ด้วยตัวผู้เรียนมีความไฝ่รู้เรื่องสุขภาพ ใส่ใจเรื่องอาหารเพื่อสุขภาพอยู่แล้ว จึงมีความสนใจบทเรียนอาหารสำหรับผู้สูงอายุ เพื่อดูแลตัวเองในอนาคต และดูแลคนใกล้ชิดในครอบครัวที่มีผู้สูงอายุให้ดูแล และถึงแม้ไม่ใช่ผู้สูงอายุ การใส่ใจในอาหารการกิน จะช่วยเรื่องการป้องกันการเกิดโรคในวันข้างหน้าได้

ปัจจุบัน ไทยเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุ คาดว่ามีหลายคน มีผู้สูงอายุอยู่ในความดูแล สิ่งสำคัญสำหรับผู้สูงอายุ คืออาหาร ผู้สูงอายุควรได้รับสารอาหารครบทั้ง 5 หมู่ หลีกเลี่ยงอาหารที่ให้พลังงานมากเกินไป เช่น อาหารทอด ขนมหวาน ผลไม้ที่มีรสหวาน ผู้สูงอายุมักไม่ค่อยรับประทานอาหาร เลือกทานแต่ของที่เคี้ยวง่าย มีอาการเบื่ออาหาร ทานอาหารได้น้อยลง ทำให้ร่างกายขาดวิตามินและเกลือแร่
ผู้สูงอายุควรระวังเรื่องโรคอ้วน ที่ส่งผลให้เกิดโรคเบาหวาน ความดันโลหิตสูง โรคหัวใจ ไขมันอุดตัน ผู้สูงอายุจึงต้องรักษาน้ำหนักตัวให้คงที่ ความต้องการสารอาหารของผู้สูงอายุ จะเป็นอาหารประเภทโปรตีน ได้แก่ ปลาทู ไข่ ถ้าผู้สูงอายุมีโรคประจำตัวควรรับประทานแต่ไข่ขาว ถ้าผู้สูงอายุรับประทานโปรตีนมากเกินไป ทำให้น้ำหนักตัวเพิ่ม ส่งผลให้ไตทำงานหนักในการขับสารยูเรีย
สารอาหารแต่ละประเภทสำหรับผู้สูงอายุ
- ไขมัน ให้ความอบอุ่นแก่ร่างกาย ความต้องการไขมันในผู้สูงอายุลดลง เนื่องจากความต้องการพลังงานลดลง นอกจากนี้ ไขมันยังเป็นตัวนำหรือตัวละลายวิตามินในไขมันด้วย ได้แก่ วิตามัน A D E และ K
- คาร์โบไฮเดรต ควรให้ผู้สูงอายุทานข้าวไม่ขัดสี หรือข้าวกล้อง เพื่อลดน้ำตาลในข้าว
- วิตามัน ได้แก่ ผัก ผลไม้ วิตามิน ช่วยให้ร่างกายทำงานได้ตามปกติ ผู้สูงอายุมีความต้องการวิตามันเท่ากับวัยหนุ่มสาว
- เกลือแร่ สารอาหารประเภทเกลือแร่ ได้แก่ อาหารประเภทเกียวกับวิตามิน คือผัก และผลไม้
- ธาตุเหล็ก ได้จากตับ เนื้อสัตว์ ไข่แดง เลือดสัตว์ เพื่อการดูดซึมธาตุเหล็กได้ดีขึ้น ควรรับประทานผักสดหรือผลไม้ที่มีวิตามันซีสูงควบคู่ไปด้วย
- แคลเซี่ยม นอกจากเช่วยเรื่องสร้างกระดูกและฟันแล้ว ยังช่วยในการแข็งตัวของโลหิต การยืดหดตัวของกล้ามเนื้อ ถ้าร่างกายขาดแคลเซี่ยม จะส่งผลให้เกิดการดึงแคลเซียมจากกระดูก และการขาดแคลเซียมมักจะพบในผู้สูงอายุ เนื่องจากเมื่ออายุมากกว่า 35 ปี ร่างกายจะเริ่มการสลายแคลเซียม มากกว่าสร้างแคลเซียม
- น้ำ ผู้สูงอายุควรดื่มน้ำอย่างน้อยวันละ 1.5 ลิตร น้ำช่วยในการย่อยและขับของเสียออกจากร่างกาย

ผู้สูงอายุ ควรปฏิบัติตามโภชนบัญญัติ 9 ประการ เพื่อลดปัญหาสารอาหารเกินและขาด
- รับประทานอาหารให้หลากหลาย ในสัดส่วนที่เหมาะสม และหมั่นดูแลน้ำหนักตัว
- รับประทานข้าวเป็นหลัก เน้นนข้าวกล้อง ข้าวขัดสีน้อย อย่างน้อยมื้อใดมื้อหนึ่งของวัน
- รับประทานพืช ผัก ผลไม้ ตามฤดูกาลให้มาก และเป็นประจำ ผักควรรับประทานให้ไม่น้อยกว่า 4 ทัพพี/วัน และผลไม้ให้เน้นผลไม้ที่รสไม่หวานจัด
- รับประทาน ปลา ไข่ เนื้อสัตว์ไม่ควรติดมัน ถั่ว และผลิตภัณฑ์จากถั่วเป็นประจำ
- ดื่มนมและผลิตภัณฑ์จากนม เช่นโยเกิร์ตรสธรรมชาติ
- หลึกเลี่ยงอาหารที่มีไขมันสูง รสหวานจัด เค็มจัด
- ดื่มน้ำสะอาดให้เพียงพอ หลีกเลี่ยงเครื่องดื่มที่มีรสหวาน
- รับประทานอาหารที่สะอาดและปลอดภัย
- งดหรือลดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์
หลักการประกอบอาหารสำหรับผู้สูงอายุ
- ลดปริมาณอาหารให้น้อยลง เพิ่มมื้ออาหารให้มากขึ้น
- บริโภคอาหารให้ครบ 5 หมู่ ควรดื่มนมทุกวัน วันละ 1-2 แก้ว
- การประกอบอาหารควรดัดแปลงอาหารให้เคี้ยวง่าย เช่นสับให้ละเอียด ต้มให้เปื่อย ปรุงให้เหลว
- ปรุงรสชาติอาหารให้จืดลงเล็กน้อย ไม่ให้เค็มมาก
- เสริฟอาหารใหม่ๆ ร้อนๆ เพื่อช่วยกระตุ้นน้ำย่อยและน่ารับประทานมากกว่าอาหารเย็น
- บริโภคอาหารมื้อหนักตอนกลางวันและมื้อบ่ายแทนบริโภคมื้อเย็น เพราะจะช่วยให้หลับสบายขึ้น
- หลีกเลี่ยงเครื่องดื่มประเภทชา กาแฟ เพราะจะทำให้นอนไม่หลับ
ที่มา https://thaimooc.org/course/THAIMOOC%3A%3Acourse–v1%3ACRRU-CRRU012-2019
อาจารย์วาสนา ติวงศ์
อาจารย์ชุติภัสร์ เรืองวุฒิ
อาจารย์กนกวรรณ ปลาศิลา
อาจารย์วาสนา เสภา
อาจารย์จิราพร มะโนวัง
สาขาวิชาคหกรรมศาสตร์ สำนักวิชาสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงราย
สิ่งที่ได้จากการเรียนรู้บทเรียนนี้
- ได้รู้สภาพร่างกายของผู้สูงอายุ ที่มีความเสื่อมไปตามอายุ
- ได้รู้ข้อจำกัดของผู้สูงอายุในการทานอาหาร
- เข้าใจสภาพจิตใจของผู้สูงอายุมากขึ้น
- ได้เรียนรู้คุณค่าทางอาหารแต่ละประเภท ที่ผู้สูงอายุทานได้
- ได้รู้วิธีการปรุงอาหารเพื่อให้ผู้สูงอายุทานอาหารได้มากขึ้น
- ได้เรียนรู้การปรับพื้นที่สำหรับรองรับผู้สูงอายุ
Hits: 35
