดีโอเดบิวต์ของ K-Pop วงแรกในประวัติศาสตร์ที่ประสบความสำเร็จถึงจุดนี้ ทำให้พวกเธอกวาดรางวัลมากมาย ทั้งรางวัลศิลปินหน้าใหม่ และรางวัลบนซังจากเวทีต่าง ๆ ได้ในปีเดียวกัน
หลังจากนั้น พวกเธอก็สร้างตำนานและทุบสถิติอย่างต่อเนื่อง จากการพาอัลบั้ม Square Up มินิอัลบั้มแรกของพวกเธอติดชาร์ตเพลงของ iTunesใน 38 ประเทศ อีกทั้งยังเป็น Girl Group เกาหลีวงแรกที่ติดชาร์ตเพลงของอังกฤษ อีกทั้ง DDU DU DDU DU ซึ่งเป็นเพลงโปรโมทหลักของอัลบั้มนี้ก็ได้เปิดตัวบนชาร์ต Billboard’s Hot 100 ด้วยอันดับที่ 55 ถือว่าเป็นอันดับที่สูงที่สุดจาก Girl Group เกาหลี ซึ่งก่อนหน้านี้วงรุ่นพี่อย่าง Wonder Girls เคยเดบิวต์ด้วยเพลง “Nobody” ในปี 2009 ซึ่งเปิดตัวที่อันดับ 76 ก่อนที่จะถูกทำลายสถิติด้วยเพลงของพวกเธอเองอีกครั้ง ด้วยเพลง Ice Cream (with Selena Gomez) จากอัลบั้ม The Album อันดับที่ 13 ถือเป็นอันดับสูงสุดของศิลปินหญิง K-POP ตามมาด้วยเพลง Pink Venom จากอัลบั้ม Born Pink ในอันดับที่ 22 และในขณะเดียวกัน ตัวอัลบั้ม เอง (Born Pink) ก็มียอดขาย 2.8 ล้าน Copies ใน Circle Album Chart ทำให้ Born Pink เป็นอัลบั้มของ K-POP Girl Group ที่มียอดขายสูงที่สุดตลอดกาล
BLACKPINK ยังคงทำสถิติอย่างต่อเนื่องด้วยผลงาน Girl Group ที่มียอดวิว Music Video ทะลุ 1 พันล้านมากที่สุด ซึ่งมีถึง 5 เพลงด้วยกัน และเพลง DDU DU DDU DU เป็นเพลงแรกของศิลปินกลุ่ม K-POP ที่มียอดวิวถึง 1 พันล้าน และยังคงเป็นเพลงเดียวที่มียอดวิวถึง 2 พันล้าน จนถึงปัจจุบันนี้
นี่เป็นแค่สถิติส่วนหนึ่งของ BLACKPINK เท่านั้น ยังคงมีผลงานอีกมากมายทั้งในระดับประเทศและระดับโลกที่พวกเธอเคยทำไว้ให้คนทั้งโลกได้จดจำแม้ว่าในตอนนี้พวกเธอจะหมดสัญญากับค่าย และกลายเป็นศิลปินเดี่ยวไปแล้วก็ตาม นั่นจึงเป็นเหตุผลว่าทำไมพวกเธอถึงได้รับการขนานนามว่าเป็น ตำนาน Girl Group ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของโลก
Girl Group และ Boy Group ทุกวงที่กล่าวมา ไม่เพียงแต่จะสร้างผลงานที่น่าจดจำให้ตนเองทั้งในประเทศและทั่วโลก แต่ด้วยสถิติอีกมากมายที่ไม่สามารถกล่าวถึงได้ทั้งหมด ยังทำให้พวกเขาสร้างความยิ่งใหญ่ และชื่อเสียงให้กับประเทศเกาหลีใต้ได้อย่างยอดเยี่ยมอีกด้วย และทำให้กระแสของอุตสาหกรรมเพลง K-POP เป็นที่จับตาจากคนทั่วโลกอีกครั้ง ในระยะเวลาหลายปีติดต่อกัน นั่นเป็นเหตุผลว่าทำไม ศิลปินทั้ง 7 จึงกลายเป็น 7 Legends ของ K-POP ที่ไม่ว่าจะผ่านไปนานเท่าไหร่ ผู้คนก็จะจดจำพวกเขาไว้ด้วยความชื่นชมอยู่เสมอ
*หมายเหตุ สถิติและผลงานต่าง ๆ ที่ได้กล่าวไปข้างต้น ล้วนเป็นสถิติที่เกิดขึ้นหรือถูกระบุไว้ ณ ช่วงเวลานั้น ซึ่งอาจเปลี่ยนแปลงได้ในปัจจุบัน
บรรณานุกรม
เจ้าของเรื่อง
maybeAsiren
กัญญาณัฐ เคลือบกำเหนิด
นักศึกษาฝึกงานจากมหาวิทยาลัยศิลปากร
BlondeMaize
สุกฤตา คงทอง
นักศึกษาฝึกงานจากมหาวิทยาลัยศิลปากร