ชวนอ่าน เพราะความรู้เกิดขึ้นง่ายจากการอ่าน
Content for Longlife Learning

ความเป็นไทยและพลเมืองโลก 3 (Thai Civilization and Global Citizen)

คำอธิบายรายวิชา

วิชานี้ศึกษาแนวคิดและกระบวนการพัฒนาวิถีความเป็นไทยทั้งทางการเมือง เศรษฐกิจ สังคมและวัฒนธรรมจากอดีตถึงปัจจุบันที่ก่อให้เกิดความศิวิไลซ์ของความเป็นไทยที่มีอัตลักษณ์เฉพาะของสังคม รวมทั้งการศึกษาพัฒนาการของสังคมโลกที่มุ่งเน้นคุณค่าของสิทธิมนุษยชนและศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์  โดยเฉพาะการเคารพความแตกต่าง ความหลากหลายทางสังคม การยึดหลักธรรมาภิบาลและการอยู่ร่วมกันอย่างสันติ โดยอธิบายให้เห็นถึงการเชื่อมโยงของวิถีสังคมไทยกับความเป็นพลเมืองโลก

หนังสือประกอบรายวิชา ความเป็นไทยและพลเมืองโลก 3 ซึ่งเป็นหนังสือเพิ่มเติมจากชุดที่ 2  ชุดที่ 3  เน้นวรรณกรรม เรื่องสั้น ด้านภาษา และประวัติศาสตร์ หากต้องการอ่านตัวเล่ม ดูรายละเอียดการจัดเก็บ สถานะการยืม และมายืมตัวเล่มได้เลย

ลองสำรวจรายการหนังสือสำหรับ ความเป็นไทยและพลเมืองโลก 3 ได้จากสารบัญว่าสนใจอยากอ่านเล่มไหนบ้าง สำหรับหนังสือประกอบการเรียนรายวิชา ความเป็นไทยและพลเมืองโลก 3 หรือ หนังสือชุดที่ 3 สำหรับรายวิชานี้ และหากสนใจเล่มไหน กดดูรายละเอียดได้จาก เลขเรียกหนังสือ หรือ CallNumber เพื่อนำไปสู่หน้ารายละเอียดของหนังสือ

รายชื่อหนังสือ ความเป็นไทยและพลเมืองโลก 3

รายการหนังสือชุด ความเป็นไทยและพลเมืองโลก 3

ต้นส้มแสนรัก

      เซเซ่ ตัวละครหลักในเรื่องนี้ เป็นเด็กผู้ชายอายุห้าขวบ เซเซ่เป็นเด็กฉลาด และมีความเป็นตัวของตัวเอง จนถูกผู้ใหญ่มองว่าเป็นเด็กดื้อ เป็นเด็กแสบ เรื่องราวของเซเซ่สะท้อนให้เห็นความเป็นจริงของชีวิต โลกความจริงที่มีทั้งความสุขและความทุกข์ เพราะเราอยู่ในโลกแห่งความเป็นจริงไม่ใช่เทพนิยาย เราต้องยอมรับและเรียนรู้ในทุกสิ่งที่เกิดขึ้น ถึงแม้จะเจ็บปวดแต่ทุกอย่างคือบทเรียนให้เราเรียนรู้และเติบโต

      เรื่องราวของเซเซ่สะท้อนให้เห็นโลกอีกด้าน ที่ไม่ได้สวยงาม ปัญหาครอบครัว ปัญหาเศรษฐกิจ การใช้ความรุนแรงในครอบครัว ผลกระทบจากความล้มเหลวในชีวิตของผู้ใหญ่จนส่งผลต่อเด็ก เด็กทุกคนล้วนคาดหวังความสุข ความรัก ความเข้าใจ และความอบอุ่นในครอบครัว แต่เพราะชีวิตจริงไม่อาจเป็นเช่นนั้น ในชีวิตของเราล้วนต้องพบเจอทั้งความสุข และความทุกข์ การได้อ่านเรื่องราวของเซเซ่ เป็นเหมือนภาพสะท้อนที่ทำให้ผู้อ่านได้เรียนรู้สภาพความเป็นจริงของชีวิต เตรียมพร้อมรับมือ หากวันหนึ่งเรื่องราวเหล่านี้เกิดขึ้นกับตัวเรา เราจะต้องรับมือและจัดการอย่างไร ทุกๆ ความเจ็บปวดล้วนทิ้งบทเรียนที่มีคุณค่าไว้ให้  เซเซ่เป็นแค่เด็กคนหนึ่งที่คาดหวังความรัก ความอบอุ่น ความเอาใจใส่จากพ่อแม่และครอบครัว แต่ในสภาพครอบครัวที่พ่อตกงาน แม่ต้องรับผิดชอบครอบครัว รับภาระทุกอย่าง บางครั้งเซเซ่ก็ต้องผิดหวัง ไม่ได้รับในสิ่งที่อยากได้ ธรรมดาของเด็กที่จะโกรธ ไม่พอใจ และแสดงพฤติกรรมที่ไม่น่ารักออกมา เป็นธรรมดาของเด็กที่ไม่เข้าใจปัญหาของผู้ใหญ่ และเรียกร้องจนทำให้ผู้ใหญ่ลำบากใจ จนกลายเป็นเรื่องราวบานปลาย เพราะผู้ใหญ่ก็คาดหวังให้เด็กเข้าใจในปัญหาที่ผู้ใหญ่กำลังเผชิญ แต่ในความเป็นเด็ก ความรู้ ความคิด ความเข้าใจย่อมไม่ลึกซึ้งแบบที่ผู้ใหญ่คาดหวัง สุดท้ายจึงจบด้วยการใช้ความรุนแรง การทำโทษ  เด็กทุกคนคาดหวังความรักความเข้าใจ ต้องการเป็นที่รักของพ่อแม่แบบไม่มีเงื่อนไข การกระทำของเด็กสะท้อนความคิด ความต้องการของเด็ก ถ้าพ่อแม่พยายามที่จะเข้าใจ ปัญหาต่างๆ ก็จะไม่บานปลายใหญ่โต แต่ในเมื่อพ่อแม่เองก็มีปัญหาและกำลังหลงวนกับการพยายามแก้ไขปัญหาของตน เหนื่อยและทุกข์มากพอแล้ว การที่จะแบ่งความคิดมาเข้าใจเด็กจึงกลายเป็นเรื่องที่ดูเหมือนจะยากจนแทบเป็นไปไม่ได้ พ่อแม่ก็มีปัญหาของพ่อแม่ เด็กก็มีปัญหาของเด็ก ต่างคนต่างมีปัญหา สุดท้ายระยะห่างระหว่างกันจึงแยกห่างออกไปเรื่อยๆ จนยากที่จะลดช่องว่างลงได้ 

เมื่อภาพฝันที่สวยงามสลายหายไป เหลือแต่ภาพความเป็นจริงที่ต้องยอมรับ ความทุกข์ ความเจ็บปวด คือสิ่งที่อยู่ตรงหน้า ชีวิตยังต้องเดินต่อไป หนทางเดียวที่จะก้าวผ่านคือต้องเข้มแข็ง อดทน เรียนรู้และก้าวเดินต่อไป ยอมรับความเป็นจริงของชีวิต จะทุกข์หรือสุข นั่นก็คือชีวิตของเราเองที่เราไม่มีทางหลีกหนีได้

คลิกเครื่องหมาย + เพื่อดูข้อมูลเพิ่มเติม คลิกเครื่องหมาย - เพื่อซ่อนข้อมูล

CallnumberFic. ว6ต 2543
Authorวาสคอนเซลอส, โจเซ่
Titleต้นส้มแสนรัก : ภาค 2 / โจเซ่ วาสคอนเซลอส เขียน ; สมบัติ เครือทอง แปล
Editionพิมพ์ครั้งที่ 3
Publishedกรุงเทพฯ : ประพันธ์สาส์น, 2543
Detail354 หน้า ; 18 ซม
Added Authorสมบัติ เครือทอง

เจ้าชายน้อย

    เจ้าชายน้อย เป็นวรรณกรรมเยาวชนที่ติดอันดับขายดีระดับโลกและได้รับการแปลกว่า 300 ภาษาทั่วโลก เจ้าชายน้อยผลงานของอองตวน เดอ แซ็งแต็ก-ซูเปรี นักประพันธ์ชาวฝรั่งเศส บอกเล่าเรื่องราวระหว่างการพบกันของผู้เขียนกับเด็กชายผู้มาจากดาวดวงอื่น (B612) เจ้าชายน้อยตัดสินใจหนีมาจากดาวของเขาเอง ก็เพราะเขาทนความโอ้อวดตัวเองของดอกกุหลาบที่เขารักมากไม่ไหว เขาพยายามเดินทางเสาะหาเพื่อน เสาะหาชีวิตใหม่บนดาวของเขาแล้วแต่ไม่สำเร็จ จึงได้ตัดสินใจเดินทางมายังโลกมนุษย์ และได้มาพบกับผู้เขียนกลางทะเลทรายที่มาติดอยู่ด้วยกัน ทั้งสองต่างเรียนรู้กัน ถ่ายทอดเรื่องราวของกันและกัน จนพัฒนากลายเป็นเพื่อนกันในที่สุด

     เรื่องราวของเจ้าชายน้อยนั้นล้วนเต็มไปด้วยแง่มุมชวนให้ขบคิดเกี่ยวกับมุมมองในด้านต่างๆ ของมนุษย์ได้อย่างดียิ่ง และบางเรื่องก็อาจเป็นสิ่งที่เราได้หลงลืมมันไปเมื่อโตเป็นผู้ใหญ่  ในเรื่องหลักๆ จะพูดถึงความสัมพันธ์ การรักษาความสัมพันธ์ การเติบโตในเชิงปรัชญา 

“…และเธอต้องรับผิดชอบต่อทุกสิ่งที่เธอมีความสัมพันธ์ด้วย…” เป็นประโยคที่ประทับใจจากเรื่องเจ้าชายน้อย ชวนให้ขบคิดเกี่ยวกับแง่มุมต่าง ๆ ของมนุษย์กับทุกสิ่งที่มีความสัมพันธ์ด้วย

คลิกเครื่องหมาย + เพื่อดูข้อมูลเพิ่มเติม คลิกเครื่องหมาย - เพื่อซ่อนข้อมูล

CallnumberFic. ซ8จ 2542
Authorแซงเตกซูเปรี, อังตวน เดอ
Titleเจ้าชายน้อย / อังตวน เดอ แซงเตกซูเปรี ; พงาพันธุ์, ผู้แปล
Editionพิมพ์ครั้งที่ 3
Publishedกรุงเทพฯ : ศรีสารา, 2542
Detail194 หน้า : ภาพประกอบ ; 19 ซม
Added Authorพงาพันธุ์

ฝันดีนะ ปุนปุน

  • การเติบโตจากเด็กน้อยสู่การเป็นผู้ใหญ่ เป็นการเปลี่ยนผ่านที่ต้องผ่านทั้งความสุข ความทุกข์ มุมมองทางความคิด การใช้ชีวิตและความคิดต่างๆ 
  • ฝันดีนะ ปุนปุน เป็นการนำเสนอเรื่องราวของปุนปุน เด็กคนหนึ่งที่มีวิถีชีวิตที่ธรรมดา แต่เมื่อวันเวลาผ่านไป ทุกสิ่งทุกอย่างที่ผ่านเข้ามา ทำให้มุมมองของปุนปุนต่อชีวิตเปลี่ยนไป เริ่มเห็นความเป็นจริงของชีวิตมากขึ้น ต้องยอมรับในเรื่องราวที่พบเจอ ถึงแม้จะสับสน เจ็บปวด และไม่เข้าใจ แต่ก็ต้องเรียนรู้เพื่อก้าวผ่าน
  • หนังสือเรื่องนี้นำเสนอในรูปแบบมังงะ แต่ไม่เหมาะสำหรับเด็ก เหมาะสำหรับผู้มีอายุ 18 ปีขึ้นไป เพราะเนื้อหามีทั้งเรื่องการใช้ความรุนแรง คำพูดที่ไม่เหมาะสมสำหรับเด็ก การบูลลี่ หรือการคุกคามทางเพศ ต้องใช้วิจารณญานในการอ่าน
  • ถึงแม้จะเป็นเรื่องราวที่หนัก แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าชีวิตจริงก็ไม่ต่างจากนี้ บางครั้ง บางเรื่องราวก็ไม่ได้สวยงาม และไม่ได้น่ารับรู้ แต่เราก็หลีกเลี่ยงไม่ได้ ทุกสิ่งทุกอย่างที่เกิดขึ้นรอบตัวเรา ข่าวสารที่ได้รับรู้ ก็มีเรื่องเหล่านี้อยู่ ตัวละครปุนปุน ถูกวาดในรูปแบบมนุษย์นกเพื่อสะท้อนให้เห็นความแตกต่าง เพราะแท้จริงแล้ว เราทุกคนต่างแตกต่างกัน แต่เราสามารถที่จะอยู่ร่วมกันได้ เราไม่ได้รู้สึกเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันกับสังคม และทุกคนรอบๆ ตัวเรา ความแตกต่างที่สร้างความขัดแย้งในตัวเรา จนบางคราวทำให้เกิดความสับสนและแปลกแยก 
  • กว่าจะโตเป็นผู้ใหญ่ กว่าจะก้าวผ่านเรื่องราวต่างๆ บางครั้งร้องไห้ บางครั้งหัวเราะ บางครั้งเหนื่อยจนไม่อยากไปต่อ มันเป็นเรื่องธรรมดาที่ทุกๆคนต้องพบเจอ ไม่ว่าจะอย่างไร นี่ก็คือชีวิต เราไม่สามารถร้องไห้และหยุดนิ่งอยู่ที่เดิมได้ เพราะการทำแบบนั้นไม่ได้ทำให้อะไรดีขึ้น ชีวิตคือการก้าวต่อไป ไม่ว่าจะมีเรื่องราวอะไรผ่านเข้ามา ก็ต้องเรียนรู้ ยอมรับ และไปต่อ
  • ทุกสิ่งทุกอย่างที่ปุนปุนได้เจอ สะท้อนให้เห็นถึงความเชื่อมโยงกับเรา เราเองก็เคยเจอเรื่องราวไม่ต่างอะไรกับปุนปุน โลกไม่ได้สวยงามอย่างที่เคยคิด โลกมีทั้งด้านมืด และด้านสว่าง มีทั้งด้านสวยงาม และด้านที่ไม่น่าดู 
  • เรายังต้องมีชีวิตอยู่ เรายังต้องใช้ชีวิต เรายังต้องเติบโตและก้าวต่อไป ทุกเรื่องราวที่พบเจอ ล้วนขัดเกลา พัฒนาให้เราเข้มแข็ง เข้าใจชีวิต เข้าใจโลก และปรับสมดุลให้ได้ ยอมรับในทุกเรื่องราว เราเปลี่ยนแปลงโลกภายนอกไม่ได้ แต่เราเปลี่ยนแปลงโลกภายในใจของเราได้ เปลี่ยนมุมมองความคิด ทุกอย่างก็จะเปลี่ยนตาม ทุกข์ก็อยู่ไม่นาน สุขก็อยู่ไม่นาน ทุกสิ่งไม่มีอะไรยั่งยืน 
  • เพราะชีวิตเป็นของเรา เราเลือกเองได้ จะทุกข์หรือสุขก็อยู่ที่เราจะเลือก 

คลิกเครื่องหมาย + เพื่อดูข้อมูลเพิ่มเติม คลิกเครื่องหมาย - เพื่อซ่อนข้อมูล

CallnumberFic. อ626ฝ 2565
AuthorAsano, Inio
Titleฝันดีนะ ปุนปุน เล่ม 1 / ผู้แต่ง Inio Asano ; ผู้แปล โฆษิต ศรีกฤษณรัตน์
Editionพิมพ์ครั้งที่ 1
Publishedกรุงเทพฯ : กู๊ดเฮด พริ้นท์ติ้ง แอนด์ แพคเกจจิ้ง, 2565
Detail214, (10) : ภาพประกอบ ; 19 ซม
Added Authorโฆษิต ศรีกฤษณรัตน์

ปรัชญาแมว ปัญญาเหมียว แมวและความหมายของชีวิต

  • แมวเป็นสัตว์ที่น่าสนใจ มีทั้งความน่ารักและความถือดีในตัวเอง นิสัยของแมวสร้างความประหลาดใจให้เราได้เสมอ แต่เพราะขนฟูๆ ของมัน ทำให้เราเกิดความเอ็นดู และยอมปรนเปรอมันด้วยทุกอย่าง เพื่อให้มันพอใจ ทั้งอาหารอร่อยๆ สำหรับแมว ของเล่นน่ารัก 
  • เพราะความน่ารักของแมว ทำให้คนบางกลุ่ม ยอมเป็นทาสแมว ปรนเปรอทุกอย่างให้แมว แค่มันเข้ามาคลอเคลีย ก็สร้างความสุขให้ได้อย่างล้นเหลือ
  • เพราะแมวเป็นสัตว์ที่น่าสนใจ ดังนั้นจึงมีนักประวัติศาสตร์สนใจ และรวบรวมประวัติความเป็นมาของแมว ทำให้เราทราบว่า แมวเป็นสัตว์ที่มีมานานแล้ว แมวผ่านประสบการณ์ต่างๆ มาไม่ต่างจากคน ทั้งความโหดร้ายที่คนกระทำต่อแมว การกระทำที่ทำร้ายแมว แต่แมวก็สามารถผ่านพ้นเรื่องราวต่างๆมาได้ และยังคงรักษาลักษณะเฉพาะเอาไว้ได้ ยังคงมีความถือดีในตัวเอง ไม่ยอมทำตามคำสั่งของเรา และเมื่อเราไม่อยู่ แมวก็สามารถกลับไปมีชีวิตของตัวเองได้
  • ในแง่ของความสุข แมวก็ดูเหมือนเป็นสัตว์ที่สามารถมีความสุข และอยู่ได้ด้วยตัวเอง รักสันโดษ โดยไม่ต้องพึ่งพิงเราแต่สามารถอยู่ร่วมกับเราได้ ในขณะที่เราเอง กลับต้องพึ่งพิงสิ่งภายนอกจึงจะมีความสุขได้ บางคนถึงกับใช้แมวบำบัดความเหงา ความซึมเศร้าของตัวเอง 
  • ในแง่ของการมีตัวตน แมวไม่สนใจเรื่องชื่อ ไม่สนใจเรื่องภาพลักษณ์ของตัวเอง เพราะสิ่งนี้จึงทำให้ดูเหมือนว่าแมวปราศจากความทุกข์ ในขณะที่มนุษย์เราสนใจเรื่องภาพลักษณ์ สนใจสิ่งภายนอกที่สะท้อนตัวตน ยึดติดกับสิ่งเหล่านี้จนสร้างความทุกข์ให้แก่ตนเอง มีหลายสิ่งหลายอย่างที่เราควรสังเกตุ และเรียนรู้จากแมว ถ้าหากเราคิด วิเคราะห์ดีๆ คำตอบของการมีความสุขในชีวิตของเราอาจจะหาได้จากแมวน้อยที่อยู่ข้างๆ เราก็ได้
  • เพราะลักษณะพิเศษของแมวดึงดูดความสนใจให้นักปรัชญา นักประวัติศาสตร์ นักคิด ต่างหันมาสนใจ และศึกษาสิ่งที่แมวเป็น ความแตกต่างของแมวกับคนจนได้เคล็ดลับการมีชีวิตที่ดีตามวิถีแมวเหมียว คือ อย่าพยายามโน้มน้าวให้มนุษย์ใช้เหตุผล การบ่นเรื่องการไม่มีเวลาที่เพียงพอเป็นเรื่องที่ไม่ฉลาด ไม่ควรทำ การอย่าพยายามมองหาความหมายในความทุกข์ของตัวเอง การรู้สึกเฉยๆ บ้างก็เป็นเรื่องที่ดี การเลิกตามหาความสุขก็อาจทำให้พบความสุข การตระหนักว่าชีวิตไม่ใช่เรื่องเล่า ความกล้าเผชิญหน้ากับความมืด การนอนเพราะมีความสุขที่จะนอน การระวังผู้ที่บอกว่าจะคืนความสุขให้ หากใช้ชีวิตแบบแมวแล้วทุกข์ก็ลองใช้ชีวิตแบบมนุษย์บ้างสลับกันไป
    ชีวิตเป็นสิ่งที่ไม่แน่นอน คาดเดาไม่ได้ รูปแบบชีวิต การใช้ชีวิตก็มีความหลากหลาย ท้ายที่สุดแล้วก็ขึ้นอยู่กับเราที่ต้องค้นหาเอาเองว่าแบบไหนจึงจะมีความสุขมากที่สุด

คลิกเครื่องหมาย + เพื่อดูข้อมูลเพิ่มเติม คลิกเครื่องหมาย - เพื่อซ่อนข้อมูล

CallnumberB105.A55 ก74ป 2565
Authorเกรย์, จอห์น
Titleปรัชญาแมว ปัญญาเหมียว : แมวและความหมายของชีวิต = Feline philosophy : cats and the meaning of life / โดย John Gray ; ภาคิน นิมมานนรวงศ์ และ มนภัทร จงดีไพศาล แปล
Publishedกรุงเทพฯ : บุ๊คสเคป, 2565
Detail183 หน้า ; 19 ซม
Subject
Subject
Subject
Subject
Added Authorภาคิน นิมมานนรวงศ์
Added Authorมนภัทร จงดีไพศา

ความโดดเดี่ยวของจำนวนเฉพาะ

วนิยายอิตาเลียน ที่กล่าวถึงตัวละคร 2 คน ได้แก่ อลิเช และมัตเตีย อลิเชไม่ชอบเรียนสกี แต่โดนพ่อบังคับให้เรียนตั้งแต่อายุ 4 ขวบ กระทั่งวันหนึ่ง ที่อุณหภูมิลบสิบองศาและหมอกลงจัด อลิเชประสบอุบัติเหตุ ทำให้ขาเธอข้างหนึ่งพิการไปตลอดชีวิต ส่วนมัตเตียเป็นเด็กเรียนเก่ง แต่มีคู่แฝดที่บกพร่องทางสติปัญญา เขาอายเพื่อน แม้จะรักน้องสาวและคอยปกป้องเธออยู่เสมอก็ตาม เมื่อทั้งคู่ได้รับเชิญไปงานวันเกิดเพื่อน มัตเตียจึงตัดสินใจทิ้งน้องไว้ในสวนสาธารณะคนเดียว โดยคิดจะไปรับกลับบ้านเมื่องานเลี้ยงเลิก แต่กลับกลายเป็นว่าเขาไม่ได้พบเธออีกเลยตลอดชีวิต อลิเช กับ มัตเตีย สองชีวิตที่อยู่กับบาดแผลแห่งวัยเยาว์ตลอดช่วงวัยรุ่นกระทั่งถึงวัยผู้ใหญ่ เป็นบาดแผลที่ทำให้เธอรู้สึกเหมือนถูกโลกปฏิเสธ และทำให้เขาปฏิเสธโลก แม้เส้นทางชีวิตของทั้งคู่จะบังเอิญโคจรมาพบกัน แต่มัตเตียคิดว่า เขากับอลิเชเป็นดั่งจำนวนเฉพาะคู่แฝด ซึ่งโดดเดี่ยวและเคว้งคว้างถึงจะอยู่ใกล้กัน แต่ก็ไม่มากพอที่จะสัมผัสกันได้อย่างแท้จริงด้วย

คลิกเครื่องหมาย + เพื่อดูข้อมูลเพิ่มเติม คลิกเครื่องหมาย - เพื่อซ่อนข้อมูล

CallnumberFic. จ543ค 2565
Authorจอร์ดาโน, เปาโล
Titleความโดดเดี่ยวของจำนวนเฉพาะ = La solitudine dei numeri primi / เปาโล จอร์ดาโน ; ธิดารัตน์ เจริญชัยชนะ แปล
Editionพิมพ์ครั้งที่ 2
Publishedกรุงเทพฯ : อ่านอิตาลี, 2565
Detail284 หน้า ; 21 ซม
Subject
Added Authorธิดารัตน์ เจริญชัยชนะ
Added AuthorGiordano, Paolo

เมืองนิมิตร ความฝันของนักอุดมคติและชีวิตแห่งการกบฎสองครั้ง

  • เมืองนิมิตร ความฝันของนักอุดมคติและชีวิตแห่งการกบฎสองครั้ง เป็นนวนิยายที่ได้รับยกย่องให้เป็นหนังสือดี 100 เล่มที่คนไทยควร เนื้อหาเกี่ยวกับการเมืองของไทยที่นำเสนอสังคมอุดมคติ โดยมุ่งวิเคราะห์ในด้านการนำเสนอแก่นเรื่อง ตัวละคร และมิติทางสังคม นวนิยายเรื่องนี้มิได้มีแก่นเรื่องหลักอยู่ที่การนำเสนอภาพสังคมอุดมคติดังที่เคยกล่าวกันมา แต่มีแก่นเรื่องหลักอยู่ที่การนำเสนอความสำคัญของ “อุตตมทัศน์” ซึ่งกำกับการดำเนินชีวิตของบุคคล ตัวละครเอกของเรื่องเป็นผู้ที่แม้จะต้องเผชิญกับความผิดหวังที่ชีวิตจริงแตกต่างจากอุดมคติ แต่ก็ยังยืนหยัดต่อสู้เพื่อคงความคิดเชิงอุดมคติของตัวเองไว้อย่างเข้มแข็ง นวนิยายเรื่องนี้ ผู้ประพันธ์ได้ประมวลความรู้และความคิดเห็นเกี่ยวกับการเมืองการปกครองที่ควรจะเป็นไปในสังคมที่ไม่จำกัดเฉพาะสังคมไทยเท่านั้น แต่ยังขยายวงกว้างไปถึงสังคมโลกอีกด้วย

คลิกเครื่องหมาย + เพื่อดูข้อมูลเพิ่มเติม คลิกเครื่องหมาย - เพื่อซ่อนข้อมูล

CallnumberFic. น63ม 2564
Authorนิมิตรมงคล นวรัตน, ม.ร.ว., 2451-2491
Titleเมืองนิมิตรและชีวิตแห่งการกบฏสองครั้ง / ม.ร.ว. นิมิตรมงคล นวรัตน
Editionพิมพ์ครั้งที่ 1
Publishedนนทบุรี : ศรีปัญญา, 2564
Detail412 หน้า ; 23 ซม
Abstract“เมืองนิมิตร” หรือนามเดิม “ความฝันของนักอุดมคติ” เป็นงานเขียนในรูปแบบนิยายเรื่องแรกของ “ม.ร.ว.นิมิตรมงคล นวรัตน” นักเขียนหนุ่มผู้ล่วงลับไปก่อนกาลเวลาอันควร กระนั้น แม้ท่านผู้เขียนจะจากโลกนี้ไปด้วยวัยที่ยังใช้ชีวิตอยู่บนโลกไม่นานนัก แต่ผลงานของท่านก็เป็นที่ประจักษ์ในคุณค่าและคุณประโยชน์ต่อความรู้และความคิดของนักอ่าน โดยเฉพาะในสังคมปัญญาชนของไทยมาอย่างยาวนาน และเชื่อว่าจะยาวต่อเนื่องไปตลอดกาลสมัยที่มนุษยชาติยังคงรู้จักการอ่านการเขียนอยู่ หากวันนี้ท่านผู้เขียนยังมีชีวิตอยู่ได้รับรู้และได้เห็นว่าหนังสือเล่มนี้ ได้กลายมาเป็น “หมุดหมาย” หนึ่งของการเรียนรู้การอ่านทั้งในเชิงของวรรณกรรม และในแง่มุมของเอกสารทางความรู้ ความคิดของสังคมไทย ที่มันได้ทำหน้าที่ถ่ายสะท้อนมุมมองและความคิดของ “นักอุดมคติ” เฉกเช่นท่านได้อย่างซื่อสัตย์ และทรงพลังต่อการคิดการเขียนของนักอ่านและองค์ความรู้ในบ้านเรายิ่งนักแล้ว ก็เชื่อว่า ท่านผู้เขียนก็คงพอใจกับสิ่งที่ท่านได้สร้างสรรค์ขึ้นมาด้วยความรู้ความคิดของท่านแล้ว
Subject
Subject
ISBN9786164371286

ปีศาจ

  • “ปีศาจ” ฉบับนี้จัดพิมพ์เป็นหนังสือปกแข็ง ที่ยังคงข้อเขียน บทวิเคราะห์วิจารณ์ พร้อมภาพประกอบจากฉบับก่อนหน้าไว้ครบถ้วน เพื่อความสมบูรณ์ของเนื้อหา และเป็นของกำนัลแด่นักอ่านผู้ร่วมปลุก “ปีศาจ” แห่งกาลเวลาขึ้นมาท้าทายยุคสมัยอีกครั้ง “ปีศาจ” ถือเป็นอมตะนิยายเล่มสำคัญจากปลายปากกา “เสนีย์ เสาวพงศ์” ที่ยังคงความ “ร่วมสมัย” พูดถึงพลังของหนุ่มสาวในการเปลี่ยนแปลงสังคม ในยุคที่ขบวนการของคนหนุ่มสาวยังไม่ปรากฏ และความตื่นตัวของจิตสำนึกยังซบเซา ผู้เขียน เขียนขึ้นมาจากความหวัง ความเชื่อมั่นในคุณค่าของความเป็นมนุษย์ และการฝันไปข้างหน้าว่าสักวัน “โลกใบใหม่” จะก่อตัวขึ้นที่เส้นขอบฟ้า…ไม่ว่าจะต้องอาศัยเวลายาวนานเท่าใดก็ตาม

คลิกเครื่องหมาย + เพื่อดูข้อมูลเพิ่มเติม คลิกเครื่องหมาย - เพื่อซ่อนข้อมูล

CallnumberFic. ส7ป 2564
Authorเสนีย์ เสาวพงศ์
Titleปีศาจ / เสนีย์ เสาวพงศ์
Editionพิมพ์ครั้งที่ 8
Publishedกรุงเทพฯ : มติชน, 2564
Detail366 หน้า ; 19 ซม

Concentration บอกลาสมาธิสั้น

  • คอนเน็กชั่น คือ การสร้างความสัมพันธ์เพื่อเชื่อมโยงตัวเรากับคนอื่นๆ ในสังคม เพราะมนุษย์เป็นสัตว์สังคม เราไม่สามารถอยู่อย่างโดดเดี่ยวได้ การอยู่ร่วมกันจะช่วยให้เราอยู่รอด ช่วยให้เรารู้สึกมั่นคง และปลอดภัย 
  • เทคโนโลยีที่เข้ามามีบทบาทในการดำเนินชีวิต ส่งผลให้เกิดช่องว่างในสังคม เป็นลักษณะการดำรงอยู่แบบโดดเดี่ยวมากขึ้น เกิดลักษณะของคนที่เรียกกันว่ามนุษย์อินโทรเวิร์ต 
  • มนุษย์อินโทรเวิร์ตในปัจจุบันเริ่มเป็นที่รู้จักมากขึ้น เรามักจะเรียกคนที่ไม่ชอบเข้าสังคมว่าเป็น มนุษย์อินโทรเวิร์ต แต่ในความเป็นจริง เราทุกคนล้วนมีความอินโทรเวิร์ตอยู่ในตนเอง 
  • มนุษย์อินโทรเวิร์ตก็สามารถสร้างคอนเน็กชั่น และทำกิจกรรมร่วมกับคนอื่นได้ ซึ่งในหนังสือเล่มนี้ได้ให้คำแนะนำที่มีประโยชน์ มีขั้นตอนให้ปฏิบัติตามได้จริง เริ่มตั้งแต่การทำความเข้าใจตัวเอง และเรียนรู้ที่จะปรับตัวให้เข้ากับคนอื่นและสังคมรอบข้าง ช่วยแก้ความเข้าใจผิดในเรื่องการมีปฏิสัมพันธ์กับคนที่อยู่รอบๆ ตัว ช่วยชี้ให้เห็นว่า เราควรปฏิบัติย่างไรจึงจะสามารถแก้ปัญหาได้ คนที่เก็บตัว ไม่ช่างพูดก็สามารถสร้างความสัมพันธ์ที่ดีได้ ซึ่งการเชื่อมโยงกับผู้อื่นั้นไม่ได้ขึ้นอยู่กับจำนวนที่เราปฏิสัมพันธ์ด้วย แต่ให้สนใจในเรื่องคุณภาพแทนที่เรื่องจำนวน การสร้างคอนเน็กชั่นต้องอาศัยเวลาและพลังงานในการลงมือทำ เนื่องจากมนุษย์อินโทรเวิร์ตจะมีความกังวลในเรื่องการเข้าหาคนอื่น จะมีความระมัดระวังตัวค่อนข้างสูง แต่สิ่งเหล่านี้กลับกลายเป็นข้อดี เพราะทำให้ไวต่อปฏิกิริยาของคนที่ติดต่อด้วย และจะไม่สร้างความลำบากใจให้แก่ผู้อื่น 
  • การมีเพื่อนน้อย หรือมาก ไม่ได้เป็นตัวชี้วัดความสุขในชีวิต ยิ่งเป็นสิ่งตอกย้ำว่าคุณภาพของความสัมพันธ์ และให้ความสนใจกับเรื่องคุณภาพมากกว่าปริมาณ แต่ละคนก็มีนิสัยที่แตกต่างกัน การยอมรับในความแตกต่าง ยอมรับในสิ่งที่ตัวเองเป็น มีความเป็นตัวของตัวเองโดยยังอยู่บนพื้นฐานการเคารพสิทธิ์ของผู้อื่น สิ่งเหล่านี้เป็นสิ่งที่จำเป็นในการมีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน จะเห็นได้ว่ามนุษย์อินโทรเวิร์ตก็สามารถสร้างคอนเน็กชั่นและความสัมพันธ์ที่ดีได้และยังสอดคล้องกับนิสัยของตัวเอง ไม่สร้างความอึดอัดใจให้ตัวเองได้ 
  • การสร้างความสัมพันธ์อันดีต่อกันนอกจากทำให้ตัวเองมีความสุข ก็ยังทำให้คนรอบข้างมีความสุขได้ เพราะความสัมพันธ์อันดีอยู่บนพื้นฐานของความเข้าอกเข้าใจ การยอมรับในตัวตนของกันและกัน ถึงแม้จะมีเพื่อนน้อยแต่ก็เป็นเพื่อนที่มีคุณภาพ และทำให้เรารู้สึกสบายใจ รู้สึกมั่นคง รู้สึกปลอดภัย อยู่บนพื้นฐานการเคารพซึ่งกันและกัน แม้จะเป็นมนุษย์อินโทรเวิร์ตก็สามารถที่จะสัมผัสความรู้สึกนี้ได้

คลิกเครื่องหมาย + เพื่อดูข้อมูลเพิ่มเติม คลิกเครื่องหมาย - เพื่อซ่อนข้อมูล

CallnumberHF5718 ด92ส 2564
Authorไดโกะ
Titleสร้างคอนเน็กชั่นแกร่งด้วยจุดแข็งของมนุษย์อินโทรเวิร์ต / Mentalist DaiGo เขียน ; หนึ่งฤทัย ปราดเปรียว แปล
Editionพิมพ์ครั้งที่ 1
Editionพิมพ์ครั้งที่ 3
Publishedกรุงเทพฯ : อมรินทร์ฮาวทู, 2564-2565
Detail203 หน้า : ภาพประกอบ ; 21 ซม
Table of contentบทที่ 1 : 5 ความเข้าใจผิดที่เป็นอุปสรรคต่อการสร้างคอนเน็กชั่น — บทที่ 2 : “คอนเน็กชั่น” ที่ทำให้คุณมีความสุขคืออะไร — บทที่ 3 : เทคนิคสร้างความเชื่อมโยงกับ “ซูเปอร์คอนเน็กเตอร์” — บทที่ 4 : วิธีสร้าง “เพื่อนสามคน” ที่ทำให้มีความสุข — บทที่ 5 : มองให้ออกว่าอะไรเป็นกับดักให้สัมพันธภาพระหว่างบุคคลกลายเป็นความเครียด — บทที่ 6 : ทำอย่างไรให้มีเสน่ห์ดึงดูดใจผู้คน
Subject
Subject
Subject
Subject
Subject
Added Authorหนึ่งฤทัย ปราดเปรียว
Added AuthorMentalist, DaiGo

ที่จริงแล้ว ฉันเป็นคนเก็บตัวนะ

  • หนังสือ “ที่จริงแล้ว ฉันเป็นคนเก็บตัวนะ (Actually, I’m an Introvert) เป็นหนังสือที่มีชื่อเสียงในประเทศเกาหลีใต้ที่โดนใจคนอ่านจนติดอันดับขายดี ผู้เขียน “นัมอินซุก” ได้เล่าเรื่องผ่านมุมมองของผู้หญิงที่โตมากับการเป็นคนแบบอินโทรเวิร์ต ทำให้สายตาของเธอมองเห็นโลกเป็นอีกแบบ เป็นงานเขียนที่สะท้อนให้เห็นภาพของคนร่วมสมัยได้อย่างซื่อตรง และทำให้เข้าใจว่าความแตกต่างของคนเรานั้นล้วนมีที่ทางเป็นของตนเอง บุคลิกลักษณะของคนเราเปรียบเสมือนตารางไล่โทนสี ในคนเดียวกันก็สามารถเป็น “คนชอบเก็บตัวที่มีลักษณะค่อนไปทางชอบเข้าสังคม” และสามารถเป็น “คนชอบเข้าสังคมที่ค่อนไปทางเงียบขรึม” ได้เช่นกัน จึงไม่อาจอธิบายได้ด้วยคุณสมบัติเพียงอย่างเดียว การตอบคำถามว่า ตัวเรามีลักษณะนิสัยแบบไหนนั้น เป็นเรื่องที่เราต้องถามใจตัวเอง ไม่ใช่การวัดด้วยไม้บรรทัดของคนทั่วไป “คนชอบเก็บตัวต้องรวบรวมความกล้าห้าครั้ง ถึงจะชวนคนอื่นคุยได้ คนชอบเข้าสังคมก็ต้องอดทนอดกลั้นห้าครั้ง เพื่อที่จะไม่พูดสุ่มสี่สุ่มห้าออกไป”

คลิกเครื่องหมาย + เพื่อดูข้อมูลเพิ่มเติม คลิกเครื่องหมาย - เพื่อซ่อนข้อมูล

CallnumberBF698.35.I59 น6ท 2563
Authorนัม, อินซุก
Titleที่จริงแล้ว ฉันเป็นคนเก็บตัวนะ = Actually, I’m an introvert / Nam In-Sook เขียน ; สาริญา แซ่ตั้ง แปล
Editionพิมพ์ครั้งที่ 2
Detail266 หน้า : ภาพประกอบ ; 19 ซม
Table of contentChapter 1 การมีชีวิตอย่างคนชอบเก็บตัว — ฉันเป็น Introvert หรือ Extrovert — ฉันนี่นะเป็นคนเงียบขรึม — ปิ๊บ! กดปุ่มเข้าสังคม — คนชอบเข้าสังคมเงียบขรึมกับคนชอบเก็บตัวช่างพูด — คนชอบเข้าสังคมช่างน่าอิจฉา — คนชอบเก็บตัวทุกคนคือ ‘Outsider’? — คนชอบเข้าสังคมนิสัยแย่ แต่ดูน่าคบ คือศัตรูโดยธรรมชาติของคนชอบเก็บตัว — คนอ่อนไหวง่ายเป็นคนชอบเก็บตัวหรือเปล่า — Chapter 2 ปิ๊บ เปลี่ยนสู่โหมดเข้าสังคม — คนชอบเข้าสังคมคือรูปแบบพื้นฐานของมนุษย์หรือ — อยากไปปาร์ตี้แบบฝรั่งไหม — ฉันว่านัดพบกันสี่คนกำลังดี — คบหากันแบบแคบและลึก — แก๊ก ปุ่มเข้าสังคมพังซะแล้ว — ฉันอยากประสบความสำเร็จไหม — ความปรารถนาอันแรงกล้าของคนชอบเก็บตัว — Chapter 3 เท่าที่ฉันมี — เหตุผลที่ฉันถูกโฉลกกับแมว — เหตุผลที่ไม่นัดกินข้าวเย็น — เหตุผลที่ชอบเรื่องสืบสวนอาชญากรรมแสนเลือดเย็น — ทำไมพระรองนางรองที่ไม่สมหวังในความรักต้องหนีไปเมืองนอก — ข่าวดีชวนให้ตกใจส่งผลกระทบต่อคนชอบเก้บตัว — ชีวิตฉันดูน่าเบื่อมากเลยเหรอ — อย่าดูแลฉันดีเกินไป — ถ้าฉันร้องไห้ ได้โปรดปล่อยฉันไว้คนเดียว — ร้านเสริมสวยอันแสนสงบคือที่ประจำของฉัน — ชีวิตของคนที่หัวถึงหมอนปุ๊บก็หลับปั๊บ — Chapter 4 แค่ก้าวเดียวก็พอ — เราแก้ปัญหาจากมุมห้องไม่ได้เหรอ — เงื่อนไขของคนติดบ้าน — เหมือนการเลือกเครื่องดูดฝุ่นไร้สาย — ข้อดีคือการคิด ข้อเสียก็คือการคิด — ฉันก็อยากจะ ‘ช่างมัน’ กับเรื่องพวกนั้นได้บ้าง — ฉันอยากเป็นคนพูดโพล่งบ้าง — โสดก็ดีหรอก แต่ขอแต่งงานได้ไหม — ฉันจัดการกับความซึมเศร้าแบบนี้ — บทส่งท้าย แรงผลักดัน ความอบอุ่น และความเนิบช้า
Abstractบุคลิกลักษณะของเราเสมือนเป็นตารางไล่โทนสี ในคนเดียวกันก็สามารถเป็น “คนชอบเก็บตัวที่มีลักษณะค่อนไปทางชอบเข้าสังคม” และสามารถเป็น “คนชอบเข้าสังคมที่ค่อนไปทางเงียบขรึม” ได้เช่นกัน จึงไม่อาจอธิบายได้ด้วยคุณสมบัติเพียงอย่างเดียว การตอบคำถามว่า ตัวเรามีลักษณะนิสัยแบบไหนนั้น เป็นเรื่องที่เราต้องถามใจตัวเอง ไม่ใช่การวัดด้วยไม้บรรทัดของคนทั่วไป “คนชอบเก็บตัวต้องรวบรวมความกล้าห้าครั้ง ถึงจะชวนคนอื่นคุยได้ คนชอบเข้าสังคมก็ต้องอดทนอดกลั้นห้าครั้ง เพื่อที่จะไม่พูดสุ่มสี่สุ่มห้าออกไป”
Subject
Subject
Subject
Added AuthorNam, In-Sook
Added Authorสาริญา แซ่ตั้ง

Concentration บอกลาสมาธิสั้น

      “สมาธิคือดาบที่คมที่สุด ที่จะทำคุณค้นพบตัวเองในทางที่ดีขึ้น เจริญขึ้น งามขึ้น สงบขึ้น อย่างไม่อาจอธิบายเป็นคำพูด และไม่ขึ้นต่อกาลเวลา”

     CONCENTRATION บอกลาสมาธิสั้น  ทำหู้อ่านตระหนักรู้อะไรบ้างเกี่ยวกับการมีสมาธิ :

  • ทำให้รู้ว่า สมาธิไม่ใช่เรื่องของความรู้ แต่เป็นเรื่องของประสบการณ์
  • ทุกสิ่งแท้จริงเกิดจากใจเรา ที่รับรู้ถึงชีวิตของตัวเอง การงาน ครอบครัว และสรรพสิ่งรอบข้างทั้งหมด
  • การทำสมาธิ คือ การฝึก “ใจ” ที่ตระหนักรู้ถึงโลกสงบนิ่ง ทรงพลัง และไร้ขีดจำกัด ซึ่งการฝึกใจให้มีสมาธิแบบนี้คือ ใจที่ชนะทุกสถานการณ์ เพราะมันคือชัยชนะในตัวเอง

         นำเสนอสมาธิสารพัดรูปแบบ ที่จะพาเจาะลึกเข้าสู่กลไกลในใจคุณเอง ซึ่งกลไกเหล่าเป็นสิ่งปิดกั้นสมาธิและทำให้บางสิ่งไม่เคยสำเร็จสักที แต่เมื่อคุณเข้าใจการทำงานของใจตัวเอง รู้ว่าจะหลอกล่อมันอย่างไร เมื่อนั้นคุณจึงจะสามารถหยิบดาบคมกริบที่ชื่อสมาธิขึ้นมา แล้วฟันฉับเดียวไปยังเป้าหมายใดก็ตามที่เล็งไว้…สำเร็จพันเปอร์เซ็นต์!จะนำเสนอความเข้าใจในธรรมชาติที่ซับซ้อนของใจและร่างกาย ทำให้ผู้อ่านหนังสือเล่มนี้ได้เรียนรู้ในสิ่งที่ตัวเองกระทำ ว่าทำไมต้องทำสิ่งนี้ และ สิ่งที่สำคัญไปกว่านั้นก็คือ ทำไมเราจึงเข็นตัวเองให้ทำในสิ่งอยากทำไม่ได้ ลองมาหาวิธีเพิ่มสมาธิจดจ่อที่จุดเดียวอย่างคมกริบต่อเนื่องกว่าวิธีเพิ่มสมาธิจดจ่อที่จุดเดียวอย่างคมกริบยาวนานต่อเนื่องกว่า 5 ชั่วโมง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการเรียน การสอบ การทำโปรเจ็กต์งาน การเขียนหนังสือ การพัฒนาความสัมพันธ์ การผูกมิตร ชีวิตครอบครัว ไปจนถึงการสร้างชีวิตที่มีความสุข

  • เป็นผลงานของผู้เขียนหนังสือขายดีอันดับหนึ่งในหมวด Concentration บน Amazon สองปีซ้อน เป็นหนังสือ Amazon Bestseller ที่เป็นหัวข้อทันยุคที่สมาร์ทโฟนและสื่อโซเชียล ทำให้คนพบว่าตัวเองมีปัญหาเรื่องสมาธิ และเป็นหนังสือที่อ่านสนุก ใกล้ตัวทุกคน
  • ตอนที่ 1   สมาธิคืออะไร ทำไมจึงสำคัญ ความเข้าใจเรื่องการตระหนักรู้
  • ตอนที่ 2 กล่อมตัวเอง  ภาพในความคิด  จัดการกับความคิด ภาพในความคิด และความรู้สึก  เรียกข้อมูลคืน สนใจรายละเอียด  ขยายขีดจำกัด  ควบคุมอารมณ์ชั่ววูบ  ฝึกร่างกาย  และ กลเม็ดเพิ่มเติม
  • ตอนที่ 3  ควบคุมสภาวะ  เป้าหมายของคุณคืออะไร ทำหรือไม่ทำ งานชิ้นพอคำ กรอบเวลา ตั้งคำถาม กักบริเวณโดยสมัครใจ ลื่นไหล  เวลาหยุดพัก ใจปีศาจ และเกร็ดเพิ่มเติม 
  • ตอนที่ 4  สิ่งรบกวนคืออะไร  สิ่งรบกวนภายนอก  สิ่งรบกวนภายใน  ความปราถนาที่ไม่เป็นจริง  อาการเสพติด
  • ตอนที่ 5  วิถีชีวิต  กิจวัตร และสภาพแวดล้อม

คลิกเครื่องหมาย + เพื่อดูข้อมูลเพิ่มเติม คลิกเครื่องหมาย - เพื่อซ่อนข้อมูล

CallnumberBF385 น93ค 2563
Authorไนต์, คาม
TitleConcentration บอกลาสมาธิสั้น = Concentration : maintain laser sharp focus and attention for stretches of 5 hoursor more / Kam Knight เขียน ; นุชนาฎ เนตรประเสริฐศรี แปล
Publishedกรุงเทพฯ : อมรินทร์ฮาวทู, 2563
Detail302 หน้า ; 21 ซม
Noteแปลจาก Concentration : maintain laser sharp focus and attention for stretches of 5 hours or more
Table of contentตอนที่ 1 บทนำ — บทที่ 1 สมาธิคืออะไร ทำไมจึงสำคัญ — บทที่ 2 ความเข้าใจเรื่องการตระหนักรู้ — ตอนที่ 2 บทที่ 3 กล่อมตัวเอง — บทที่ 4ภาพในความคิด — บทที่ 5 จัดการกับความคิด ภาพในความคิด และความรู้สึกฯลฯ — ตอนที่ 3 — บทที่ 12 ควบคุมสภาวะ — บทที่ 13เป้าหมายของคุณคืออะไร — บทที่ 14 ทำหรือไม่ทำ ฯลฯ — ตอนที่ 4 –บทที่ 23 สิ่งรบกวนคืออะไร — บทที่ 24 สิ่งรบกวนภายนอก — บทที่ 25สิ่งรบกวนภายใน ฯลฯ — ตอนที่ 5 บทที่ 28 วิถีชีวิต — บทที่ 29 กิจวัตร — บทที่ 30 สภาพแวดล้อม สรุป
Abstract“Concentration บอกลาสมาธิสั้น” เล่มนี้จะพาเจาะลึกเข้าสู่กลไกลในใจคุณเอง กลไกเหล่านี้ที่ปิดกั้นสมาธิและทำให้บางสิ่งไม่เคยสำเร็จสักที ซึ่งมันมักเป็นสิ่งสำคัญเสียด้วยแต่เมื่อคุณเข้าใจการทำงานของใจตัวเอง รู้ว่าจะหลอกล่อมันอย่างไรเมื่อนั้นคุณจึงจะสามารถหยิบดาบคมกริบที่ชื่อสมาธิขึ้นมาแล้วฟันฉับเดียวไปยังเป้าหมายใดก็ตามที่เล็งไว้
Subject
Subject
Subject
Added AuthorKnight, Kam
Added Authorนุชนาฎ เนตรประเสริฐศรี

แด่ผู้แหลกสลาย

 “โรคซึมเศร้าในแต่ละคนแตกต่างกัน ความเจ็บปวดมีหลายรูปแบบ หลายระดับ และกระตุ้นการตอบสนองที่แตกต่างกันไป” (หน้า 13) 

ประโยชน์ที่ชัดมากของหนังสือเล่มนี้คือทำให้คนที่ไม่เข้าใจ ไม่รู้จักโรคซึมเศร้า ได้เข้าใจ ได้สัมผัส ผลก็คือได้เห็นอกเห็นใจ  รู้วิธีการดูแล และรับมือกับผู้ป่วยโรคซึมเศร้าที่มีจำนวนเพิ่มมากขึ้นทุกวัน

“สุดท้ายแล้ว มนุษย์เราก็ต้องการความกล้าหาญที่จะใช้ชีวิต มากกว่าที่จะจบชีวิต” Albert Camus : A Happy Death

การเป็นโรคซึมเศร้าของแต่ละคนแตกต่างกัน หนังสือเล่มนี้เป็นเหมือนเพื่อนที่นั่งคุยกันในเรื่องที่ดิ่งเข้าไปลึกสุดของหัวใจ ผู้แต่ง เขียนเพื่อฟื้นฟูตัวเอง เพราะเป็นโรคซึมเศร้า อ่านไปเรื่อย ๆ จะคล้ายว่ามีเพื่อนที่คอยเล่าเรื่องความในใจ เรื่องที่เราคิดวกวนอยู่ในหัวแต่ไม่กล้าเล่าให้ใครฟัง มีคำแนะนำหนังสือดีมากมายให้เราอ่าน 

“หลายคนยังเชื่อว่าโรคซึมเศร้าเกิดจากสารเคมีในสมองที่ไม่สมดุล ความผิดปกติในระยะแรกเริ่มมาจากสารเคมีเป็นหลัก เคิร์ต วอนเนกัต กล่าวไว้ในหนังสือ Breakfas of Champions เขาเสริมอีกด้วยว่า ร่างกายของเดวย์น ฮูเวอร์ ผลิตสารเคมีบางอย่างที่ทำให้จิตใจเสียสมดุล” (หน้า 99) 

และที่สำคัญคือผู้แต่งจะคอยเตือนเป็นระยะว่าให้เงี่ยหูฟังเสียงของชีวิต เพราะชีวิตจะคอยกระซิบบอกเราอยู่เสมอถึงเหตุผลของการอยู่ต่อไป มันอาจอยู่ในรูปของกาแฟยามเช้า กลิ่นผ้าซักใหม่ บางประโยคจากหนังที่ชอบ หรือภาพใบหน้าของใครสักคน 

“ผมออกไปวิ่งทุกวัน หรือไม่ก็ออกกำลังกายแบบคาร์ดิโอเหมือนฮารูกิ มูราคามิ ผู้เขียนหนังสือเล่มเยี่ยมชื่อ เกร็ดความคิดบนก้าววิ่ง (What I Talk About When I Talk About Running) … ผมเองก็พบว่าการวิ่งขจัดความขุ่นมัวในจิตใจได้ดี “ทำให้เต็มที่ในขีดจำกัดของคุณ นั่นคือสารัตถะแห่งการวิ่ง” มูราคามิกล่าว ซึ่งผมก็เชื่ออย่างนั้น และเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้ผมเชื่อว่าการวิ่งช่วยฟื้นฟูจิตใจได้” (หน้า 193) 

แมตต์เป็นนักอ่าน การเล่าเรื่องของเขาจึงชวนให้ติดตาม ทำความเข้าใจได้ไม่ยาก เล่าเรื่องด้วยตอนสั้น ๆ คล้ายกับอ่านไดอารี่บันทึกข้อความของเรื่อง ๆ หนึ่ง มีขั้นตอน มีการทำความเข้าใจ และวิธีการรับมือ อาจไม่สามารถใช้เป็นภาพแทนผู้ป่วยทั้งหมด แต่มากพอที่จะทำความเข้าใจผู้ป่วย ใช้ชีวิตกับผู้ป่วย รับมือกับโรคซึมเศร้าที่เป็น

“มันยากขนาดนั้นเลยหรอ แค่เดินออกไปซื้อของไกลจากบ้าน 20 เมตร”

“ทำไมเอื่อยเฉื่อย ไม่กระตือรือร้น ทำตัวให้แอคทีฟสิ เราเป็นคนควบคุมมันนะ ไม่ใช่มันควบคุมเรา”

การพยายามเอามุมมองของคนปกติไปตัดสินคนเป็นโรคซึมเศร้า ไม่ผิดหรอกที่เราจะ “เข้าไม่ถึง” แต่จะดีกว่าถ้าเรา “เข้าใจ” อารมณ์นั้น พร้อมรู้วิธีดูแลให้เขาผ่านช่วงเวลานั้นไปได้

คลิกเครื่องหมาย + เพื่อดูข้อมูลเพิ่มเติม คลิกเครื่องหมาย - เพื่อซ่อนข้อมูล

CallnumberPR6108.A33 ฮ72ด 2564
Authorเฮก, แมตต์
Titleแด่ผู้แหลกสลาย = Reasons to stay alive / โดย Matt Haig ; แปล ศิริกมล ตาน้อย
Editionพิมพ์ครั้งที่ 1
Publishedกรุงเทพฯ : บุ๊คสเคป, 2564
Detail319 หน้า ; 19 ซม
Abstractเนื้อหาเมื่อต้องเผชิญกับโรคซึมเศร้า เคยทนทุกข์ทรมานจากเจ้าตัวร้ายที่ชื่อว่า ‘โรคซึมเศร้า’ ผู้เขียนเขาเก็บเกี่ยวความรู้สึกในวัยเยาว์ที่อยู่ห่างความตายเพียงน้อยนิด พร้อมก้าวข้ามความเจ็บปวดและกลับไป ‘มีชีวิต’อย่างแท้จริง นี่คือบันทึกความทรงจำที่บอกเล่าห้วงยามเหล่านั้นอย่างซื่อตรงสอดแทรกอารมณ์ขันและชั้นเชิงน่าทึ่งถ่ายทอดอารมณ์เบื้องลึกของผู้มีภาวะซึมเศร้าได้อย่างงดงาม
Subject
Subject
Subject
Subject
Subject
Added AuthorHaig, Matt
Added Authorศิริกมล ตาน้อย

วะบิ ซะบิ: แด่ความไม่สมบูรณ์แบบของชีวิต

    วะบิ ซะบิ คือปรัชญาเก่าแก่ของญี่ปุ่นที่อยู่เคียงบ่าเคียงไหล่กับปรัชญาอื่นๆ อย่าง ‘อิคิไก’ และ ‘คินสึงิ’ ซึ่งฝังร่างลึกอยู่ในวัฒนธรรมญี่ปุ่นมายาวนาน ได้รับการเผยแพร่ไปทั่วโลกอย่างกว้างขวาง เมื่อหันไปมองรอบตัว โลกเราในยุคปัจจุบันกลับดูจะตรงข้ามกับหลักการของ วะบิ ซะบิ สังคมให้ค่าสิงที่ “เที่ยงแท้แน่นอน” “ความสมบูรณ์แบบ” และ “ความสำเร็จเสร็จสิ้น” เช่นนี้ วะบิ ซะบิ จะเป็นเพียงแนวคิดหนึ่งที่เคยใช้ได้เมื่อบรรพกาล ซึ่งมาถึงตอนนี้ หมดอายุและหลงยุคไปแล้ว หรือมันจะเป็นทางเลือกให้คนที่เริ่มอ่อนล้ากับการ ตามหาความสมบูรณ์แบบ

คลิกเครื่องหมาย + เพื่อดูข้อมูลเพิ่มเติม คลิกเครื่องหมาย - เพื่อซ่อนข้อมูล

CallnumberBF637.C5 ค74ว 2563
Authorเคมป์ตัน, เบท
Titleวะบิ ซะบิ แด่ความไม่สมบูรณ์แบบของชีวิต = Wabi sabi / เบท เคมป์ตัน เขียน ; วุฒิชัย กฤษณะประกรกิจ แปล
Editionพิมพ์ครั้งที่ 1
Publishedกรุงเทพฯ : บิบลิโอ, 2563
Detail431 หน้า ; 16 ซม
Table of contentที่มา คุณลักษณะ สิ่งที่เห็นและเป็นอยู่ — เรียบง่ายและงดงาม — อยู่กับธรรมชาติ — ยอมรับและปล่อยวาง — ทบทวนความล้มเหลว — ทะนุถนอมความสัมพันธ์ — รื่นรมบนเส้นทางการงาน — เก็บรักษาวันเวลาที่ดี — ผูกโยงทั้งหมดเข้าด้วยกัน — คำขอบคุณ — อ้างอิง — บันทึกสำหรับการไปเยือนญี่ปุ่น
Subject
Subject
Subject
Subject
Subject
Subject
Added Authorวุฒิชัย กฤษณะประกรกิจ
Added AuthorKempton, Beth

หนึ่งร้อยปีแห่งความโดดเดี่ยว

  • บอกเล่าเรื่องราวเจ็ดรุ่นของครอบครัวบวนเดีย กับเมืองในจินตนาการ “มาก็อนโด” ตั้งแต่การก่อตั้ง แต่เมื่อครั้งบรรพกาล กับการรุกคืบเข้ามาของกาลเวลา เสื่อบินได้ โรคนอนไม่หลับ โบถส์วิหาร ทางรถไฟ และนิคมกล้วย ปริศนาครอบครัวพิสดารที่บันทึกเรื่องราวเจิดจรัส ของจินตนาการและความมีชีวิตชีวา แห่งดินแดนแคริบเบียน ผสานกับประวัติศาสตร์โหดร้ายของสงครามกลางเมืองและการสังหารหมู่ ความรุ่งเรื่องและเสื่อมโทรม ที่ซึ่งปาฏิหาริย์และความเป็นจริงมาบรรจบกัน ด้วยพลังชีวิตและการทิ้งทำลายที่สอดประสานกันในห้วงเวลาหนึ่งร้อยปี

คลิกเครื่องหมาย + เพื่อดูข้อมูลเพิ่มเติม คลิกเครื่องหมาย - เพื่อซ่อนข้อมูล

CallnumberFic. ก641ห 2564
Authorการ์เซีย มาร์เกซ, กาเบรียล, ค.ศ. 1927-2014
Titleหนึ่งร้อยปีแห่งความโดดเดี่ยว / กาเบรียล การ์เซีย มาร์เกซ ; ชนฤดี ปลื้มปวารณ์ แปลจากต้นฉบับภาษาสเปน
Published[กรุงเทพฯ] : บทจร, 2564
Detail476 หน้า ; 21 ซม
Subject
Subject
Subject
Added Authorชนฤดี ปลื้มปวารณ์

จงใช้ชีวิตแบบที่เธอต้องการจริง ๆ

เป็นหนังสือแปลจากเกาหลี ต้องชมคนแปล เพราะเวลาที่อ่านไป อารมณ์จากภาษาและเนื้อหา เหมือนมีนักพูดสร้างแรงบันดาลใจอยู่ข้าง ๆ ค้นหาสิ่งที่ใช่เพื่อก้าวต่อไป แง่คิดที่จะทำให้ค้นพบชีวิตในแบบที่คุณต้องการ

ประเด็นหลักของหนังสือที่พยายามสื่อออกมาคือ คุณจงเลือกชีวิตที่คุณต้องการ และบุคคลที่ประสบความสำเร็จก็ทำตามเสียงหัวใจตนเอง เขาใช้ชีวิตตามที่เขาต้องการ

“จงเลี้ยงชีพด้วยงานที่ชอบ แล้วตลอดชีวิตจะไม่เหนื่อยใจกับงาน” (ภาษิตจีน หน้า 8)

“ผู้ที่วางแผนชีวิตทุก ๆ เช้าและปฏิบัติตามแผนการนั้น จะมีเชือกนำทางตัวเองไม่ว่าจะอยู่ภายใต้ชีวิตที่ยุ่งเหยิงขนาดไหน แต่หากใช้เวลาแกน ๆ ไปตามเหตุบังเอิญโดยปราศจากแผนการ ย่อมมีชีวิตที่ยุ่งเหยิงไร้ระเบียบ” (วิกเตอร์ อูโก หน้า 89)

หนังสือแบ่งหมวดชัดเจน มีประเด็นเรื่องทัศนคติต่าง ๆ คำคม พร้อมด้วยแนวทางที่จะทำ อ่านแล้วทำตามได้ ชอบภาษา เรื่องเล่าสั้น ๆ ในเล่ม การยกตัวอย่างคำพูด คำคม แนวคิด มีการอธิบายประเด็นเพิ่มเติมเพื่อขยายความเกี่ยวกับประโยคนั้น ๆ คุ้มค่ามากที่อ่าน 

“หากการเดินทางท่องเที่ยว ต้องมีแผนที่และการวางแผนที่ดี การออกเดินทางตามความฝันก้เช่นเดียวกัน หนังสือเล่มนี้นำเสนอแง่คิด 43 ประการ ที่จะช่วยให้คุณสำรวจตัวเองและค้นหาเส้นทางที่ใช่เพื่อไล่ตามฝันให้สำเร็จ โดยไม่ต้องนึกเสียใจว่า ถ้าย้อนเวลากลับไปได้ ก็คงดี” (ด้านหลังของปก)

คลิกเครื่องหมาย + เพื่อดูข้อมูลเพิ่มเติม คลิกเครื่องหมาย - เพื่อซ่อนข้อมูล

CallnumberHF5381 อ6จ 2560
Authorอิม, แจซอง
Titleจงใช้ชีวิตแบบที่เธอต้องการจริงๆ = Just live the life you really want to / อิมแจซอง เขียน ; ตรองสิริ ทองคำใส แปล ; Tree Apart วาดภาพประกอบ
Editionพิมพ์ครั้งที่ 2
Publishedกรุงเทพฯ : สปริงบุ๊กส์, 2560
Detail209 หน้า : ภาพประกอบ ; 21 ซม
Table of contentเริ่มออกเดินทางด้วยการตามหาสิ่งที่ใช่ให้เจอ — ผู้ลงมือปฏิบัติและพยายามจะทำตามฝันเป็นจริง — เรียนรู้ที่จะวางตัวให้ชนะ — เติบโตขึ้นอีกขั้น — ยุคที่นิสัยสำคัญกว่าความสามารถ — จงใช้ชีวิตให้มีความหมายเพิ่มอีกสักนิด
Subject
Subject
Subject
Subject
Subject
Subject
Added AuthorTree Apart
Added AuthorLim, Jaesung

เขียนฝันด้วยชีวิต

  • – 1 ใน 100 หนังสือดีเพื่อพัฒนาเด็กและเยาวชน ของ สสค.

    – นวนิยายรางวัลดีเด่น จาก สพฐ. กระทรวงศึกษาธิการ ประจำปี 2549

    – นวนิยายรางวัลชนะเลิศ รางวัลเซเว่นบุ๊คอวอร์ด ครั้งที่ 4 ประจำปี 2550

    ไม่แปลกใจเลยกับการตีพิมพ์หกครั้ง กับรางวัลทุกรางวัลที่ได้รับ ผู้เขียนใช้ภาษาอ่านง่าย แต่ทรงพลัง เรื่องราวชีวิตจริงของผู้เขียนที่นำมาเรียบเรียงเป็นนิยาย มองในแง่นิยายก็คือสนุกดี มีอารมณ์ขึ้น-ลง สุข เศร้า สมหวัง เห็นการพัฒนาการของตัวละคร อ่านไปพร้อมกับมีคำถามในใจว่า จะเป็นนักเขียนได้ต้องลำบากขนาดนี้ไหม? เห็นความฝันที่อยากเป็นนักเขียน เห็นการลงมือเขียน เห็นความพยายาม เห็นอะไรอีกมากมาย …

    “ถ้าเขียนหนังสือไม่ได้ ผมก็ไม่ควรมีชีวิตอยู่ต่อไป”

    ”อย่าหนี แต่จงเอาชนะ ไม่มีงานไหนดีเท่างานที่กำลังทำอยู่ (หน้า 111)”

    ประสบการณ์ต่าง ๆ ของผู้เขียนทำให้งานเขียนมีเอกลักษณ์ “ความเศร้าติดปลายนวม” คำนี้ต้องยกให้ “ประชาคม ลุนาชัย” ผู้ผ่านความเศร้ามาอย่างโชกโชนจริง ๆ

    “ผมอาจไม่มีเครื่องพิมพ์ดีดดีที่สุดสำหรับสร้างงานเขียน แต่ผมมีหัวใจที่ยังสูบฉีดโลหิต และความมุ่งมั่นแรงกล้า (หน้า 489)”

    สรุปได้ว่านี่คืออัตชีวประวัติ อ่านแบบเรื่องแต่งก็ได้ความสนุกสนานบันเทิง จะอ่านเอาแรงบันดาลใจจากเรื่องจริงของชีวิตคน ๆ หนึ่งก็ได้จะประกายไฟฝัน แรงใจที่จะทำตามฝัน ความฝันกับจุดหมายอาจไม่ใช่สิ่งเดียวกันเสมอไป น้อยคนที่จุดหมายคือความฝัน แต่ “ประชาคม ลุนาชัย” ทำความฝันให้เป็นจุดหมายได้สำเร็จ

    “จวบจนถึงปลายปี 2548 ไม่เคยกลับเข้าไปทำงานประจำที่ไหนอีกเลย” (หน้าบทส่งท้าย)

    ก้อนคำกระชับแต่หนักแน่นเต็มไปด้วยความสุข สมหวัง จบบริบูรณ์แบบไม่มีข้อติดค้างในใจ ยอมใจให้ผู้เขียนเลย ขอบคุณที่จุดประกายไฟฝันให้ลุกในใจอีกครั้ง

คลิกเครื่องหมาย + เพื่อดูข้อมูลเพิ่มเติม คลิกเครื่องหมาย - เพื่อซ่อนข้อมูล

CallnumberFic. ป46ข 2565
Authorประชาคม ลุนาชัย
Titleเขียนฝันด้วยชีวิต / ประชาคม ลุนาชัย
Editionพิมพ์ครั้งที่ 6
Publishedกรุงเทพฯ : ศรีปัญญา, 2565
Detail510 หน้า : ภาพประกอบ ; 21 ซม
Table of contentภาคหนึ่ง : เส้นทางลิขิต — ภาคสอง : ชีวิตและความหมาย — ภาคสาม : กลายเป็นอื่น — ภาคสี่ : ตื่นสู้ฝัน
Subject
Subject
Subject
Subject
Subject
Subject
Subject
Subject

NIKSEN ศิลปะของการไม่ทำอะไรเลย

  • นิกเซน คือ การหยุดพักอยู่กับตัวเองในชั่วขณะเวลาหนึ่ง 
  • เพราะชีวิตในปัจจุบันบังคับให้เราต้องเร่งรีบ ใช้ชีวิตด้วยความรู้สึกกดดัน และบีบคั้นอยู่ตลอดเวลา เราไม่สามารถหยุดนิ่งได้ การปล่อยเวลาว่างให้เปล่าประโยชน์กลายเป็นความขี้เกียจ เราต้องเติมเต็มตารางชีวิตของเราให้เต็มอยู่ตลอดเวลา
  • นิกเซนเป็นแนวคิดที่สวนทางกับกระแสในปัจจุบัน เน้นการหันกลับมามองตัวเอง ให้เวลากับตัวเอง ได้ทบทวนตัวเอง ไม่ต่างกับการเจริญสติในแนวทางของศาสนาพุทธ แต่นิกเซนมีความยืดหยุ่นมากกว่า ไม่ได้เคร่งครัดกับรูปแบบมากนัก 
  • ในอดีตนิกเซนเป็นแนวคิดที่ถูกตีความในเชิงลบ มองว่าคนที่กำลังนิกเซนคือคนขี้เกียจ ไม่มีประสิทธิภาพ แต่เมื่อผ่านกาลเวลา ผ่านเรื่องราวต่างๆ แนวคิดนิกเซนถูกมองในมุมมองที่เปลี่ยนแปลงไป ได้รับความสนใจและได้รับการยอมรับมากขึ้น เป็นแนวคิดที่ช่วยให้ใช้ชีวิตได้อย่างผ่อนคลายมากขึ้น 
  • การที่นิกเซนได้รับการยอมรับ เพราะผลจากการทำนิกเซนทำให้เกิดผลดีหลายๆ อย่างทั้ง ทำให้มีเรี่ยวแรงมากขึ้น ทำให้มีสุขภาพดีขึ้น ทำให้ครอบครัวมีความสุขมากขึ้น ทำให้สมองแข็งแรงขึ้น ทำให้สามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิผลมากขึ้น เพิ่มการตระหนักรู้ในตัวเอง ทำให้เกิดการตื่นรู้ มีเวลาวางแผนเป้าหมายระยะยาว และสุดท้ายทำให้นอนหลับดีขึ้น
  • ผลที่ได้รับจากการนิกเซน ทำให้ชีวิตมีความสุขมากขึ้น ลดความตึงเครียด เกิดการผ่อนคลาย ทุกสิ่งทุกอย่างรอบตัวเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้น 
  • การนิกเซนทำให้เราได้ใช้ชีวิตเพื่อตัวเองมากขึ้น ละวางเป้าหมายที่ไม่จำเป็น และสิ่งบีบคั้นต่างๆ ได้หันกลับมาอยู่กับตัวเอง พิจารณา พอใจในสิ่งที่มีและสิ่งที่เป็นมากขึ้น ซึ่งแนวคิดนิกเซนสามารถทำได้ทุกวัน ทุกที่ และทุกเวลา ใครๆ ก็สามารถนิกเซนได้
  • โดยเฉพาะคนที่กำลังรู้สึกหมดไฟในการทำงาน การนิกเซนจะเป็นตัวช่วยให้เติมไฟให้ลุกขึ้นมาได้ใหม่ ทำให้มีพลังและแรงใจที่จะดำเนินชีวิตต่อไป 
  • หนังสือเล่มนี้แนะนำแนวคิดและวิธีในการทำนิกเซน มีแบบฝึกหัดง่ายๆ ให้ทำตาม ผู้อ่านสามารถลงมือทำตามได้ทันที สามารถตรวจสอบความคืบหน้าของตัวเองได้ สำรวจการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นกับตัวเองได้ 
  • ในสภาวะความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว โลกมีการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา มีเรื่องราวต่างๆ เข้ามาสร้างความเครียดและความกดดัน การได้หยุดพัก การได้หยุดนิ่ง การได้หยุดพิจารณาตัวเอง ก็เป็นสิ่งที่จำเป็นและสำคัญ เพื่อให้มองเห็นแนวทางที่ชัดเจนว่าเราจะพาชีวิตก้าวไปในเส้นทางไหน เส้นทางไหนจึงจะเหมาะสมและดีกับตัวเรามากที่สุด เพราะท้ายที่สุดเราเองต้องเป็นผู้รับผลแห่งการตัดสินใจนั้นอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ 

คลิกเครื่องหมาย + เพื่อดูข้อมูลเพิ่มเติม คลิกเครื่องหมาย - เพื่อซ่อนข้อมูล

CallnumberBJ1498 ล6น 2564
Authorลาฟไรห์เซน, แอนเนท
TitleNiksen ศิลปะของการไม่ทำอะไรเลย / แอนเนท ลาฟไรห์เซน เขียน ; อณรรฆวีร์ เติมสินสุข แปล
Publishedกรุงเทพฯ : อมรินทร์ฮาวทู, 2564
Detail145 หน้า : ภาพประกอบ ; 18 ซม
Table of contentชาวดัตช์แสนสุข — กล้าที่จะเฉี่อย — จัดลำดับความสำคัญใหม่ — นิกเซนทุกวัน — นิกเซนทุกที่ — นิกเซนสำหรับคุณ — สภาพจิตใจแบบนิกเซน
Subject
Subject
Subject
Subject
Subject
Added Authorอณรรฆวีร์ เติมสินสุข

คิมจียอง เกิดปี 82

      เพราะเกิดเป็นผู้หญิงจึงเจ็บปวด เป็นคำกล่าวที่โหดร้าย แต่มันคือความเป็นจริง ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน แนวคิดชายเป็นใหญ่ยังครอบงำโลกใบนี้อยู่ ถึงแม้โลกจะเปลี่ยนแปลงไป ผู้หญิงเริ่มมีสิทธิ์ มีเสียงมากขึ้น แต่นั่นก็เป็นสิ่งที่ได้มาโดยผ่านการต่อสู้เรียกร้องของผู้หญิงตลอดมา  ด้วยแนวคิด ด้วยลักษณะทางกายภาพ ผู้ชายคือผู้กุมอำนาจ สร้างกฎเกณฑ์ต่างๆ เงื่อนไขที่จำกัดสิทธิ์ของผู้หญิง ไม่ว่าจะในสังคมตะวันออก หรือสังคมตะวันตก ผู้หญิงก็ยังถูกเลือกปฏิบัติอยู่เสมอ 

      เรื่องนี้สะท้อนให้เห็นมุมมอง และค่านิยมต่างๆ ที่ผู้หญิงถูกบีบบังคับ ถูกจำกัดสิทธิ์ ตั้งแต่ในยุคอดีตมาจนถึงยุคปัจจุบัน ด้วยแนวคิดและค่านิยมทางสังคมที่ยึดถือ กำหนดให้ผู้หญิงเป็นแค่เครื่องมือผลิตประชากร และต้องเป็นประชากรผู้ชายเท่านั้นถึงจะได้รับการยกย่อง ยอมรับจากครอบครัวและสังคม สะท้อนค่านิยมที่ฝังลึกเกี่ยวกับผู้หญิงในประเทศเกาหลีใต้ ผู้หญิงต้องอยู่บ้าน ดูแลลูก ต้องสงบปากสงบคำ ชีวิตอยู่ภายใต้การบงการของผู้ชาย

       คิมจียองคือ ตัวแทนของผู้หญิงที่ถูกค่านิยมทางสังคมกดทับ ไม่ว่าจะเก่งแค่ไหน ก็ไม่สามารถได้รับการยอมรับได้ ทั้งๆ ที่เป็นลูกสาว แต่กลับถูกพ่อทำร้ายจิตใจ และเมื่อมีเรื่องร้ายๆ เกิดขึ้น กลับถูกมองว่าเป็นเพราะการกระทำของตัวเองจึงทำให้เกิดเรื่องร้ายๆ ทุกสิ่งทุกอย่างสะสมมาเรื่อยๆ จนวันที่แต่งงาน มีลูก ปัญหาที่สะสมไว้ภายในจิตใจจึงเริ่มปะทุออกมา กลายเป็นบุคลิกที่ผิดปกติ เพราะการถูกบีบบังคับ ไม่ยอมรับในตัวตนของตัวเอง ผลกระทบจากครอบครัวและสังคม ทำให้คิมจียองเกิดการไม่ยอมรับตัวเอง มองไม่เห็นคุณค่าของตัวเอง และสะท้อนออกมาเป็นการแสดงบุคลิกของคนอื่น คล้าย ๆ กับการถูกสิง ซึ่งในทางจิตวิทยาสามารถที่จะอธิบายสิ่งที่เกิดขึ้นได้ สิ่งที่คิมจียองเป็น คือการสะท้อนให้เห็นถึงปัญหาที่สะสมมานาน โชคดีที่คิมจียอง มีสามีที่รักและเข้าใจ และพยายามช่วยเยียวยา แก้ไขปัญหา 

       ผู้หญิงทุกคนล้วนเคยได้รับการปฏิบัติที่ไม่เป็นธรรม เสมือนหนึ่งว่าเป็นพลเมืองชั้นสอง ไม่มีโอกาสได้รับโอกาส และการปฏิบัติที่ดีเหมือนอย่างที่ผู้ชายได้รับ ทั้งๆ ที่สิ่งที่ผู้หญิงต้องแบกรับ ทั้งภาระในการดูแลบ้าน ภาระในการเลี้ยงดูลูกให้กลายเป็นประชากรที่มีคุณภาพรุ่นต่อไป สิ่งเหล่านี้เป็นสิ่งที่มีคุณค่าและยิ่งใหญ่ เป็นผู้ปิดทองหลังพระที่แท้จริง แม้จะหนักและเหนื่อย แต่ผลตอบแทนที่ได้รับกลับไม่เหมาะสม ในยุคหนึ่งที่การท้องลูกผู้หญิงกลายเป็นเหตุผลที่สามารถทำแท้งได้ เหตุผลในการทำแท้งแค่กำลังตั้งท้องลูกผู้หญิง และแม่อยากมีลูกผู้ชาย จึงต้องทำแท้ง เพื่อท้องใหม่และหวังจะได้ลูกผู้ชาย 

       ผู้หญิงได้รับการปฏิบัติที่ไม่เป็นธรรม แต่บางครั้งคนที่ปฏิบัติกลับเป็นผู้หญิงด้วยกัน ทุกอย่างที่เกิดขึ้นตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน ถึงเวลาแล้วยังที่ทุกคนควรหันมามอง และปรับปรุงสังคมใหม่ ให้ผู้ชายและผู้หญิงได้รับการปฏิบัติที่เท่าเทียมกัน ผู้หญิงเข้าใจในบทบาทและสิทธิ์ของตัวเอง สามารถภาคภูมิใจในความเป็นผู้หญิง เห็นคุณค่าของตัวเอง เป็นตัวของตัวเองได้อย่างเต็มที่

คลิกเครื่องหมาย + เพื่อดูข้อมูลเพิ่มเติม คลิกเครื่องหมาย - เพื่อซ่อนข้อมูล

CallnumberFic. ช936ค 2563
Authorโช, นัมจู
Titleคิมจียอง เกิดปี 82 / โชนัมจู เขียน ; ตรองสิริ ทองคำใส แปล
Editionพิมพ์ครั้งที่ 4
Publishedกรุงเทพฯ : เอิร์นเนส พับลิชชิ่ง, 2563
Detail191 หน้า ; 18 ซม
Added Authorตรองสิริ ทองคำใส

สงครามชีวิต

      นิยายการนำเสนอเรื่องราว การเขียนจดหมายตอบโต้กันของหนุ่มสาวสองคน บ้างเรียกว่านี่เป็นนิยายในรูปแบบจดหมาย เป็นจดหมายโต้ตอบกันระหว่าง ระพินทร์ ยุทธศิลป์ ชายหนุ่มผู้ยากจนกับ เพลิน หญิงสาวผู้เคยมีอดีตอันเรืองโรจน์ หากแต่ตกยากในห้วงปัจจุบัน
       แท้จริงแล้ว นิยาย สงครามชีวิตเป็นเรื่องราวความรักของหนุ่มสาวที่ไม่สมหวังในรักอย่างเช่นนิยายแนว จินตนิยม ทั่วไป หากแต่มันถูกรังสรรค์ขึ้นโดยนักเขียนผู้มีความสามารถเป็นเอกอุดังเช่น ศรีบูรพา ผู้เปรียบเสมือนจอมทัพแห่งวรรณกรรมสมัยใหม่ของไทย จากเรื่องรักที่ไม่สมหวังธรรมดา จึงไม่ธรรมดาขึ้นมาด้วยเนื้อหาที่เขานำเสนอและสอดแทรกเอาไว้ในทุกบรรทัด

คลิกเครื่องหมาย + เพื่อดูข้อมูลเพิ่มเติม คลิกเครื่องหมาย - เพื่อซ่อนข้อมูล

CallnumberFic. ศ463ส 2564
Authorศรีบูรพา
Titleสงครามชีวิต / ศรีบูรพา
Editionพิมพ์ครั้งที่ 19
Publishedนนทบุรี : ศรีปัญญา, 2564
Detail247 หน้า ; 23 ซม
Abstractหนังสือ “สงครามชีวิต” บทวิจารณ์สังคมในรูปแบบนิยายเล่มแรกๆ ของ “ศรีบูรพา” ผลงานอันเลื่องลือที่เป็นที่กล่าวขานและจดจำกันจนถึงปัจจุบัน เป็น 1 ในไม่กี่เล่มที่ถือเป็นงานเขียนของ “ศรีบูรพา” ที่เราต้องอ่าน เพื่อนที่จะพบว่าแท้จริงแล้วภาพแห่งชีวิตของสังคมในอดีตเป็นอย่างไร และเมื่อนำมาเปรียบเทียบกับปัจจุบันแล้วมันมีพัฒนาการ แตกต่างหรือเหมือนกันเช่นไร กล่าวกันว่า นี่คืองานเล่มแรกๆ ที่ศรีบูรพากล้าจะวิจารณ์ปัญหาสังคมและกล่าวถึงความเสมอภาคของความเป็นมนุษย์รวมไปถึงวิจารณ์ถึงประเพณีบางอย่างที่ล้าสมัย ได้รับการตีพิมพ์ครั้งแรก ก่อนการเปลี่ยนแปลงการปกครอง 2475 เพียงไม่ถึงหนึ่งเดือน
Subject
Subject
Added Authorกุหลาบ สายประดิษฐ์, 2448-2517

วอลเดน

    นำเสนอเรื่องราวการใช้ชีวิตของธอโรในช่วงเวลาที่เขาอาศัยอยู่ที่กระท่อมที่สร้างขึ้นด้วยตัวเองบริเวณชายป่าริมบึงน้ำวอลเดน เมืองคองคอร์ด รัฐแมสซาชูเซ็ทส์ ซึ่งเป็นที่ดินของ ราล์ฟ วอลโด อีเมอร์สัน กวีผู้มีชื่อเสียง เพื่อนของธอโร ธอโรไม่ได้มีจุดประสงค์เพีงในการใช้ชีวิตอย่างสันโดษ ขณะที่เขาพักอยู่นั้นเขาได้ต้อนรับผู้มาเยือนและออกไปเยี่ยมผู้อื่น และอยู่ไม่ไกลจากบ้านของครอบครัว สั่งที่เขาหวังคือ การทำความเข้าใจชีวิตอย่างเป็นรูปธรรม การใช้ชีวิตอย่างเรียบง่าย และไม่ฟุ่มเฟือย เป็นสิ่งที่เขาต้องการ

คลิกเครื่องหมาย + เพื่อดูข้อมูลเพิ่มเติม คลิกเครื่องหมาย - เพื่อซ่อนข้อมูล

CallnumberFic. ธ5ว 2562
Authorธอโร, เฮนรี่ เดวิด, ค.ศ.1817-1862
Titleวอลเดน = Walden / เฮนรี่ เดวิด ธอโร เขียน ; สุริยฉัตร ชัยมงคล แปล
Editionพิมพ์ครั้งที่ 5
Publishedกรุงเทพฯ : ทับหนังสือ, 2562
Detail393 หน้า : ภาพประกอบ ; 21 ซม
Subject
Subject
Subject
Added Authorสุริยฉัตร ชัยมงคล

เล่นแร่แปลภาพ : ประวัติศาสตร์สยามจากเบื้องหลังภาพถ่าย

     เมื่อวัฒนธรรมสมัยใหม่จากตะวันตกแพร่เข้ามายังสยาม ชนชั้นนำที่มุ่งแสวงหาความศิวิไลซ์ได้ใช้เทคโนโลยีการถ่ายภาพบันทึกเรื่องราวต่าง ๆ ไว้ เพื่อเป็นหลักฐานยืนยันถึงการเข้าสู่สมัยใหม่ของสยาม

    “เล่นแร่แปลภาพ ประวัติศาสตร์สยามจากเบื้องหลังภาพถ่าย” เล่มนี้ เป็นผลงานหนังสือเล่มแรกของ “นักรบ มูลมานัส” ศิลปินคอลลาจผู้มีผลงานเป็นเอกลักษณ์ จะพาผู้อ่านสืบ เสาะ ส่องภาพถ่ายเก่าในสยามที่เต็มไปด้วยความสัมพันธ์อันสลับซับซ้อนกับโลกตะวันตก ทั้งภาพถ่ายร่างกายมนุษย์ในอิริยาบถต่าง ๆ วัตถุใกล้ตัว และสถาปัตยกรรมอันโอ่อ่า ซึ่งล้วนแต่แฝงความนัยไว้ให้ลองเข้าไปค้นหา

    ยังมีการรวบรวมภาพเก่าเชื่อมโยงประวัติศาสตร์ ไปกับวัฒนธรรม วรรณคดี ศิลปะ และการออกแบบ แสดงความเชื่อมโยงของการเข้าสู่สมัยใหม่ของสยาม

ภายในเล่ม

  บทนำ “เวทมนตร์” ของการมองการเมืองบนเรือนกาย

1. สำรวจรอยยิ้มในภาพถ่าย : จากหน้านิ่งในภาพโบราณ สู่ยิ้มเบิกบานในภาพเซลฟี่

2. “แต่งร่างอย่างใหม่แม้น ยุรเปียน” ” รัชกาลที่ 5 กับบทบาทหลากหลายในงานแฟนซี

3. อัตลักษณ์ในเรือนผม : พระเกศาเจ้าดารารัศมี กับอำนาจของความเป็นอื่น

4. คนแปลก/คนโปรด : ภาพถ่าย “คนป่า” ในดง “ผู้เจริญ” ศิวิไลซ์ในวัตถุ

5. อำนาจของการนั่ง : เก้าอี้ฝรั่งกับการเข้าสู่สมัยใหม่ของสยาม

6. ความตายในภาพถ่าย : ทรงจำของทรงจำแห่งยุควิกตอเรีย สัญญะ ณ สถาปัตย์

7. วิหารแห่งรัฐสมบูรณาญาสิทธิราชย์ : เบื้องลึกเบื้องหลังพระที่นั่งอนันตสมาคม

8. ประวัติศาสตร์เสียจริต : พิจารณา “หลังคาแดง” สำรวจ “ความบ้า”

9. จากเวนิสสู่สยาม : นัยสำคัญ เบื้องหลังสถาปัตย์ทำเนียบรัฐบาลไทย

บทส่งท้าย ความสมจริงที่ถูกจัดแจง

คลิกเครื่องหมาย + เพื่อดูข้อมูลเพิ่มเติม คลิกเครื่องหมาย - เพื่อซ่อนข้อมูล

CallnumberTR113.T48 น62ล 2565
Authorนักรบ มูลมานัส
Titleเล่นแร่แปลภาพ : ประวัติศาสตร์สยามจากเบื้องหลังภาพถ่าย / นักรบ มูลมานัส
Publishedกรุงเทพฯ : มติชน, 2565
Detail(13), 290 หน้า : ภาพประกอบสี, ตาราง ; 22 ซม
Table of contentการเมืองบนเรือนกาย — ศิวิไลซ์ในวัตถุ — สัญญะ ณ สถาปัตย์
Abstractหนังสือเล่มนี้จะพาไปชมภาพถ่ายเก่าในสยามที่เต็มไปด้วยความสัมพันธ์อันซับซ้อนกับโลกตะวันตกทั้งภาพถ่าย ร่างกายมนุษย์ วัตถุใกล้ตัวและสถาปัตยกรรมซึ่งล้วนแฝงไปด้วยความนัยให้ค้นหา
Subject
Subject

SAPIENS เซเปียนส์ ประวัติศาสตร์ฉบับกราฟิก: กำเนิดมนุษยชาติ 1

  •         เซเปียนส์ : ประวัติศาสตร์ฉบับกราฟิก ล. 1 ตอนกำเนิดมนุษยชาติ  เป็นผลงานระหว่างยูวัลร่วมกับเดวิด แวนเดอร์มิวเลน (David Vandermeulen), แดเนียล คาสซาเนฟ (Daniel Casanave) สองนักวาดการ์ตูนจากยุโรป และผู้เชี่ยวชาญจากหลายสาขาที่ช่วยกันสร้างสรรค์ผลงานเล่มนี้ขึ้นมา 

            เมื่อหนึ่งแสนปีที่แล้ว เคยมีมนุษย์ถึง 6 สายพันธุ์อาศัยบนโลก แต่ทุกวันนี้เหลือเพียงสายพันธุ์เดียว “โฮโมเซเปียนส์” เกิดอะไรขึ้นกับมนุษย์กลุ่มอื่น และจะเกิดอะไรขึ้นกับพวกเรา…เป็นครั้งแรกของหนังสือภาพสี ที่ดัดแปลงจากหนังสือสะเทือนโลกของนักประวัติศาสตร์ชื่อดังอย่าง “ยูวัล โนอาห์ แฮรารี” ที่จะมาเล่าเรื่องราวของจุดกำเนิดและวิวัฒนาการของเผ่าพันธุ์มนุษย์ พาไปสำรวจว่า ชีววิทยากับประวัติศาสตร์ช่วยนิยามและเสริมสร้างความเข้าใจเกี่ยวกับ “มนุษย์” มากเพียงใด ตั้งแต่บทบาทของมนุษย์ในนิเวศวิทยาไปจนถึงการผงาดขึ้นมาของจักรวรรดิต่าง ๆ
             “เซเปียนส์” ท้าทายพวกเราให้กันกลับมาทบทวนความคิดเดิม ๆ เสียใหม่ เชื่อมโยงพัฒนาการในอดีตเข้ากับปัญหาของโลกปัจจุบัน และมองเหตุการณ์หนึ่งด้วยภาพรวมความคิดที่ใหญ่ขึ้น พร้อมข้อความที่อ่านง่าย ภาพประกอบสวยงามทั้ง 245 หน้า 

คลิกเครื่องหมาย + เพื่อดูข้อมูลเพิ่มเติม คลิกเครื่องหมาย - เพื่อซ่อนข้อมูล

CallnumberCB113.T5 ฮ84ซ 2564
Authorแฮรารี, ยูวัล โนอาห์
Titleเซเปียนส์ : ประวัติศาสตร์ฉบับกราฟิก. เล่ม 1, กำเนิดมนุษยชาติ = Sapiens : the birth of humankind. Volume 1 / ยูวัล โนอาห์ แฮรารี, เดวิด แดเนียลส์ ; นำชัย ชีววิวรรธน์ แปล
Publishedกรุงเทพฯ : ยิปซี กรุ๊ป, 2564
Detail245 หน้า ภาพประกอบ, แผนที่ ; 24 ซม
Noteแปลจาก : Sapiens : a graphic history
Abstractการเดินทางกลับไปยังประวัติศาสตร์ยุคดิบเถื่อน วิวัฒนาการของมนุษย์ที่มาในรูปแบบรายการเกมโชว์แบบเรียลลิตีสำรวจการเผชิญหน้าครั้งแรกระหว่างเซเปียนส์และนีแอนเดอร์ธัลส์ผ่านผลงานชิ้นเอกของศิลปะสมัยใหม่รวมถึงการสูญพันธุ์ของแมมมอธและเสือเขี้ยวดาบที่บอกเล่าใหม่ในรูปแบบของภาพยนตร์เบื้องหลังเหตุฆาตกรรม
Subject
Subject
Subject
Subject
Subject
Added Authorนำชัย ชีววิวรรธน์
Added Authorแดเนียลส์, เดวิด

เซเปียนส์ : ประวัติศาสตร์ฉบับกราฟิก ล. 2 เสาหลักแห่งอารยธรรม

  •       “เซเปียนส์ ประวัติศาสตร์ฉบับกราฟิก เล่ม 2 เสาหลักแห่งอารยธรรม  เล่มนี้ บอกเล่าเรื่องราวว่า “โฮโมเซเปียนส์” เปลี่ยนจากชนเผ่าเร่ร่อนกลายเป็นผู้ตั้งรกราก และเริ่มต้นทำงานหนักมากขึ้นเรื่อย ๆ โดยไม่เคยมีชีวิตที่ดีขึ้นเป็นการตอบแทน มาหาคำตอบกันว่าข้าวสาลีขึ้นครองโลกได้อย่างไร การสมรสที่ไม่น่าเป็นไปได้ระหว่างพระเจ้ากับข้าราชการ สร้างจักรวรรดิแรกขึ้นได้อย่างไร สงคราม, ความอดอยาก, โรคภัย และความไม่เท่าเทียม ได้กลายมาเป็นส่วนหนึ่งของสภาวะแวดล้อมของมนุษย์ได้อย่างไร และเหตุใดผู้ที่เราอาจจะตำหนิได้ก็มีแต่ตัวพวกเราเอง

            หนังสือกราฟิกชุดนี้นำเรื่องราวของมนุษยชาติมาเล่าใหม่ได้อย่างมีสีสัน เปี่ยมไหวพริบ และลึกซึ้งถึงรากฐาน โดยดัดแปลงมาจากหนังสือ “เชเปียนส์ : ประวัติย่อมนุษยชาติ” ของ “ยูวัล โนอาห์ แฮรารี” 

คลิกเครื่องหมาย + เพื่อดูข้อมูลเพิ่มเติม คลิกเครื่องหมาย - เพื่อซ่อนข้อมูล

CallnumberCB113.T5 ฮ84ซ 2565
Authorแฮรารี, ยูวัล โนอาห์
Titleเซเปียนส์ : ประวัติศาสตร์ฉบับกราฟิก. เล่ม 2, เสาหลักแห่งอารยธรรม = Sapiens : a graphic history – the pillars of civilization. Volume 2 / ยูวัล โนอาห์ แฮรารี, เดวิด แดเนียลส์ ; นำชัย ชีววิวรรธน์ แปล
Publishedกรุงเทพฯ : ยิปซี กรุ๊ป, 2565
Detail252 หน้า ภาพประกอบ, แผนที่ ; 24 ซม
Noteแปลจาก : Sapiens : a graphic history
Abstractการเดินทางกลับไปยังประวัติศาสตร์ยุคดิบเถื่อน วิวัฒนาการของมนุษย์ที่มาในรูปแบบรายการเกมโชว์แบบเรียลลิตีสำรวจการเผชิญหน้าครั้งแรกระหว่างเซเปียนส์และนีแอนเดอร์ธัลส์ผ่านผลงานชิ้นเอกของศิลปะสมัยใหม่รวมถึงการสูญพันธุ์ของแมมมอธและเสือเขี้ยวดาบที่บอกเล่าใหม่ในรูปแบบของภาพยนตร์เบื้องหลังเหตุฆาตกรรม
Subject
Subject
Subject
Subject
Subject
Added Authorแดเนียลส์, เดวิด
Added Authorนำชัย ชีววิวรรธน์
ISBN9786163017376 (ล.2)
Additional titleเสาหลักแห่งอารยธรรม

ประวัติศาสตร์ความอ้วน อิทธิพลของไขมันที่ส่งผลต่อชะตากรรมมนุษยชาติ : Fat A Cultural History Of The Stuff Of Life

  • “อ้วน” เป็นคำที่มีความหมายในเชิงลบ ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน คนอ้วนมักได้รับการปฏิบัติที่ไม่ดี ถูกรังเกียจ ถูกปฏิเสธ ถูกต่อว่าด้วยคำพูดที่แสดงถึงการดูถูก และไม่ให้เกียรติ ในอดีตที่ผ่านมาก็มีเรื่องราวที่แสดงให้เห็นถึงอุปสรรคในการดำเนินชีวิตที่มีต้นเหตุมาจากความอ้วน
  • ความอ้วน ถูกโยงความสัมพันธ์เข้ากับไขมัน เพราะคนที่อ้วนคือคนที่มีไขมันเยอะ คนที่อ้วน มักเป็นโรคหลายๆ โรค และสุขภาพมักไม่แข็งแรง ยิ่งมีทัศนคติที่ให้ความสำคัญกับรูปร่างที่ผอมเพรียว ค่านิยมความสวยถูกผูกติดกับการมีรูปร่างผอมเพรียว มีไขมันน้อย ยิ่งทำให้ความอ้วนกลายเป็นสิ่งที่ไม่ได้รับการยอมรับ
  • ถึงแม้จะมีบันทึกแสดงให้เห็นว่าไขมันไม่ใช่สิ่งที่น่ารังเกียจเสมอไป ร่างกายของเราก็ยังต้องมีไขมัน และต้องใช้ไขมันเพื่อการดำเนินชีวิต ใช้ไขมันเพื่อให้ปฏิกิริยาเคมีภายในร่างกายดำเนินไปได้อย่างสมดุลย์และราบรื่น และยังมีการนำไขมันมาใช้เพื่อกิจกรรมทางการเกษตร และการกีฬาอีกด้วย
  • ถึงแม้ว่าไขมันจะมีประโยชน์ แต่ก็ยังได้รับการยอมรับในระดับน้อย และนอกจากผลเสียที่เกิดกับสุขภาพเพราะไขมันที่มีมากเกินไปแล้ว การมีไขมันมากหรือความอ้วนยังแสดงนัยยะถึงการไม่สามารถควบคุมตัวเองได้อีกด้วย ความอ้วนจึงไม่ใช่ปัญหาพื้นฐานทางกายภาพ และยังสะท้อนถึงเบื้องลึกในจิตใจด้วย
  • ในอดีตความอ้วนเป็นสัญลักษณ์ของความอุดมสมบูรณ์ ความมีกินมีใช้เหลือเฟือ แสดงถึงอำนาจในการเข้าถึงอาหารซึ่งเป็นสิ่งที่หาได้ยาก และค่อนข้างจะขาดแคลน ในยุคหนึ่งความอ้วนจึงเป็นสิ่งที่ได้รับการยอมรับและถูกมองในแง่ดี แต่เมื่อเวลาผ่านไป มีความรู้ใหม่ๆ เกิดขึ้นมากมาย มนุษย์ให้ความสนใจกับเรื่องสุขภาพมากขึ้น ทำให้ทราบว่าความอ้วนมีผลเสียต่อสุขภาพ ทำให้อวัยวะต่างๆ ทำงานได้ไม่ดี ทำให้สุขภาพแย่ลง และมีโอกาสเสียชีวิตก่อนวัยอันควร 
  • ในทางศาสนาและความเชื่อเอง ก็มีแนวคิดต่อต้านความอ้วนและไขมัน บางศาสนาก็มีข้อห้ามในเรื่องการบริโภคไขมัน เพราะมันนำมาซึ่งความยึดติด และไม่สามารถหลุดพ้นจากวิญญาณอันชั่วร้ายได้ เพราะความอ้วนและไขมันถูกผูกติดกับความสกปรก จากประเด็นนี้เป็นสิ่งที่น่าคิดและน่าสนใจว่า ร่างกายและจิตใจถูกมองเป็นหนึ่งเดียวกัน เราไม่สามารถแยกพิจารณาได้ สภาพร่างกายก็มีผลกับจิตใจ และสภาพจิตใจก็ส่งผลต่อร่างกายเช่นกัน หากร่างกายแข็งแรงก็จะมีจิตใจที่เข้มแข็ง หากร่างกายอ่อนแอประสบภาวะอ้วน ก่อให้เกิดความอืดอาด ขี้เกียจ ก็จะส่งผลให้จิตใจซึมเซา ไม่สดใส ไม่แข็งแรงตามไปด้วย
  • ทัศนคติเรื่องการมีกล้ามเนื้อ และความงดงามโดยปราศจากไขมันส่วนเกิน เริ่มได้รับความนิยมและมีแนวโน้มที่ได้รับการยอมรับมากขึ้นเรื่อยๆ เพราะการมีร่างกายที่มีกล้ามเนื้อที่แข็งแรง ทำให้เกิดความคล่องแคล่ว กระฉับกระเฉง ดูสง่างาม และแสดงถึงการมีสุขภาพที่แข็งแรง มากกว่าคนที่อ้วน และเคลื่อนไหวเชื่องช้า อืดอาด ดูไม่น่ามอง 

คลิกเครื่องหมาย + เพื่อดูข้อมูลเพิ่มเติม คลิกเครื่องหมาย - เพื่อซ่อนข้อมูล

CallnumberBF636.A2 ค9น 2565
Authorโคชิคาวะ, ชินจิ
Titleนิสัยคนเก่งระดับท็อป 5% ที่ AI ค้นพบ = Habits of the top 5% according to AI / ชินจิ โคชิคาวะ, เขียน ; อาคิรา รัตนาภิรัต, แปล
Publishedกรุงเทพฯ : อมรินทร์ฮาวทู อมรินทร์พริ้นติ้ง แอนด์ พับลิชชิ่ง, 2565
Detail190 หน้า : ภาพประกอบ ; 21 ซม
Table of contentกฎ 5 ข้อของ “พนักงานระดับท็อป 5%” ที่สรุปได้จากการวิเคราะห์ด้วย AI –ความเข้าใจผิดของ “พนักงานทั่วไป 95%” ที่ทำไปเพราะคิดว่าเป็นเรื่องดี –แนวคิดและสไตล์การทำงานของ “พนักงานระดับท็อป 5%” –คำพูดติดปากของ”พนักงานระดับท็อป 5%” ที่สร้างทีมให้แข็งแกร่ง — นิสัยลงมือทำทันทีของ”พนักงานระดับท็อป 5%” — กิจวัตรของ “พนักงานระดับท็อป 5%”ที่ทำตามได้เลยตั้งแต่วันนี้
Abstractไม่ใช่เรื่องของพรสวรรค์ ปัญญาประดิษฐ์ที่ก้าวล้ำพบว่าพฤติกรรมเล็ก ๆ น้อย ๆ ทำให้พนักงานระดับท็อป 5% ทำงานดีและเร็วแบบทิ้งห่างจากพนักงานทั่วไปอีก95% อย่างไม่น่าเชื่อ ซึ่งคุณเองก็ทำได้เช่นกันมาดูกันว่าด้วยข้อมูลและพลังการประมวลผลที่เหนือชั้น AIสุดอัจฉริยะพบความเชื่อมโยงอะไรในบรรดาคนเก่ง
Subject
Subject
Added AuthorKoshikawa, Shinji
Added Authorอาคิรา รัตนาภิรัต

ภาษาจักรวาล: ประวัติย่อของคณิตศาสตร์

     “กีปู (Quipu) ระบบจำนวนเก่าแก่ ถูกสร้างขึ้นโดยชาวเผ่าอินคาโบราณตาวหนึ่งพันปีก่อน แต่ในปี ค.ศ. 2005 มีการค้นพบกีปูที่เก่าแก่ราว 3,000 ปี ก่อนคริสตกาลที่เมืองแครอล ประเทศเปรู” (หน้า 13)

        พาไปสำรวจโลกคณิตศาสตร์ เรียนเนื้อหาด้วยคณิตศาตร์ด้วยประวัติศาสตร์ ใครที่ไม่ชอบเรียนทั้งคณิตศาสตร์และประวัติศาสตร์ ลองหยิบมาอ่านดู จะรู้ว่าคณิตศาสตร์น่าใจและสนุกมาก คณิตศาสตร์อยู่รอบตัวเรา เป็นแหล่งกำเนิดอารยธรรม (ระบบเลขฐาน 60 ของบาบิโลน) มนุษย์ใช้คณิตศาสตร์บรรยายธรรมชาติ (ชาวอียิปต์โบราณเป็นชนชาติแรกที่ประดิษฐ์นาฬิกาแดดขึ้นใช้งานสังเกตดวงอาทิตย์) มนุษย์เขียนประวัติศาสตร์ในรูปของคณิตศาสตร์ (สัดส่วนทองคำเป็นหนึ่งในความงามของเอกภพ ทุกวันนี้นักประวัติศาสตร์ พยายามหาสี่เหลี่ยมผืนผ้าทองคำที่แผงอยู่ในงานศิลปะ สถาปัตยกรรม เช่น วิหารพาร์เธนอน โมนาลิซ่า “กอร์บูซิย์ ก็นำแนวคิดเรื่องสัดส่วนทองคำมาใช้อธิบายสัดส่วนของมนุษย์ที่เรียกว่า Modulor”) นักวิทยาศาสตร์ไม่น้อยจึงเชื่อว่าคณิตศาสตร์อาจเป็นภาษาที่มีความสากลที่สุดในเอกภพ คือชื่อของหนังสือเล่มนี้นั่นเอง

“Rhumb Line คือ เส้นทางที่ทำมุมค่าเดิมเสมอกับเส้นลองติจูด ซึ่งถ้าเราลาก Rhumb Line ให้ยาวออกไปเรื่อย ๆ มันจะวิ่งไปยังขั้วโลกเหนือ หรือใต้ขึ้นอยู่กับทิศทางที่มุ่งหน้า” (หน้า 105)

“Rhumb Line ถือกำเนิดขึ้นจากนักคณิตศาสตร์และนักภูมิศาสตร์ขาวโปรตุเกสนามว่า เปโดต นูเนส” (หน้า 105)

อ่านแล้วจะเข้าใจคณิตศาสตร์พร้อมกับเรียนรู้ที่มา และเรียนรู้ประวัติศาสตร์ไปพร้อมกัน อ่านจบจะไม่งง ว่าสองวิชานี้นำมารวมกันได้อย่างไร และเกี่ยวข้องกับชีวิตประจำวันของมนุษย์อย่างไร 

“เกิดอะไรขึ้น ถ้ามนุษย์ไม่รู้จักจำนวน”

“1729 ตัวเลขที่น่าสนใจ”

”ปัญหา รามานุจัน ที่ไม่มีใครหาคำตอบได้ จนต้องมาเฉลยคำตอบเอง”

คลิกเครื่องหมาย + เพื่อดูข้อมูลเพิ่มเติม คลิกเครื่องหมาย - เพื่อซ่อนข้อมูล

CallnumberQA21 อ62ภ 2565
Authorอาจวรงค์ จันทมาศ
Titleภาษาจักรวาล / อาจวรงค์ จันทมาศ
Editionพิมพ์ครั้งที่ 1
Publishedนนทบุรี : ดราก้อนวอร์, 2565
Detail265 หน้า : ภาพประกอบ ; 21 ซม
Table of contentมนุษย์นับเลขได้ตั้งแต่เมื่อไหร่ — ค่าพายคืออะไร และสำคัญอย่างไร — สงครามแคลคูลัส — ใครเป็นคนคิดการย้ายข้างสมการเป็นคนแรก — จำนวนเฉพาะขนาดใหญ่
Subject
Subject
Subject
Subject

วรรณกรรมและภาษาถิ่นใต้

       รวบรวมองค์ความรู้เกี่ยวกับวรรณกรรม เเละ ภาษาท้องถิ่นภาคใต้ อันได้เเก่ ภูมิหลังภาคใต้ วรรณกรรมมุขปาฐะ วรรณกรรมลายลักษณ์ การศึกษาวรรณกรรมท้องถิ่นภาคใต้เชิงวิเคราะห์วรรณกรรมลายลักษณ์ ภาษาถิ่นใต้ การใช้คำและคำยืมในภาษาถิ่นใต้ สำนวนและความเปรียบในภาษาถิ่นใต้

      โดยในเล่มได้ยกตัวอย่างวรรณกรรมหลายเรื่องที่สะท้อนสภาพสังคมท้องถิ่น เช่น สะท้อนอารมณ์ขันของชาวใต้ การละเล่นที่ฟังดูทะลึ่งในปัจจุบันอย่าง นมยานตีเก้ง ที่เป็นการละเล่นควบคู่กับหัวล้านชนกัน มีคำสอนเเปลกๆ เช่น ลุงสอนหลาน ที่สอนเเบบประชดประชัน เป็นการรักษามรดก วัฒนธรรมไทยไว้ไม่ให้สูญหาย ถึงแม้กาลเวลาจะผ่านมานานสมัย แต่วรรณกรรมและภาษาถิ่นที่นักปราชญ์ยุคอดีตสร้างสรรค์ไว้ยังคงอยู่ 

      วรรณกรรมและภาษาถิ่นใต้ เป็นงานค้นคว้าของนักวิชาการทางด้านภาษาที่มองว่าภาษาในท้องถิ่นภาคใต้ มีความแข็งแรง มีรูปแบบที่มั่นคงและได้รับการสืบทอดตกเป็นมรดกมาจนถึงทุกวันนี้อย่างเป็นระบบ ในหนังสือได้อธิบายถึงองค์ความรู้ของการใช้ภาษาของคนในท้องถิ่นทางใต้ออกมาในเชิงวิชาการ ด้านวรรณกรรม ด้านการสื่อสาร และวรรณกรรมส่วนใหญ่ของภาคใต้เป็นการถ่ายทอดกันด้วยคำพูดมากกว่าการจดบันทึก ที่ทุกเรื่องราวจะสอดแทรกอยู่ในชีวิตประจำวัน เช่น อยู่ในบทสวด อยู่ในการเล่านิทานของผู้ใหญ่ และอยู่ในปริศนาคำทาย รวมไปถึงการละเล่นของคนพื้นเมืองในอดีต

คลิกเครื่องหมาย + เพื่อดูข้อมูลเพิ่มเติม คลิกเครื่องหมาย - เพื่อซ่อนข้อมูล

CallnumberPL4208.5.S72 ป46ว 2559
Authorประพนธ์ เรืองณรงค์
Titleวรรณกรรมและภาษาถิ่นใต้ / ประพนธ์ เรืองณรงค์
Publishedกรุงเทพฯ : สถาพรบุ๊คส์, 2559
Detail404 หน้า : ภาพประกอบ ; 21 ซม
Noteหนังสือได้รับรางวัลชมเชย ประเภทหนังสือสารคดี ประจำปี พ.ศ. 2560
Table of contentภูมิหลังภาคใต้ — วรรณกรรมมุขปาฐะ : บทร้องสำหรับเด็ก ; บทร้องสำหรับเด็ก ; บทเพลงพื้นบ้านสำหรับผู้ใหญ่ ; บทสวนในพิธีกรรม ;ปริศนาคำทาย ; นิทานและตำนานพื้นบ้าน — วรรณกรรมลายลักษณ์ :วรรณกรรมพระพุทธศาสนา ; วรรณกรรมคำสอน ; วรรณกรรมนิทาน ;วรรณกรรมตำนาน ; วรรณกรรมตำรา ; วรรณกรรมพรรณนาอารมณ์ –การศึกษาวรรณกรรมท้องถิ่นภาคใต้เชิงวิเคราะห์ : การศึกษาเรื่องพระวรวงศ์วรรณกรรมพื้นบ้าน จังหวัดสุราษฎร์ธานี : มองหัวเมืองภาคใต้(นครศรีธรรมราช) จากวรรณกรรมภาคใต้ ; มุขตลกในวรรณกรรมภาคใต้ –บางประเด็นในวรรณกรรมท้องถิ่นภาคใต้ :คุณค่าและภูมิปัญญาในวรรณกรรมท้องถิ่นภาคใต้ ; ลุงสอนหลานคำสอนพิสดารในวรรณกรรมท้องถิ่นภาคใต้ :คำสอนหญิงสาวจากวรรณกรรมท้องถิ่นภาคใต้ ; นางพรหมจารีสตรีเก่งในวรรณกรรมท้องถิ่นภาคใต้ — ภาษาถิ่นใต้ :ระบบเสียงในภาษาถิ่นใต้ ; การตัดคำ-การสร้างคำ — การใช้คำ :คำตามหลักภาษาไทย ; การเรียงคำ-ประโยค — คำยืมในภาษาถิ่นใต้ :ลักษณะคำยืมในภาษาถิ่นใต้ ; ตัวอย่างคำยืม –สำนวนและความเปรียบในภาษาถิ่นใต้ : สำนวนในภาษาถิ่นใต้ ;ความเปรียบเทียบในภาษาถิ่นใต้
Subject
Subject
Subject
Subject

กลายเป็นมลายู : บทสำรวจ อัตลักษณ์ในรัฐไทยการค้นหาความหมายแห่งตัวตน

  • กลายเป็น-มลายู ความเป็นมาของคนมลายูในลักษณะที่ข้ามผ่านรูปแบบอันหลากหลาย ขนาดของการขบคิด และมิติเวลา ตลอดจนให้ความสนใจกับสภาวะ สถานะของสังคม วัฒนธรรม และการเมืองที่เริ่มไม่สอดคล้องกับความจริง ถ่ายทอดความเคลื่อนไหวของคนมลายูที่สัมพันธ์กับอุดมการณ์ชาตินิยมไทยและโลกมลายู แสดงให้เห็นว่าทั้งสองสิ่งนี้ดำรงอยู่ร่วมกัน แลกเปลี่ยน ขัดแย้ง เคลื่อนไหว และส่องสะท้อนซึ่งกันและกัน สามารถค้นพบข้อเท็จจริงเชิงประจักษ์มากมายด้วยเรื่องเล่า, ความเชื่อ, พิธีกรรม ตลอดจนจินตนาการและความรู้สึกที่คนมลายูมีต่อโลก บางเรื่องเกินกว่าจะเชื่อถือได้ 
  • กลายเป็น-มลายู อยู่บนพื้นฐานของการทำความเข้าใจและข้อถกเถียงว่าด้วย ความเป็นมลายูในรัฐไทยและความหมายของความเป็นมนุษย์ “มนุษย์มลายู” และ “มนุษย์ไทย” เป็นการตั้งคำถามและข้อถกเถียงระหว่างรุ่น, เพศสภาพ, ชนชั้น, และระดับความภักดีต่อรัฐ 
  • ผู้เขียนชวนสำรวจทำความรู้จักการเป็นอื่น หรือการเป็นมลายู บนดินแดนของรัฐไทย เมื่อพูดถึงความเป็นมลายู หรือที่เรียกโดยภาษาพื้นถิ่นว่า “นายู” (โอแรนายู=คนมลายู) ที่รู้สึกเป็นอื่นในสายตาของการเป็นไทย  คนมลายูใช้ชีวิตแบบมลายูพูดมลายู เลยกลายเป็นอื่นในสายตารัฐไทยมาจนถึงปัจจุบัน สิ่งที่เป็นจริงที่สุดในวันนี้ เราต่างมีความแตกต่างหลากหลาย ทั้งต่อความเชื่อทางศาสนา อุดมการณ์ทางการเมือง หรือชาติพันธุ์ต้นกำเนิด แต่สิ่งที่แน่นอนที่สุดคือเราต่างยืนอยู่ในฐานะมนุษย์เหมือนกัน เท่ากัน จะเป็นอะไรก็แล้วแต่นั้นคือสิ่งที่ทุกคนมีสิทธิ์เป็น เพียงแค่ยึดมั่นบนฐานคิดของความเป็นมนุษย์ ที่เต็มเปี่ยมไปด้วยความหลากหลายร่วมกัน สันติสุขและความสงบสุขก็ไม่ไกลเกินเอื้อม
  • “โลกที่เราเป็นต่างและแปลกแยกมิอาจเปลี่ยนแปลงเราได้ ขณะเดียวกัน การกระทำของเราต่างหากที่ขับเคลื่อนและสร้างโลกที่เราเชื่อย่างเงียบ ๆ” (หน้า 15)

คลิกเครื่องหมาย + เพื่อดูข้อมูลเพิ่มเติม คลิกเครื่องหมาย - เพื่อซ่อนข้อมูล

CallnumberDS570.M85 ศ44ก 2565
Authorศรยุทธ เอี่ยมเอื้อยุทธ
Titleกลายเป็น-มลายู : บทสำรวจอัตลักษณ์ในรัฐไทยและการค้นหาความหมายแห่งตัวตน = Becoming Melayu : exploring ethnic identity in the Thai State and searching for the meaning of self / ศรยุทธ เอี่ยมเอื้อยุทธ เขียน
Publishedกรุงเทพฯ : ยิปซี, 2565
Detail364 หน้า : ภาพประกอบ
Table of contentพรมแดนความรู้ — อัตลักษณ์มลายู รัฐไทยและความรุนแรง — ศาสนา ความรู้สึกและความหลากหลาย
Abstractหนังสือรวมบทความซึ่งถูกเขียนขึ้นมาต่างวาระ และปะทะกับประเด็นปัญหาหรือมีคำถามแตกต่างกันทว่าบทความทุกชิ้นมีจุดสำคัญร่วมกันคือการพยายามเผยให้เห็นถึงโลกอันซับซ้อนของความจริงเชิงประจักษ์ซึ่งถูกอำพรางด้วยมายาคติทางเชื้อชาติและศาสนา พร้อมกับนำมันออกมาพิจารณาใหม่ด้วยวิธีการเช่นนี้แม้มันจะมีความพร่าเลือนบ้างด้วยข้อจำกัดของแนวคิดที่นำมาใช้แต่ภายในกรอบของแต่ละแนวคิดน่าจะมีแสงสว่างปรากฏให้เห็นสิ่งที่ถูกปิดบังอำพรางอย่างยาวนาน
Subject
Subject
Subject
  • รายการหนังสือ ความเป็นไทยและพลเมืองโลก 3 เน้นวรรณกรรมเยาวชน
  • รายการหนังสือ ความเป็นไทยและพลเมืองโลก 3 เน้นเรื่องสั้น
  • รายการหนังสือ ความเป็นไทยและพลเมืองโลก 3 เน้นหนังสือรวมบทความ
  • รายการหนังสือ ความเป็นไทยและพลเมืองโลก 3 เน้นด้านการใช้ภาษาของชาติต่าง ๆ
  • รายการหนังสือ ความเป็นไทยและพลเมืองโลก 3 เน้นด้านประวัติศาสตร์
  • รายการหนังสือ ความเป็นไทยและพลเมืองโลก 3 ยังมีด้านอื่น รวมไปด้วย

        หากน้อง ๆ อยากเสนอแนะหนังสือเพิ่มเติมสำหรับ ความเป็นไทยและพลเมืองโลก 3  ให้พิมพ์ข้อความลงในช่อง Comment ได้เลย 

Visits: 232

Facebook Comments

facebook comments