สรุปผลการดำเนินงานโครงการ “สำนักงานสีเขียว (Green office) “ ตามเกณฑ์มาตรฐานของกรม
ส่งเสริมคุณภาพสิ่งแวดล้อม
เกณฑ์ 3.1 การใช้น้ำ
สํานักงานมีการใช้พลังงานหลายรูปแบบและที่ขาดไม่ได้คือการใช้ทรัพยากรนํ้า เพื่อมาใช้ในการอุปโภคและบริโภค ดังนั้นทางสํานักงานจะต้องปลูกฝังในการใช้อย่างรู้คุณค่า ประหยัดและมีการควบคุมเพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดในแต่ละกิจกรรม โดยกําหนดมาตรการในการใช้ทรัพยากรนํ้าอย่างมีประสิทธิภาพ และต้องเก็บข้อมูลการใช้นํ้าเป็นประจําอย่างต่อเนื่อง เพื่อพิจารณาปริมาณการใช้ทรัพยากรนํ้า
การกำหนดมาตรการการใช้น้ำในพื้นที่สำนักงานและพื้นที่ให้บริการเพื่อสร้างการรับรู้และความตระหนักในการใช้น้ำและสื่อสารให้พนักงานทราบและช่วยกันประหยัดน้ำ โดยติดป้ายรณรงค์และมาตรการการใช้น้ำในบริเวณหน้าห้องน้ำ ในห้องน้ำ ก๊อกน้ำ ครัว และมีการสื่อสารผ่านช่องทางป้ายอิเล็กทรอนิกส์ หนังสือเวียน หน้าเพจ facebook และหน้าเว็บไซต์ มีการกำหนดเวลาในการใช้น้ำตามเวลาเปิดปิดของสำนักงาน และมีการเปลี่ยนอุปกรณ์ที่ชำรุดในห้องน้ำ โดยแจ้งข้อมูลไปที่ส่วนบริการกลาง (ของมหาวิทยาลัย) ซึ่งเป็นผู้รับผิดชอบในการซ่อมอุปกรณ์
มีการจัดทำข้อมูลการใช้น้ำให้เหมาะสมกับสำนักงาน โดยมีการกำหนดมาตรการการใช้น้ำ และมีผู้รับผิดชอบประสานกับหน่วยงานที่รับผิดชอบในการเก็บข้อมูลการใช้น้ำอย่างสม่ำเสมอทุกเดือน จากผลการเก็บข้อมูลและเปรียบเทียบกับเป้าหมาย ปรากฎผลการใช้น้ำในปี 2560-2562 ดังนี้


มีการใช้น้ำ 4,543 ลิตร
จำนวนผู้ใช้ 93,666 คน
การใช้น้ำต่อคน
ปี 2560
มีการใช้น้ำ 9,213 ลิตร
จำนวนผู้ใช้ 260,684 คน
9,213/260,684
การใช้น้ำเฉลี่ยลิตร/คน/วัน
0.22
ปี 2561
มีการใช้น้ำ 9,315 ลิตร
จำนวนผู้ใช้ 159,409 คน
9,315/159,409
การใช้น้ำเฉลี่ยลิตร/คน/วัน
0.40
ปี 2562
มีการใช้น้ำ 4,543 ลิตร
จำนวนผู้ใช้ 93,666 คน
4,534/93,666
การใช้น้ำเฉลี่ยลิตร/คน/วัน
0.64
การใช้น้ำของบุคลากร เปรียบเทียบจากปี 2560-2562 ปรากฎว่ามีการใช้น้ำไม่เป็นไปตามเป้าหมายที่กำหนดไว้เนื่องจาก อาคารบรรณสารมีการเปลี่ยนเครื่องทำน้ำเย็นประสิทธิภาพสูงแบบ Magnetic Bearing พร้อมหอระบายความร้อนด้วยน้ำทดแทนของเดิม และติดตั้งโอโซนสำหรับหอระบายความร้อนด้วยน้ำ ติดตั้งอุปกรณ์ควบคุมความเร็วรอบ (VSD) สำหรับปั้มน้ำเย็น เครื่องส่งลมเย็น มอเตอร์เติมอากาศพร้อม DO Sensor ที่บ่อบำบัดน้ำเสีย และปั้มสูบจ่ายน้ำเข้าระบบท่อ ที่อาคารโรงผลิตน้ำประปา และติดตั้งโปรแกรมบริหารจัดการพลังงานไฟฟ้า และควบคุม Peak Demand อาคารศูนย์บรรณสารฯ เมื่อเดือนกรกฏาคม 2561 ซึ่งจะส่งผลการต่อปริมาณการใช้น้ำในสำนักงานสูงขึ้น
ที่มา : https://www.wu.ac.th/th/news/14058
3.1 การใช้น้ำ | |
---|---|
หมวด/ตัวชี้วัด | หลักฐานการดำเนินการ |
1.ร้อยละของมาตรการการใช้น้ำเหมาะสมกับสำนักงานจะต้องประกอบไปด้วยการสร้างความตระหนักในการใช้น้ำ การกำหนดเวลาการใช้น้ำ การกำหนดรูปแบบการใช้น้ำ กและการเปลี่ยนอุปกรณ์ประหยัดน้ำ | ตารางสำรวจน้ำ ตารางสำรวจน้ำ_พื้นที่ชั้น 1 ตารางสำรวจน้ำ_พื้นที่ชั้น 2 มาตรการน้ำประปามาตรการการใช้น้ำ |
2. มีการจัดทำข้อมูลการใช้น้ำต่อหน่วยเปรียบเทียบกับเป้าหมาย | สถิติการใช้น้ำปี2559-2562-LASTEST |
3. ร้อยละของการปฏิบัติตามมาตรการประหยัดน้ำในพื้นที่ทำงาน (ประเมินจากพฤติกรรมของบุคลากรในพื้นที่) | ตารางสำรวจน้ำ |
ตารางสำรวจน้ำ_พื้นที่ชั้น 1 | ตารางสำรวจน้ำ_พื้นที่ชั้น 2 |
การนำน้ำกลับมาใช้ใหม่

รดต้นไม้
น้ำที่พนักงานดื่มไม่หมด นำมารดต้นไม้ในสวนหย่อมภายในอาคาร
ผนึกสติ๊กเกอร์

น้ำที่ดื่มไม่หมด นำมาผสมกับน้ำยา เพื่อผนึกสตื๊กเกอร์ ทำให้สามารถไล่ฟองอากาศ และเรียบได้
หล่อเลี้ยงต้นไม้รอบอาคาร
น้ำทิ้งที่เกิดจากเครื่องดูดความชื้นทำงาน มีการต่อท่อน้ำทิ้งให้ไปรดต้นไม้ที่ปลูกไว้รอบนอกอาคาร


เกณฑ์ 3.2 การใช้พลังงาน
สํานักงานมีการใช้พลังงานหลากหลายรูปแบบ เช่น ระบบปรับอากาศ ระบบแสงสว่าง และการใช้อุปกรณ์ต่าง ๆ ภายในสำนักงาน แต่จะใช้มากใช้น้อยขึ้นอยู่กับลักษณะกิจกรรม ดังนั้น ทางสำนักงานจะต้องกำหนดมาตรการในการใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพ ได้แก่ การบำรุงรักษาเครื่องใช้ไฟฟ้า การกำหนดเวลาเปิด ปิด การติดป้ายรณรงค์ เป็นต้น และทางสำนักงานจะต้องเก็บข้อมูลการใช้พลังงานเป็นประจำอย่างต่อเนื่อง เพื่อพิจารณาปริมาณการใช้พลังงานดังกล่าว ทั้งนี้ทางสำนักงานจะต้องควบคุมหน่วยงานภายนอกที่เข้ามาใช้พื้นที่ตามมาตรการของสำนักงานด้วย
3.2 การใช้พลังงาน
1. มาตรการใช้ไฟฟ้า ได้แก่ การสร้่างความตระหนักในการใช้ไฟฟ้า โดยการสื่อสารให้พนักงานทราบเพื่อช่วยสร้างนิสัยประหยัดพลังงานโดยการสื่อสารผ่านช่องทางต่าง ๆ รวมถึงการจัดทำสติ๊กเกอร์ประหยัดพลังงานต่าง ๆ ภายในสำนักงาน เพื่อช่วยให้เกิดความตระหนัก เช่น มีการกำหนดเวลาการใช้ไฟฟ้าดังนี้
1) ลดชั่วโมงการทำงานของระบบปรับอากาศและระบายอากาศบริเวณโซนทำงาน โดยเปิดเครื่องปรับอากาศเวลา 9.00 น. และปิดเวลา 16.00 น. (โซนให้บริการเปิดปิดเครื่องปรับอากาศก่อนให้บริการและหลังให้บริการครึ่งชั่วโมงยกเว้นกรณีมีเหตุจำเป็น) 2) เครื่องคอมพิวเตอร์ที่ให้บริการผู้ใช้บริการทุกเครื่องเซ็ตให้มีการพักหน้าจอทุก ๆ 15 นาที 3) ปิดไฟปิดเครื่องปรับอากาศ (โซนทำงาน) ตอนพักเที่ยง เวลา 12.00 – 13.00 น. 4) ปิดสวิตซ์เครื่องพิมพ์เมื่อไม่มีการใช้งานติดต่อกันเกิน 1 ชั่วโมงและปิดในเวลาพักเที่ยงเวลา 12.00–13.00 น.
2. มีการกำหนดรูปแบบการใช้ไฟฟ้า เช่น วางแนวปฏิบัติกันว่าพนักงานจะไม่นำอุปกรณ์ไฟฟ้ามาใช่้ส่วนตัว ได้แก่ กระติกน้ำร้อน หรืออุปกรณ์อื่น ๆ และให้ใช้อุปกรณ์ส่วนกลางแทน และให้ปฏิบัติกันให้เหมือนกันทั้งสำนักงาน พบว่าพนักงานมีการปฏิบัติตามข้อตกลงของสำนักงานเป็นส่วนใหญ่
3. มีการเปลี่ยนอุปกรณ์ประหยัดไฟฟ้า หลอดไฟฟ้าของศูนย์บรรณสารและสื่อการศึกษา ได้มีการเปลี่ยนจากหลอด ฟลูออเรสเซนต์ เป็นหลอดประหยัดไฟ LED จำนวน 1,950 หลอด เมื่อปี 2559
มีการจัดทำข้อมูลและเก็บข้อมูลการใช้พลังงานไฟฟ้าอย่างต่อเนื่องทุกเดือน จากผลการเก็บข้อมูลการใช้น้ำมันเชื้อเพลิงต่อหน่วยเปรียบเทียบกับเป้าหมาย ตั้งแต่ปี 2560-2562 ปรากฎผลการใช้น้ำมันเชื้อเพลิงดังนี้

การใช้พลังงานไฟฟ้าต่อคน
ปี 2560
การใช้ไฟเฉลี่ย/คน
11.22
ค่าไฟฟ้าเฉลี่ย (บาท/หน่วย)
3.55
ปี 2561
การใช้ไฟเฉลี่ย/คน
18.38
ค่าไฟฟ้าเฉลี่ย (บาท/หน่วย)
3.67
ปี 2562
การใช้ไฟเฉลี่ย/คน
43.95
ค่าไฟฟ้าเฉลี่ย (บาท/หน่วย)
5.63
นอกจากนี้ยังมีการจัดทำข้อมูลและเก็บข้อมูลการใช้น้ำมันเชื้อเพลิงจากการใช้รถจักรยานยนต์พ่วงข้างและรถขนอุปกรณ์โสตทัศนูปกรณ์มาอย่างต่อเนื่องทุกดือน จากผลการเก็บข้อมูลการใช้น้ำมันเชื้อเพลิงต่อหน่วยเปรียบเทียบกับเป้าหมาย ตั้งแต่ปี 2561-2562 ปรากฎผลการใช้น้ำมันเชื้อเพลิงดังนี้



3.2 การใช้พลังงาน | |
---|---|
หมวด/ตัวชี้วัด | หลักฐานการดำเนินการ |
1.ร้อยละของมาตรการการใช้ไฟฟ้าเหมาะสมกับสำนักงานจะต้องประกอบไปด้วยการสร้างความตระหนักในการรใช้ไฟฟ้า การกำหนดเวลาการรใช้ไฟฟ้า การกำหนดรูปแบบการรใช้ไฟฟ้า และการเปลี่ยนอุปกรณ์ประหยัดไฟฟ้า | มาตรการประหยัดพลังงานไฟฟ้า |
2. มีการจัดทำข้อมูลการใช้ไฟฟ้าต่อหน่วยเปรียบเทียบกับเป้าหมาย | ปริมาณการใช้ไฟฟ้าจากปี 60 - 62 ของศูนย์บรรณสารฯ |
3. ร้อยละของการปฏิบัติตามมาตรการประหยัดไฟฟ้าในพื้นที่ทำงาน (ประเมินจากพฤติกรรมของบุคลากรในพื้นที่) | โครงการรณรงค์ประหยัดพลังงานศูนย์บรรณสารฯ ตารางสำรวจไฟฟ้า |
4. การจัดการและรณรงค์เพื่อการประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิงในการเดินทาง เช่น การสื่อสารผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ การวางแผนการเดินทาง การซ่อมบำรุงดูแลยานพาหนะ และการใช้จักรยานหรือขนส่งสาธารณะมาทำงาน | มาตรการประหยัดพลังงานไฟฟ้า โครงการรณรงค์ประหยัดพลังงานศูนย์บรรณสารฯ ตารางสำรวจไฟฟ้า |
5. ข้อมูลการใช้น้ำมันเชื้อเพลิงต่อหน่วย | ปริมาณการใช้ไฟฟ้าจากปี 60 - 62 ของศูนย์บรรณสารฯ |
มีการจัดการและรณรงค์เพื่อการประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิงในการเดินทาง มีการดำเนินการคือ
1) มีการสื่อสารผ่าน facebook ในการประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิงในการเดินทาง
2) วางแผนในการเดินทางภายนอกมหาวิทยาลัยของพนักงาน เมื่อมีความจำเป็นที่ต้องเดินทางไปปฏิบัติงานนอกพื้นที่หรือ อบรม สัมมนาตามที่ได้รับมอบหมาย จะต้องดำเนินการขอรถของมหาวิทยาลัยตามวัน และเวลาที่หน่วยงานเจ้าของกำหนด คืออย่างน้อยต้องขอรถล่วงหน้า 2 วันก่อนเดินทาง
3) การซ่อมบำรุงดูแลยานพาหนะ รถที่ใช้ภายในสำนักงาน ได้แก่ รถสำหรับขนอุปกรณ์โสตทัศนูปกรณ์ และรถจักรยานยนต์พ่วงข้างสำหรับขนเอกสาร มีการตรวจสภาพให้ใช้งานได้ดีเสมอ เช่น ตรวจสอบลมยางและน้ำมันอย่างสม่ำเสมอ รวมถึงเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่อง และไส้กรองอากาศตามระยะเวลาที่กำหนดอย่างน้อยปีละ 1 ครั้งแ มีการซ่อมแซมและบำรุงรักษาตามแผนที่กำหนดไว้ โดยหน่วยงานที่รับผิดชอบ คือ ส่วนพัสดุ/ส่วนอาคารสถานที่
4) มีการส่งเสริมการใช้รถจักรยาน และรถไฟฟ้าในการเดินทางติดต่อประสานงาน ประชุม อบรมระหว่างอาคารภายในมหาวิทยาลัย และเน้นให้เดินทางจากบ้านมาสำนักงานด้วยรถรับ-ส่งของมหาวิทยาลัย รวมถึงพนักงานมีการเดินทางด้วยกันระหว่างบ้านและสำนักงาน และสำนักงานและบ้าน


การใช้พลังงานทดแทน

การใช้โซลาร์เซลล์แทนไฟฟ้า
การติดตั้งแผงวงจรโซลาร์เซลล์ สำหรับไฟฟ้าส่องสว่างบริเวณลานจอดรถและทางเดินด้านนอกอาคาร เพื่อลดการใช้พลังานและลดปริมาณการใช้ไฟฟ้า โดยทางเดิน (ติดตั้ง 5 เสา ลดได้ 132 บาทต่อเดือน เฉลี่ย 26 บาทต่อเสาต่อเดือน (26 บาท : เสา/เดือน132 บาท/เดือน
การติดตั้งระบบไฟฟ้าแสงสว่าง บริเวณลานจอดรถอาคารบรรณสาร (9 หลอด) ลดค่าไฟฟ้าได้เฉลี่ย 240 บาทต่อเดือน
จากการใช้พลังงานทดแทนดังกล่าวสามารถลดค่าไฟฟ้าได้ เดือนละ 132 + 240 = 372 บาท ดำเนินการมาตั้งแต่ วันที่ 1 กันยายน 2557 จนถึงปัจจุบัน สามารถลดการใช้ไฟฟ้าได้เป็นเงิน 21,240 บาท

เกณฑ์ 3.3 การใช้ทรัพยากรอื่น ๆ
พลังงานและทรัพยากรมีความสำคัญอย่างมากในการดำเนินการภายในสำนักงาน ได้แก่ ไฟฟ้า น้ำ เป็นต้น นอกจากนี้ยังมีทรัพยากรอีกหลายประเภท ได้แก่ กระดาษ หมึกพิมพ์ อุปกรณ์เครื่องเขียน และอุปกรณ์สำนักงาน ซ่ึ่งทรัพยากรดังกล่าวมีความสำคัญต่อกิจกรรมในสำนักงาน และที่สำคัญมีการใช้ปริมาณมากในแต่ละวัน ดังนั้นจึงต้องมีการกำหนดแนวทางการใช้ทรัพยากรดังกล่าวอย่างเหมาะสมและมีประสิทธิภาพ
3.3 การใช้ทรัพยากรอื่นๆ
มีการใช้กระดาษในการปฏิบัติงาน การประชุมในสำนักงานอย่างเหมาะสม ประกอบด้วย
1) มีการสร้างความตระหนักในการใช้กระดาษ โดยมีการใช้กระดาษอย่างประหยัด และให้ใช้กระดาษสองหน้าก่อนกระดาษใหม่
2) การจัดพิมพ์เอกสารให้ใช้กระดาษเท่าที่จำเป็น และเป็นอันดับรองจากการจัดพิมพ์แบบอิเล็กทรอนิกส์ การประชุมการประชุมแบบ e-Meeting และหากต้องกระดาษให้ใช้กระดาษหน้าเดียวเป็นลำดับแรก ยกเว้นเป็นเอกสารที่เป็นทางการจึงจะใช้กระดาษใหม่ และในการจัดพิมพ์ให้ใช้เครื่องพิมพ์ของบริษัท RiCoh ที่เก็บสถิติการสั่งพิมพ์ได้จากการเข้าใช้งาน แต่หากต้องใช้เครื่องพิมพ์เฉพาะของส่วนงานใด ให้เขียนรายละเอียด เพื่อให้จัดเก็บสถิติได้ครบถ้วน
3) หากต้องการจัดพิมพ์หรือนำเสนอเอกสาร ให้เลือกใช้รูปแบบอิเล็กทรอนิกส์เป็นอันดับแรก และหากต้องใช้ไฟล์ร่วมกัน (Share) ให้จัดเก็บไว้ในเครื่องแม่ข่าย 192.168.41.40 หรือใช้การจัดการเอกสารด้วยผลิตภัณฑ์ของ Google
4) การนำกระดาษกลับมาใช้ใหม่ เป็นนโยบายของสำนักงานที่จะต้องใช้กระดาษที่ใช้แล้วหน้าเดียวเป็นอันดับแรกในการพิมพ์เอกสาร
มีการจัดทำข้อมูลการใช้กระดาษต่อหน่วยเปรียบเทียบกับเป้าหมายที่กำหนดไว้ คือต้องลดลงร้อยละ 5 ผลปรากฎว่าพนักงานมีการใช้กระดาษต่อคนต่อหน่วย โดยในปี 2561 มีการใช้กระดาษทั้งหมด 24,851 แผ่น (ใช้กระดาษคนละ 469 แผ่น) และในปี 2562 มีการกระดาษทั้งหมด 16,003 แผ่น (ใช้กระดาษคนละ 302 แผ่น) ลดลงร้อยละ 35.60
มีการจัดทำมาตรการการใช้อุปกรณ์สำนักงาน ได้แก่ หมึกพิมพ์ อุปกรณ์เครื่องเขียน วัสดุอุปกรณ์อื่น ๆ ให้เหมาะสมกับสำนักงาน และมีการสร้างความตระหนักในการใช้ ดังนี้
1. ลดการใช้กระดาษโดยใช้ Google drive ในการจัดเก็บเอกสาร ใช้ Line แจ้งข้อมูลข่าวสารและประชาสัมพันธ์ในการจัดกิจกรรม ใช้ระบบ e–office ในการรับ-ส่งเอกสาร/ระบบ e–meeting ในการประชุม
2. เอกสารเก่าที่ไม่ใช้งาน คัดแยกใส่กล่อง นำกระดาษมาใช้งาน ใช้กระดาษขนาดเล็กในการส่งเอกสารทางโทรสาร ซองเอกสารนำกลับมาส่งต่อได้อีก
3. การพิมพ์ (Print) เอกสารสำหรับการตรวจสอบใช้กระดาษหน้าเดียว และลดความละเอียดของหมึก และใช้เครื่องพิมพ์ส่วนกลางร่วมกัน
4. ออกแบบสื่อ/เอกสาร ประหยัดหมึกพิมพ์โดยการลดความละเอียดในไฟล์ข้อมูลให้ถูกต้องก่อนทำการพิมพ์ 5. อุปกรณ์สำนักงานที่ไม่ได้ใช้บ่อย ให้ใช้ร่วมกันและลดการเบิกจากส่วนพัสดุ ในลักษณะของ Stationary ส่วนกลางแต่ละงาน
6. การเบิกใช้อุปกรณ์สำนักงาน เบิกมาแล้วควรเก็บรักษาให้ดีป้องกันการสูญหาย และขอเบิกใหม่ควรมีซากเก่าคืนตอนขอเบิกใหม่ และควรเบิกเฉพาะวัสดุที่จําเป็น
7. กําหนดความถี่ในการเบิกอุปกรณ์สํานักงาน เดือนละ 2 ครั้ง
และมีการเบิกวัสดุสำนักงาน หมึกพิมพ์ อุปกรณ์เครื่องเขียน วัสดุอุปกรณ์อื่น ๆ จำนวนเงินทั้งสิ้น 11,679.84 บาท และเมื่อแยกเป็นฝ่าย/งาน ฝ่ายบริหารทั่วไปเบิกใช้มากที่สุด รองลงมาคือ งานบริการผู้ใช้ ฝ่ายส่งเสริมการศึกษา และงานสิ่งพิมพ์ต่อเนื่อง ฝ่ายพัฒนาทรัพยากรสารสนเทศ และงานที่ใช้กระดาษน้อยที่สุดคือ งานผลิตเอกสาร ฝ่ายสนับสนุนการศึกษา

3.3 การใช้ทรัพยากรอื่น ๆ | |
---|---|
หมวด/ตัวชี้วัด | หลักฐานการดำเนินการ |
1.ร้อยละมาตรการการใช้กระดาษเหมาะสมกับสำนักงานจะต้องประกอบไปด้วย การสร้างความตระหนักในการใช้กระดาษ การกำหนดเวลาการใช้กระดาษ การใช้สื่ออิเล็กทรอนิกส์ และการนำกระดาษกลับมาใช้ใหม่ | มาตรการทรัพยากรอื่น |
2. มีการจัดทำข้อมูลการใช้กระดาษอหน่วยเปรียบเทียบกับเป้าหมาย | เปรียบเทียบสถิติเครื่องถ่ายเอกสาร-CLM-2561 2562 |
สถิติเครื่องถ่ายเอกสาร-CLM-2561 | สถิติเครื่องถ่ายเอกสาร-CLM-2562 |
3. ร้อยละของการปฏิบัติตามมาตรการประหยัดกระดาษในพื้นที่ทำงาน (ประเมินจากพฤติกรรมของบุคลากรในพื้นที่) | |
4. ร้อยละมาตรการใช้หมึกพิมพ์ อุปกรณ์เครื่องเขียน วัสดุอุปกรณ์เหมาะสมกับสำนักงาน จะต้องประกอบไปด้วย การสร้างความตระหนักในการใช้ การกำหนดรูปแบบการใช้ และการใช้สื่ออิเล็กทรอนิกส์ | สถิติวัสดุสำนักงาน คิดแยกฝ่ายงาน |
สถิติวัสดุสำนักงาน | สถิติวัสดุสำนักงาน แยกตามประเภท |
4. ร้อยละของการดำเนินการตามมาตรการใช้หมึกพิมพ์ อุปกรณ์เครื่องเขียน วัสดุอุปกรณ์สำนักงาน (ประเมินจากพฤติกรรมของบุคลากรในพื้นที่) |
เกณฑ์ 3.4 การประชุมและการจัดนิทรรศการ
สํานักงานจะต้องมีการกำหนดมาตรการที่เกี่ยวข้องทางด้านสิ่งแวดล้อมในการจัดประชุมและนิทรรศการทุกครั้ง โดยจะต้องคำนึงถึงการใช้พลังงานและทรัพยากรอย่างมีประสิทธิภาพ การลดปริมาณของเสีย การเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมในการจัดประชุมและนิทรรศการ เป็นต้น นอกจากนี้หากมีการจัดประชุมหรือนิทรรศการนอกสถานที่ จะต้องพิจารณาถึงสถานที่จัดงาน ถึงความสามารถในการดูแลรักษาสิ่งแวดล้อม หรือสถานที่ดังกล่าวได้รับการรับรองมาตรฐานการจัดการสิ่งแวดล้อม เช่น ระบบการจัดการสิ่งแวดล้อม ISO14001 มาตรฐานใบไม้เขียว เป็นต้น
3.4 การประชุมและการจัดนิทรรศการ
การจัดประชุมของสำนักงานทุกการประชุม จะเน้นการลดกระดาษ โดยใช้เทคโนโลยีช่วยในการจัดทำหรือนำเสนอเอกสาร ดังนี้
1) ใช้ระบบการประชุม โดยผ่านระบบ E-meeting (emeeting.wu.ac.th)
2) ใช้ QR Code แทนเนื้อหรือที่จัดเก็บเอกสาร
3) ส่งรายงานการประชุมโดยผ่านอีเมล์ และ facebook, LINE
4) การจัดเก็บและนำเอกสารมาใช้จากเครื่องแม่ข่าย 192.168.41.40 และจาก google drive ของตนเอง
การจัดการประชุมและนิทรรศการมีการใช้วัสดุที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ลดการใช้ทรัพยากรและพลังงาน ลดการใช้กระดาษโดยใช้เอกสารในรูปแบบอิเล็กทรอนิกส์แทนการใช้กระดาษ และขอความร่วมมือให้จัดรูปแบบอาหารว่างและอาหารกลางวันใช้วัสดุที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมและลดปริมาณขยะ
แนวปฏิบัติในการใช้ห้องประชุมที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม


การประชุมผ่านระบบประชุมอิเล็กทรอนิกส์ หรือ WU e-meeting


ช่องทางการเผยแพร่เอกสารที่เกี่ยวข้องกับการประชุม เผยแพร่ผ่าน Social Network และเครืองแม่ข่าย 192.168.41.40

การจัดเก็บเอกสารประชุมในเครื่องแม่ข่าย 192.168.41.40




หมวด/ตัวชี้วัด | หลักฐานการดำเนินการ |
---|---|
3.4 การประชุมและการจัดนิทรรศการ | |
1.ร้อยละมาตรการการใช้สื่ออิเล็กทรอนิกส์ในการส่งข้อมูลเพื่อเตรียมการประชุม ได้แก่ QR code, Email, Social Network, intranet เป็นต้น | |
2. การจัดการประชุมและนิทรรศการที่มีการใช้วัสดุที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ลดการใช้ทรัพยากร-พลังงาน และลดของเสียที่เกิดขึ้น จะต้องดำเนินการดังนี้ | |
1) การจัดเตรียมขนาดห้องประชุม เหมาะสมกับจำนวนผู้เข้าร่วมประชุม หรือจัดนิทรรศการ | |
2) ห้องประชุมหรือพื้นที่จัดนิทรรศการไม่มีการตกแต่งด้วยวัสดุที่ย่อยสลายยาก หรือวัสดุที่ใช้ครั้งเดียวแล้วทิ้ง | |
3) การกำหนดแนวทางเลือกสถานที่ภายนอกสำนักงานที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม | |
4) การจัดเตรียมสื่อที่ใช้ในการประชุม โดยจะต้องลดการใช้กระดาษ หมึกพิมพ์ | |
5) การจัดเตรียมอาหาร และเครื่องดื่มเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม |
การจัดนิทรรศการที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม

เครื่องพิมพ์
ในการจัดพิมพ์นิทรรศการใช้เครื่องพิมพ์และหมึกพิมพ์ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมของ Roland

นิทรรศการสีเขียว
จัดนิทรรศการโดยใช้ผ้าด้ายดิบ และระบายสีด้วยสีน้ำมัน Oil Pastels ยี่ห้อ pentels ซึ่งเป็นสีที่เป็นมิตรกับ สิ่งแวดล้อม และใช้เศษผ้าซึ่งเป็นวัสดุเหลือใช้มาประดับตกแต่งนิทรรศการ


การใช้พลังงานทดแทน

การใช้โซลาร์เซลล์แทนไฟฟ้า
การติดตั้งแผงวงจรโซลาร์เซลล์ สำหรับไฟฟ้าส่องสว่างบริเวณลานจอดรถและทางเดินด้านนอกอาคาร เพื่อลดการใช้พลังานและลดปริมาณการใช้ไฟฟ้า โดยทางเดิน (ติดตั้ง 5 เสา ลดได้ 132 บาทต่อเดือน เฉลี่ย 26 บาทต่อเสาต่อเดือน (26 บาท : เสา/เดือน132 บาท/เดือน
การติดตั้งระบบไฟฟ้าแสงสว่าง บริเวณลานจอดรถอาคารบรรณสาร (9 หลอด) ลดค่าไฟฟ้าได้เฉลี่ย 240 บาทต่อเดือน
จากการใช้พลังงานทดแทนดังกล่าวสามารถลดค่าไฟฟ้าได้ เดือนละ 132 + 240 = 372 บาท ดำเนินการมาตั้งแต่ วันที่ 1 กันยายน 2557 จนถึงปัจจุบัน สามารถลดการใช้ไฟฟ้าได้เป็นเงิน 21,240 บาท
