วันตรุษจีน : เราควรรู้อะไรบ้าง

วันตรุษจีน 2566 — วันตรุษจีน หรือ เทศกาลตรุษจีน —

ถือเป็นวันปีใหม่ของคนจีนทั่วโลก

วันตรุษจีน ในปี 2566 ตรงกับวันอาทิตย์ที่ 22 มกราคม 2566 ถือเป็นหนึ่งในเทศกาลที่สำคัญที่สุดของชาวจีนทั่วโลก ถือเป็นวันขึ้นปีใหม่ตามปฎิทินจีน (คล้ายกับวันสงกรานต์ของไทย) และชาวจีนทุกคนให้ความสำคัญกับวันนี้อย่างมาก มีการหยุดงานเป็นเวลายาว หยุดเรียนในช่วงนี้ ในวันตรุษจีนหน่วยงานห้างร้านต่างจะหยุดงานเป็นเวลา 3-4 วัน เพื่อตระเตรียมจัดงานปีใหม่นี้ คล้ายกับวันคริสต์มาสของชาวตะวันตก หรือวันสงกรานต์ของบ้านเรา ชวนอ่าน บทความนี้กัน

วันตรุษจีน มีเรื่องอะไรที่เราต้องรู้บ้าง

วันตรุษจีน

ของไหว้และความหมายมงคล

 (拜年用品及其含义bainian yongpin ji qi hanyi)

ของไหว้ที่ใช้ในการไหว้เจ้าไหว้บรรพบุรุษในเทศกาลตรุษจีน  ตามหลักธรรมเนียมประเพณีแบบดั้งเดิมนั้น ซึ่งของทุกชนิดที่ใช้ในการไหว้เจ้าไหว้บรรพบุรุษนี้ก็ได้แฝงไปด้วยความหมายในตัวเองอยู่อย่างลึกซึ้ง สามารถแบ่งได้เป็น 4 ประเภทหลัก ๆ ได้แก่ อุปกรณ์ อาหาร ขนม  และผลไม้

อุปกรณ์  ได้แก่ เทียนแดงขาไม้ 1 คู่ ลวดลายหงส์หรือมังกร ธูป ปะทัด กระดาษเงิน กระดาษทอง กระดาษสีเหลือง เครื่องแต่งกาย ถังเงินถุงทอง แบงค์กงเต็ก เป็นต้น ในปัจจุบันใน ผู้ประกอบการธุรกิจกระดาษไหว้เจ้าก็ได้มีการพัฒนาผลิตภัณฑ์ให้ทันยุคทันสมัยมากขึ้น มีการผลิตกระดาษให้ออกมาในรูปแบบเสื้อผ้า รองเท้า แหวน สร้อยคอ นาฬิกา บ้าน รถยนต์ บัตรเครดิต โทรศัพท์มือ  เพื่อเป็นการเพิ่มมูลค่าและตอบโจทย์ความต้องการของโลกยุคปัจจุบัน

าหาร  ซึ่งเป็นทั้งอาหารคาวและอาหารหวาน แบ่งเป็นประเภทหลักได้ 2  ประเภท ได้แก่ ซาแซ (三牲) และ โหงวแซ (五牲)

       ซาแซ (三牲)   การไหว้ด้วยอาหารคาว   3 อย่าง คือ หมู ไก่ และเป็ด

       โหงวแซ (五牲) การไหว้ด้วยอาหารหวาน 5 อย่าง คือ หมู ไก่ เป็ด ปลา และตับ 

ขนม  ขนมที่นิยมนํามาไหว้  ได้แก่

         ขนมเข่งและขนมเทียน หมายถึง ความราบรื่น ความหวานชื่นในชีวิตที่สมบูรณ์แบบ  

         ซาลาเปา หมายถึง การห่อโชคห่อลาภ

         ขนมไข่ หมายถึง การเจริญเติบโต

         ขนมสาลี่และขนมถ้วยฟู หมายถึงความเจริญรุ่งเรืองเฟื่องฟู 

         ขนมจันอับ เป็นขนมแห้ง 5 คือ ถั่วเคลือบ ถั่วตัด งาตัด ข้าวพอง และฟักเชื่อม หมายถึง ความหวานที่เพิ่มพูน ความเจริญงอกงาม มีความสุขตลอดปีตลอดไป

ผลไม้

         ส้ม หมายถึง โชคลาภ ความสวัสดีมหามงคล

         กล้วย หมายถึง กวักโชคกวักลาภเข้ามา ส่วนใหญ่แล้วจะนิยมไหว้ทั้งหวี แบบดิบสีเขียว 

         องุ่น หมายถึง ความเจริญงอกงาม ความเพิ่มพูน ความเจริญก้าวหน้าในหน้าที่การงาน

         สับปะรด หมายถึง เรียกโชคลาภเข้าตัว

         แอปเปิ้ล หมายถึง ความสงบสุข สันติสุข

         แก้วมังกร หมายถึง ความอุดมสมบูรณ์ การมีโชคลาภ 

         สาลี่ หมายถึง ความมั่นคง การพบเจอโชคลาภและสิ่งดี ๆ ในชีวิต

         พลับ   หมายถึง ความยั่งยืน ความมั่นคง หนักแน่น สามารถผ่านพ้นอุปสรรคต่าง ๆ ไปได้อย่างราบรื่น

         ทับทิม  ชาวจีนมีความเชื่อกันว่า ทับทิมเป็นไม้มงคล ใบหรือกิ่งทับทิมก็มีอำนาจไล่ภูตผีปีศาจ

วันตรุษจีน สำคัญอย่างไร

(春节的重要性  Chunjie de zhongyaoxing)

          เทศกาลตรุษจีนได้ถือเอาเริ่มต้นฤดูใบไม้ผลิ หรือ ชุนเทียน (春天) ที่ตรงกับวันขึ้น 15 ค่ํา เดือนอ้าย (正月) เรียกกันติดปากว่า ชิวอิก (初一) เป็นวันเริ่มต้นปีใหม่ ในช่วงระหว่างเดือนมกราคม หรือเดือนกุมภาพันธ์ของทุกปี  เป็นช่วงที่พืชพรรณนานาชนิดมีการผลิดอกออกผลออกใบใหม่ รวมถึงอากาศที่เย็นสบาย สดชื่นกําลังดีไม่หนาวหรือร้อนจนเกินไป เหมาะสำหรับการเริ่มต้นชีวิตใหม่ หรือสิ่งใหม่ ๆ คนจีนจึงถือคตินี้ เริ่มต้นอะไรใหม่ ๆ ในชีวิต เช่น การสวมใส่เสื้อผ้าชุดใหม่ ซึ่งส่วนใหญ่แล้วจะเป็นโทนสีแดงเป็นการเสริมสิริมงคลตามความเชื่อของชาวจีนในช่วงเทศกาลตรุษจีน  การปัด กวาด เช็ดถูบ้าน ให้ใหม่สะอาด เป็นต้น  นอกจากนั้นยังเป็นช่วงเวลาสําคัญที่ทุกคนในครอบครัวจะได้กลับมาอยู่ด้วยกันแบบพร้อมหน้าพร้อมตา ได้สานสัมพันธ์อันดีในครอบครัว และระหว่างญาติมิตรด้วยกันอีกด้วย ซึ่ง วันตรุษจีนปี 2566 ตรงกับวันอาทิตย์ที่ 22 มกราคม (ปีเถาะหรือปีกระต่าย – Year of the Rabbit)

เทศกาลตรุษจีน หรือ วันตรุษจีน  ภาษาอังกฤษ ใช้คำว่า

  • Chinese New Year
  • Spring Festival
  • Lunar New Year

         วันตรุษจีนยังเป็นที่รู้จักในชื่อ “เทศกาลฤดูใบไม้ผลิ” เนื่องจากเป็นการเฉลิมฉลองการสิ้นสุดฤดูหนาวและการเริ่มต้นของฤดูใบไม้ผลิผู้คนนิยมสักการะเทพเจ้าและบรรพบุรุษเพื่อขอพรให้พืชผลทางการเกษตรเจริญงอกงาม ถือเป็นงานเฉลิมฉลองที่สำคัญที่สุดในปฏิทินจีน โดยเป็นการฉลองขึ้นปีใหม่ เปรียบได้กับการฉลองในช่วงเทศกาลสงกรานต์ของไทย   และจัดเป็นวันหยุดตามประเพณีในประเทศจีน

           การมอบอั่งเปา (ซองสีแดง) เป็นธรรมเนียมที่ชาวจีนนิยมมอบให้กันในเทศกาลหรือวันสำคัญต่าง ๆ รวมถึงวันตรุษจีน

          ผู้คนเชื้อสายจีนนิยมนำอาหาร ขนม หรือผลไม้มงคลมาเซ่นไหว้เทพเจ้าและบรรพบุรุษชาวไทยเชื้อสายจีนนิยมถือประเพณีปฏิบัติในเทศกาลตรุษจีนโดยแบ่งออกเป็น 3 วัน ได้แก่ วันจ่าย   วันไหว้ และวันเที่ยว

วันสำคัญตรุษจีน ปี 2566 Year of the Rabbit  คือ วันจ่าย วันไหว้ วันเที่ยว

—————————————-

วันจ่าย 20 มกราคม 2565

—————————————-

      วันจ่าย คือ วันก่อนวันสิ้นปีก่อนถึงตรุษจีน เป็นวันที่ชาวไทยเชื้อสายจีนจะต้องออกไปจับจ่าย ซื้อของ ไม่ว่าจะเป็นอาหาร ผลไม้ และเครื่องเซ่นไหว้ต่างๆ ก่อนที่ร้านค้าเหล่านั้นจะปิดร้านเพื่อหยุดพักผ่อนยาว รวมถึงไม่จำเป็นต้องจุดธูปเพื่ออัญเชิญเจ้าที่ (ตี่จู้เอี๊ย) ให้ลงมาจากสวรรค์เพื่อรับการสักการะบูชาของเจ้าบ้าน หลังจากที่ได้ไหว้อัญเชิญขึ้นสวรรค์เมื่อ 4 วันก่อน เพราะเจ้าไม่ได้เดินทางไปที่ไหนเมื่อ 4 วันที่แล้ว

—————————————

วันไหว้ 21 มกราคม 2566

————————————–

วัน ไหว้ตรุษจีน เป็นวันที่เราจะทำการไหว้เทพเจ้าต่างๆ ด้วยอาหาร ผลไม้ และเครื่องเซ่นไหว้ที่เตรียมไว้ ตามฤกษ์การไหว้เทพเจ้าให้เฮง

—————————————-

วันเที่ยว 22 มกราคม 2566

—————————————-

วันเที่ยว ก็คือ “วันตรุษจีน” หรือวันปีใหม่จีน หรือเรียกว่า วันถือ” ด้วย โดยทุกคนจะแต่งกายด้วยเสื้อผ้าที่สวยงาม พากันออกไปท่องเที่ยว และไปไหว้ขอพรญาติผู้ใหญ่ รวมถึงงดการทำบาปทั้งปวงด้วย เพราะถือว่าเป็นวันแห่งสิริมงคล    

วันตรุษจีน

ขั้นตอนการไหว้เจ้าไหว้บรรพบุรุษในเทศกาลตรุษจีน

Lantern Festival

(拜年拜祖先的阶段bainian de jieduan)

          การเฉลิมฉลองเทศกาลตรุษจีน ชาวไทยเชื้อสายจีนได้แบ่งช่วงเวลาทั้งสิ้นออกเป็น 3 วัน ได้แก่ วันจ่าย (วันก่อนสิ้นปี) วันไหว้ (วันสิ้นปี) และวันเที่ยว (วันขึ้นปีใหม่) ถือเป็นวันที่มีพิธีกรรมมากที่สุด หากยึดตามประเพณีดั้งเดิม 

        การเตรียมของไหว้ เป็นวันที่ต้องตระเตรียมจับจ่ายใช้สอยข้าวของเครื่องใช้ที่จะนํามาไหว้เทพเจ้า บรรพบุรุษ และผีไร้ญาติ ผู้ไหว้จะต้องเตรียมให้พร้อมทั้งอาหารคาว-หวาน ผลไม้ เหล้า น้ําชา รวมไปถึงกระดาษเงินกระดาษทองก็จะต้องพับไว้ให้เรียบร้อย

วันตรุษจีน
วันตรุษจีน
วันตรุษจีน

ความเชื่อและข้อห้ามเกี่ยวกับเทศกาลตรุษจีน

(春节的信仰和禁忌Chunjie de xinyang he jinji)

    ข้อห้ามที่อยู่ในเทศกาลตรุษจีน มีดังนี้ คือ

  1. ห้ามทํางานบ้าน หรือปัดกวาดเช็ดถูบ้านในวันเที่ยว หรือวันขึ้นปีใหม่  ชาวจีนเชื่อว่าการทำความสะอาดบ้าน ปัด กวาด เช็ด ถู ล้างจาน หรือแม้แต่ทิ้งขยะในวันตรุษจีน เป็นการนำโชคลาภและเงินทองออกจากบ้าน ฉะนั้นพวกเขาจะไม่ทำความสะอาดบ้านทุกประเภทในวันปีใหม่เด็ดขาด เรียกได้ว่าถ้าหากจัดงานส่งท้ายปีเก่า ก็ต้องรีบเคลียร์ของก่อนเที่ยงคืน หรืออย่างมากสุดก็อาจจะแค่กวาดเศษฝุ่นไปกองรวมไว้มุมบ้านแล้วค่อยเคลียร์ทิ้งในวันถัดไป ซึ่งปกติแล้วชาวจีนมักจะทำความสะอาดบ้านครั้งใหญ่ก่อนวันปีใหม่อยู่แล้ว จึงไม่ค่อยมีปัญหาเรื่องความสกปรกมาก ส่วนระยะเวลาที่เหมาะจะกลับมาทำความสะอาดบ้านอีกครั้งก็คือ ตั้งแต่วันที่ 3 ของปีใหม่เป็นต้นไปนั่นเอง
  2. ห้ามสระผม คนจีนถือว่าการสระผมเป็นการชะล้างความโชคดี   
  3. หลีกเลี่ยงการใช้ของมีคมทุกชนิด ชาวจีนเชื่อว่าการใช้ของมีคมตัดสิ่งของในวันตรุษจีน เพราะเชื่อว่าเป็นการตัดสิ่งที่ดี หรืออนาคตที่ดีออกไป ฉะนั้นพวกเขาจะไม่ใช้ของมีคม เช่น มีดและกรรไกร ในวันปีใหม่เด็ดขาด 
  4. หลีกเลี่ยงการโต้เถียงทะเลาะวิวาท ห้ามด่าทอกัน ไม่พูดคําที่มีความหมายในทางลบ เพราะถือว่าไม่เป็นมงคล
  5. ห้ามซุ่มซ่าม ห้ามทําสิ่งของตกแตก ชาวจีนเชื่อว่าการทำของแตกในวันตรุษจีน เป็นลางร้ายที่บอกว่าครอบครัวจะแตกแยกหรือมีคนเสียชีวิต ฉะนั้นพวกเขาจะระมัดระวังและไม่ทำสิ่งของแตกหรือชำรุดเด็ดขาด แต่ถ้าหากเผลอทำพลาดโดยไม่ตั้งใจ ก็สามารถแก้เคล็ดได้ด้วยการพูดว่า “luo di kai hua” ที่แปลว่า ดอกไม้จะเบ่งบานเมื่อตกลงสู่พื้น
  6. ห้ามสวมใส่เสื้อผ้าชุดเก่า ในวันขึ้นปีใหม่ หรือวันเที่ยว จะต้องสวมใส่เสื้อผ้าชุดใหม่ที่ดูสะอาดตา
  7. ห้ามซักผ้าในวันตรุษจีน ชาวจีนเชื่อว่าเทพเจ้าแห่งน้ำเกิดในวันตรุษจีน ฉะนั้นการซักผ้าในวันตรุษจีนจึงเปรียบเสมือนเป็นการลบหลู่ท่านนั่นเอง
  8. ห้ามยืมเงินและให้ยืมเงิน ผู้ที่ยืมเงินจะต้องเป็นหนี้เป็นสินคนอื่นไปตลอด ส่วนผู้ที่ให้ยืมเงินก็จะมีคนเข้ามาขอยืมอยู่เรื่อยและสร้างความเดือดร้อนไม่จบสิ้น
  9. ห้ามร้องไห้ หากร้องไห้ในวันตรุษจีน เชื่อว่าจะมีเรื่องให้ต้องร้องไห้ไปตลอดทั้งปี
  10. ห้ามพูดสิ่งไม่ดี ในวันมงคลอย่างวันตรุษจีน การพูดสิ่งไม่ดีอย่างคำหยาบคาย คำโกหกนั้น จะนำพาสิ่งไม่ดีเข้ามาตลอดปี
  11. ห้ามซื้อรองเท้าใหม่ คำว่ารองเท้าในภาษาจีนนั้นออกเสียงคล้ายกับเสียงถอนหายใจ ดังนั้นการซื้อรองเท้าใหม่นั้นเชื่อกันว่าจะมีเรื่องให้ถอนหายใจไปตลอดปี
  12. ห้ามใส่เสื้อผ้าสีดำ เพราะจะโชคร้ายไปตลอดทั้งปี สีมงคลในเทศกาลตรุษจีนคือสีแดงสดใสที่เป็นตัวแทนของความโชคดี ดังนั้นเลือกใส่สีแดงจะดีกว่า

Facebook Comments

facebook comments

Back To Top